@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ตะวันทอแสง ตอนที่ 3 วันที่ 18 ก.ย. 55

อ่านละคร ตะวันทอแสง ตอนที่ 3 วันที่ 18 ก.ย. 55

ภค พงษ์เริ่มหงุดหงิดในใจที่รสาไม่ยอมทัก แล้วก็ยิ่งหงุดหงิดไปกันใหญ่เมื่อจับได้ว่ายูโฮะแอบให้นักข่าวถ่ายรูป เขาถามเธอเสียงแข็งว่าช่างภาพจากหนังสืออะไร ยูโฮะอึกอักว่าไม่รู้จัก และอ้างว่าตอนนี้พวกปาปารัสซี่เยอะแยะเต็มไปหมดตนจำไม่ได้หรอก พอเขาเขม่นตามองไม่เชื่อ เธอรีบแจกแจงต่ออย่างมีพิรุธ

“อ้อ บางทีเขาก็ให้พวกคนธรรมดาถ่ายแล้วส่งไปให้ก็มีนะคะ คนเมื่อกี้อาจจะเป็นคนที่บังเอิญเดินผ่านมาพอดีก็ได้ ยูโฮะว่าไม่มีอะไรหรอก พี่ภัคอย่าคิดมากเลยค่ะ”

“ผมไม่คิดมากแต่ไม่สบายใจ ถ้ามีภาพแอบถ่ายของผมกับคุณหลุดออกไป ผมคงไม่สะดวกใจที่จะไปไหนมาไหนกับคุณอีก ถ้ายังอยากเจอกัน อย่าให้รูปหลุดออกไปเป็นอันขาด ฝากเคลียร์ด้วย”



นักร้องสาวถึงกับสะดุ้งวาบ หน้าเสียทันที ภคพงษ์ขยับวางผ้าเช็ดปากไว้บนโต๊ะและบอกลาอย่างผู้ดี

“ผมอิ่มแล้ว ถ้าคุณอยากทานต่อก็เชิญตามสบาย ผมขอเสียมารยาทกลับก่อน”

เขาวางเงินไว้จำนวนหนึ่งก่อนจะลุกขึ้นท่ามกลางอาการเหวอของยูโฮะ ชีวินเห็นภคพงษ์เดินลิ่วมารีบกระซิบบอกรสาให้รู้ตัวเผื่อจะทักทาย แต่เปล่าเลย รสานั่งกินเฉยเหมือนไม่รู้ไม่เห็น ทั้งที่เขาเดินมาหยุดนิดหนึ่งข้างโต๊ะก่อนจะก้าวดุ่มๆออกไปด้วยความโมโห โดยมียูโฮะไล่ตามอย่างร้อนใจ

เมื่อชีวินถามรสาว่าไม่ทักเขาแบบนี้เขาจะโกรธหรือเปล่า รสาตอบโดยไม่ต้องคิดเลยว่าคงโกรธ

“อ้าว...แล้วทำไมไม่ทัก”

“ก็ตอนนี้หมดเวลางานแล้ว มันเป็นเวลาส่วนตัว”

“ระวังนะ ทำตัวหยิ่งแบบนี้เขาจะมาชอบ”

“ทฤษฎีตำราไหนไม่ทราบคะ”

“ก็วินเห็นตามละครไง นางเอกหยิ่งๆ พระเอกชอบ”

“แต่รสไม่ใช่นางเอกละคร แล้วคุณภคพงษ์ก็

ไม่ใช่พระเอกในสายตารส อีกอย่างเขาชอบผู้หญิงขาวๆ อวบๆเอ็กซ์ๆ ไอ้เก้งก้างอย่างรสเขาไม่สนใจหรอก”

“ขอให้จริงเหอะ” ชีวินดักคอ...รสายักไหล่เหมือนจะบอกว่าจริงอยู่แล้ว

ภคพงษ์ไม่สนใจยูโฮะ เขาบึ่งรถกลับบ้านและได้รับรายงานจากสายใจว่ารสาไม่ได้ทานอาหารเย็นที่ตนเตรียมไว้

“ผมทราบแล้ว...สำหรับพรุ่งนี้ฝากป้าใจเตรียมอาหารกลางวันไว้ให้คุณรสาด้วย บอกเขาว่าผมเชิญมาทานด้วยกัน”

