@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ท่านชายในสายหมอก ตอนที่ 5 วันที่ 13 ก.ย. 55

อ่านละคร ท่านชายในสายหมอก ตอนที่ 5 วันที่ 13 ก.ย. 55

สายตาทุกคนยิ้มอย่างมุ่งมั่น...หลังจากนั้น ขิงเอาชุดของโซว์มาแขวน ปัดเศษด้ายท่าทางหงุดหงิด “เชอะ คิดว่าคนอย่างฉันจะหึงนายงั้นเหรอ ไม่มีวันซะหรอก”

โซว์มายืนมองยิ้มๆข้างหลัง พอเห็นเธอจะเดินไป ก็คว้ามือไว้ เธอตกใจเอ็ดให้ปล่อย ไม่อยากเดือดร้อนเหมือนเมื่อวาน โซว์รีบขอโทษที่เป็นต้นเหตุให้เธอโดนตี ขิงถามแค่นี้ใช่ไหม

“ยัง ยังไม่หมด ฉันอยากจะขออะไรเธออย่างด้วย”

“นายนี่หน้าด้านจริงๆ ทำให้ฉันเดือดร้อนแล้วยังจะกล้ามาขออะไรอีก อยากจะขอก็ไปขอรุ้งเขาสิ เขา คงเต็มใจทำให้”

“ไม่ได้หรอก สิ่งที่จะขอมีเธอคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้”

ขิงขมวดคิ้ว โซว์จ้องหน้าเดินเข้าหา ขิงถอยหนีจนชนกำแพง เขายื่นหน้าเข้ามายิ้มอ้อนวอน “ตอนนี้ฉันตื่นเต้นมากๆ กลัวว่าจะทำไม่ได้ ฉันอยากให้เธอให้กำลังใจ”



ขิงใจอ่อนลูบบ่าเขาปลอบ “นายต้องมั่นใจในตัวเองว่าทำได้ สำหรับฉันไม่มีแม้วินาทีเดียวที่จะไม่เชื่อมั่นในตัวนาย” พูดจบก็อายตัวเอง วิ่งหนีออกไป

โซว์มองตามยิ้มๆพึมพำถ้าไม่ใช่เพราะเธอ คน อย่างตนจะไม่ยอมทำอะไรอย่างนี้แน่...ในขณะที่โซว์ยังเดินไปเดินมาด้วยความกังวล แก้วกับยอดแอบเข้ามาหา ทำทีเป็นพูดจาดีด้วยว่าคิดได้แล้ว ไม่น่าทำเรื่องงี่เง่าที่จะให้ขิงแต่งงานด้วย โซว์ถามหมายความว่าจะไม่กลั่นแกล้งยายขมอีก แก้วพยักหน้าแถมบอกว่าเสร็จการแสดงลิเกจะเข้าไปขอขมายายขมทุกเรื่อง

โซว์หลงเชื่อ พอแก้วเสนอวิธีแก้ความตื่นเต้นที่นักร้องนักแสดงใช้กัน เขาก็สนใจ แก้วส่งขวดยาเล็กๆให้ บอกดื่มให้หมดจะไม่มีความตื่นเต้นอีก โซว์ลังเล แก้วจึงให้ยอดลองดื่มให้ดู โซว์เห็นยอดไม่เป็นอะไร จึงรับขวดยามาแล้วขอบอกขอบใจแก้ว

ทุกคนเตรียมพร้อมจะออกแสดง ตุ๊กเห็นแม่ยกถือพวงมาลัยติดเงินมากมายก็บอกโซว์ว่ารวยแน่ๆคราวนี้อย่าลืมแบ่งตนบ้าง โซว์ยังไม่เข