“ค่ะ” สายใจรับคำทั้งที่ยังงุนงงว่าคุณหนูของตนรู้ได้ยังไงว่ารสาไม่ได้ทานอาหารเย็นที่นี่ เช่นเดียวกับปุยนุ่นที่ยืนอยู่ข้างๆ กังขาอยากรู้เหลือเกิน

กระทั่งเช้าวันต่อมา ทั้งคู่ก็ได้คำตอบจากรสาว่าตนกับภคพงษ์ไปเจอกันโดยบังเอิญที่ร้านอาหาร

“แหม...ช่างบังเอิญจังเลยนะคะ ถึงว่าตอนคุณภัคกลับมาป้ายังไม่ทันจะรายงาน คุณหนูก็ชิงตอบซะก่อน...อ้อ แล้วกลางวันนี้คุณรสามีนัดกับใครหรือเปล่าคะ”

“ไม่มีค่ะ”

“ดีเลยค่ะ เพราะคุณภัคเธอให้ป้าทำอาหารไว้ให้ แล้วก็เชิญคุณมาทานด้วยกัน”

“ทานด้วยกัน?”

“ค่ะ ทานกับคุณหนูน่ะค่ะ”

“แต่รสเกรงใจคุณป้า ไม่อยากทำให้ต้องวุ่นวายเตรียมอาหาร”

“ถ้าเกรงใจก็ต้องทานเยอะๆ ป้าจะได้ดีใจ แต่ถ้าคุณทานนิดๆหน่อยๆ หรือปฏิเสธไม่มาร่วมทานอาหารกับคุณหนู ป้าเสียใจ คิดว่าคุณรสาไม่อยากทานอาหารฝีมือป้า”

“เปล่านะคะ ป้าใจทำอาหารอร่อยมากค่ะ”

“ถ้าอร่อย...กลางวันนี้มาทานกับคุณหนูนะคะ ถ้าอาหารจัดเรียบร้อยแล้วจะให้ปุยนุ่นไปเชิญ ป้าขอตัวไปทำครัวก่อนนะคะ” สายใจรวบรัดเร็วจี๋จนรสาหมดทางปฏิเสธ เธอได้แต่ยืนครุ่นคิดด้วยความอึดอัด

ooooooo

รสาเริ่มงานด้วยการเดินตรวจตราห้องต่างๆในเรือนเล็กอย่างละเอียด จนมาหยุดที่ห้องนอนเก่าของภคพงษ์ ต้องแปลกใจกับกล่องไม้ขนาดย่อมในตู้ เธอหยิบมันออกมาแต่ยังไม่กล้าเปิดกลัวเสียมารยาท

ขณะกำลังลังเลว่าจะเปิดหรือไม่เปิดดี เสียงคนงานร้องเรียกรสาดังขึ้น เธอสะดุ้งเฮือกปล่อยกล่องในมือหล่นลงพื้นด้วยความตกใจ แล้วหันไปทักถามคนงานว่ามีอะไร

“ช่างที่จะมาทุบกำแพงในห้องนั่งเล่นมาแล้ว จะให้เริ่มเลยไหมครับ”

“เริ่มเลยจ้ะ เดี๋ยวรสตามลงไปดู”

คนงานรับคำแล้วกลับออกไป ส่วนรสาหันกลับมามองพื้นตรงหน้า พบว่ามีรูปถ่ายจำนวนมากกระเด็นจากกล่องเกลื่อนกลาด เธอหยิบดูทีละใบด้วยรอยยิ้มบางๆในความน่ารักน่าชังของเด็กชายภคพงษ์ แต่ก็เอะใจกับอีกสี่ห้ารูปที่มีร่องรอยโดนตัด เหมือนเป็นรูปครอบครัวสามคน แต่โดนตัดทิ้งออกไปหนึ่ง

“ใคร? ตัดทิ้งทำไม?” รสาพึมพำด้วยความแปลกใจ

พลันรสาต้องยุติความสงสัย เนื่องจากมีเสียงแหลมสูงของใครคนหนึ่งดังมาจากข้างล่าง

“ใครเป็นคนออกแบบ เรียกมาคุยกับฉันหน่อยสิ”


นักร้องสาวยูโฮะนั่นเอง เธอวางอำนาจราวกับเจ้าของบ้านใส่คนงานจนรสาต้องลงมาปรากฏตัวบอกว่าตนเป็นคนออกแบบและคุมงาน ยูโฮะมองรสาตั้งแต่หัวจดเท้าและย้อนขวับกลับมาที่หน้าอีกที

“เธอคือคนที่อยู่ในร้านอาหารเมื่อคืนนี้นี่”

“ใช่ค่ะ”

“แล้วทำไมเธอถึงไม่ทักทายพี่ภัค ทำเหมือนไม่รู้จัก ไม่มีมารยาท”

“ที่ดิฉันไม่ทักเพราะเห็นว่าคุณสองคนกำลังใช้เวลาส่วนตัวกันอยู่ ฉันไม่อยากรบกวน”

ยูโฮะยิ้มกว้างพอใจคำตอบที่มีเหตุผลดีน่าให้อภัย จากนั้นเธอคาดคั้นรสาให้รายงานมาว่าออกแบบบ้านไว้ยังไงบ้าง รสาได้ฟังถึงกับกลอกตาเบื่อหน่าย วันก่อนเพิ่งจะเคลียร์ไปคน วันนี้ดันโผล่มาอีกคน เธอจึงโบ้ยให้ไปถามภคพงษ์เอาเอง

“ฉันสั่ง เธอต้องทำ รายงานมาเดี๋ยวนี้” ยูโฮะแสดงอำนาจบาตรใหญ่ พอรสาไม่ปฏิบัติตามก็อ้างตัวเป็นแฟนของนายจ้าง รสาถึงกับเซ็งเป็ด พูดลอยๆว่าแฟนมาอีกคนแล้ว “อีกคน? หมายความว่ายังไง”

“เมื่อวานก็มีผู้หญิงมาบอกว่าเป็นแฟนคุณภคพงษ์ วันนี้คุณก็มาบอกว่าเป็นแฟนอีก นี่ถ้าฉันจะต้องรายงานต้องแก้ทุกอย่างตามที่แฟนคุณภคพงษ์ต้องการ ฉันคงจะต้องขอเงินเพิ่ม”

“นังนั่นมันเป็นแฟนตัวปลอม ฉันเป็นแฟนตัวจริง ต้องฟังฉันเท่านั้น”

รสาเอือมระอาใจ แต่แล้วคิดอะไรบางอย่างได้ แอบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดโทร.หาภคพงษ์ พร้อมกับเจรจากับยูโฮะไปด้วย “ได้ค่ะ ฉันจะฟัง คุณบอกความต้องการของคุณมาได้เลยค่ะ ฉันจะได้ใส่ลงไปในแบบ”

ยูโฮะยิ้มพอใจก่อนร่ายยาวว่าตนต้องการห้องนอนแบบอลังการ เตียงนอนต้องใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง ผนังเป็นสีทองหลุยส์ๆ เริดๆ ล้ำๆ นอนแล้วเหมือนตนเป็นเจ้าหญิงอยู่ในพระราชวัง ห้องน้ำก็ต้องแอบเซ็กซี่หน่อย ตนกับภคพงษ์จะได้มีกิจกรรมทำด้วยกัน

ภคพงษ์อยู่ในสายได้ยินหมดทุกอย่าง แต่ยูโฮะยังไม่รู้ตัว เพ้อเจ้อต่อไปอย่างเพลิดเพลิน

“ส่วนห้องจัดเลี้ยงก็ต้องเปิดโล่งๆกว้างๆ มีเวทีสำหรับให้ฉันกับเพื่อนๆจัดคอนเสิร์ตซ้อมเต้น แล้วก็ใช้แถลงข่าวเปิดอัลบั้มด้วย อ้อ...แล้วก็ต้องมีโรงหนังในบ้านด้วยนะ เพราะฉันไม่ชอบไปดูหนังข้างนอก มันไม่มีความเป็นส่วนตัว”

“มีอะไรอีกไหมคะ”

“ตอนนี้คิดได้แค่นี้ เอาไว้ถ้านึกอะไรออก ฉันจะบอกอีกที”

“ได้ค่ะ” รสารับคำแล้ววางโทรศัพท์มือถือไว้บนโต๊ะพร้อมกับเปิดลำโพงสปีกเกอร์โฟน “คุณได้ยินความต้องการทั้งหมดของแฟนคุณแล้วนะคะ”

ยูโฮะตกใจหน้าเหลอหลา รสายังคงสนทนากับภคพงษ์ต่อไปว่า ถ้าเขาต้องการให้แก้แบบตามที่แฟนของเขาสั่งก็บอกมา ตนจะรีบทำให้แต่คงต้องขอคิดเงินเพิ่มอีกเท่าตัว...ยูโฮะโกรธมากที่รสาแอบโทร.หาภคพงษ์ จึงโวยวายทันที่รสาวางสาย แต่อีกไม่กี่อึดใจก็เป็นฝ่ายหน้าซีดเสียเองเมื่อเจ้าของบ้านตัวจริงโทร.มาสั่งให้เธอออกจากเรือนเล็กเดี๋ยวนี้

“แต่พี่ภัคคะ...ฟังยูโฮะก่อนนะคะ”

“ออกมา และห้ามเข้าไปอีกถ้าผมไม่อนุญาต...กรุณาอย่าให้ผมต้องพูดซ้ำเป็นครั้งที่สาม”

“ค่ะๆ ไปแล้วค่ะ” ยูโฮะเดินกระแทกส้นออกไปด้วยความไม่พอใจ ในขณะที่ปากยังคงออดอ้อนเสียงหวานจะอธิบายเหตุผล แต่ชายหนุ่มกดสายทิ้งทันที แล้วก็นั่งอมยิ้มที่รสาแสบไม่ใช่เล่น

ooooooo

ใกล้เวลาอาหารกลางวัน รสาจะออกไปกินข้างนอก แต่สายใจไม่ยอมเพราะภคพงษ์กำชับให้ทำอาหารเผื่อเดี๋ยวเขาจะมากินด้วย ตอนนี้กำลังขับรถกลับจากบริษัท

“แต่รสเกรงใจ อีกอย่างก็เหมือนกับที่เคยบอกป้าใจน่ะค่ะ ทานขาวกับคุณหนูของป้าทีไร รสทานไม่ค่อยสะดวกทุกที”

“ใหม่ๆก็แบบนี้แหละค่ะ พอทานกันบ่อยๆเดี๋ยวก็ชิน”

“ไม่ไหวมั้งคะป้า นานๆทีดีกว่าค่ะ”

“พูดแบบนี้แสดงว่ายอมรับคำเชิญแล้วใช่ไหมคะ” รสาเลิกคิ้วงงๆ สายใจจึงทบทวนให้ฟัง “ก็คุณรสาบอกว่านานๆทานที งั้นครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นครั้งที่นานๆทีนะคะ”

“ใช่ค่ะ ป้าใจพูดถูก นะคะคุณรสา อยู่ทานเป็นเพื่อนคุณภัคเถอะค่ะ เธอไม่ค่อยเอ่ยปากชวนใครนะคะ”

ปุยนุ่นช่วยอีกแรง แต่รสาก็ยังลังเลอยู่ดี สายใจเลยย้ำอีกทีอย่างขอร้อง “ทานเถอะค่ะ คิดซะว่าช่วยป้า ป้าจะได้ไม่โดนคุณหนูเอ็ด”

เพื่อเห็นแก่สายใจ ในที่สุดรสาก็ยอมร่วมโต๊ะอาหารกับภคพงษ์ เมื่อเขารู้เหตุผลนี้จึงออกตัวกึ่งประชดเธอว่าไม่ต้องห่วง แค่ทานข้าวกับตนไม่มีใครคิดไปทางชู้สาว รสาถึงสะอึก รีบแก้ว่าตนไม่ได้ห่วงเรื่องนั้น

“ไม่ห่วงก็ดี จะได้ไม่มีข้ออ้างในการปฏิเสธครั้งต่อไป”

“ครั้งต่อไป?”

“ใช่ ตลอดเวลาที่คุณทำงานที่นี่ ผมจะให้ป้าใจทำอาหารไว้ให้วันละสองมื้อ คือกลางวันและเย็น ถ้าผมอยู่ก็ทานด้วยกัน ถ้าผมไม่อยู่ก็เชิญคุณตามสบาย”

“ดิฉันยังไม่ได้รับปากนะคะ”

“แต่คุณก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ”

รสาชะงักพูดไม่ออก ภคพงษ์หันไปทางสายใจและปุยนุ่นที่ยืนยิ้มอยู่ไม่ห่าง สั่งให้ตักข้าวได้...จากนั้น

รสาก็รีบกินจะได้ออกไปพ้นตรงนี้เสียที แต่ดูเหมือนเขารู้ทันและอยากแกล้ง พอได้ยินเธอรับโทรศัพท์จากชีวินที่มาถึงเรือนเล็กแล้วโดยการนำพาของนายเปลี่ยน เขาจึงไม่รอช้าที่จะรั้งเธอไว้ด้วยการชวนทานของหวานที่สายใจตั้งใจทำและหาทานไม่ได้ง่ายๆ

สายใจเออออไปกับเจ้านายว่าตนทำขนมเสน่ห์-จันทร์กับทองเอก ส่วนปุยนุ่นสาระแนว่าป้าใจอบเทียนไว้ตั้งแต่เมื่อคืน หอมมากเลย รสาฟังแล้วก็เริ่มลำบากใจ

“ปุยนุ่นรีบไปยกมาไป คุณรสาคงจะอยากทานแล้ว” ภคพงษ์รวบรัดหน้าตาเฉย รสาท้วงเบาๆว่าตนยังไม่ได้พูดเลยสักคำ เขาตอบกลับอย่างเจ้าเล่ห์ว่า “ผมเห็นคุณกลืนน้ำลาย ผมก็รู้แล้ว หรือว่าคุณไม่อยากทานขนมที่ป้าใจตั้งใจเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อคืน”

รสาสะอึกเล็กน้อย เห็นสายใจส่งยิ้มให้ก็พูดไม่ออก จำยอมนั่งกินต่ออย่างรีบๆ กินเสร็จขอตัวไปทำงาน แต่ภคพงษ์ยังรั้งอีก คะยั้นคะยอให้เธอดื่มกาแฟก่อน แล้วก็รอสายใจจัดขนมใส่กล่องเอากลับไปบ้านด้วย...

ที่ออฟฟิศของพิทยาวันนี้ค่อนข้างเงียบ พนักงานส่วนใหญ่ออกไปดูงานข้างนอก แต่สำหรับชีวินที่คัพเค้ก

รายงานว่าไปหารสาที่บ้านภคพงษ์เพื่อเตรียมงานออกแบบสวน พิทยาไม่เข้าใจทำไมต้องรีบ เพราะอีกเป็นเดือนกว่าจะเริ่มจัดสวน

“ไปเฝ้าของรักของหวงมั้งคะ” คัพเค้กพูดขึ้นลอยๆ พิทยาค้อนปะหลับปะเหลือก สั่งเลขาฯจอมแบ๊วอธิบายมาอย่างละเอียด “ไม่ได้หรอกค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว คัพเค้กไม่ยุ่ง ขอโทษจริงๆนะคะ แต่มันเป็นจรรยาบรรณในวงการค่ะ”

“มาทำเป็นมีจรรยาบรรณใส่ ตกลงจะรู้เรื่องไหมเนี่ย” พิทยาบ่นไล่หลังคัพเค้กที่เดินนวยนาดจากไป

ทันใดนั้นมีเสียงข้อความเข้ามือถือพิทยา เขาหยิบมาดูก่อนจะอุทานอย่างคาดไม่ถึง “คุณภคพงษ์!!”

ภคพงษ์แอบส่งข้อความบางอย่างถึงพิทยา เป็นจังหวะที่รสาดื่มกาแฟเสร็จ และสายใจก็จัดขนมใส่กล่อง เรียบร้อยพอดี รสาไหว้ขอบคุณก่อนรับมาแล้วทำท่าจะออกเดิน

“เดี๋ยว...” ภคพงษ์ส่งเสียง...เธอชะงักและชักสีหน้าด้วยความรำคาญ

“อะไรอีกคะคุณ ทั้งอาหาร ของหวาน กาแฟ ดิฉันก็ทานจนครบแล้ว คุณยังต้องการให้ดิฉันทานอะไรอีก”

“หมดเวลาอาหารแล้ว แต่คุณต้องออกไปทำธุระข้างนอกกับผม”

“ทำธุระข้างนอก ธุระอะไรไม่ทราบ ดิฉันเป็นมัณฑนากรนะคะ ไม่ใช่เลขาฯ”

อ่านละคร ตะวันทอแสง ตอนที่ 3 วันที่ 18 ก.ย. 55

ละครเรื่อง ตะวันทอแสง บทประพันธ์โดย : ปิยะพร ศักดิ์เกษม
ละครเรื่อง ตะวันทอแสง บทโทรทัศน์โดย : ณัฐิยา ศิรกรวิไล
ละครเรื่อง ตะวันทอแสง กำกับการแสดงโดย : พีรพล เธียรเจริญ
ละครเรื่อง ตะวันทอแสง ดำเนินการผลิตโดย : อรพรรณ วัชรพล(โพลีพลัส จัดให้)
ละครเรื่อง ตะวันทอแสง ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และวันอาทิตย์ เวลา 20.25 น.
ละครเรื่อง ตะวันทอแสง ออกอากาศทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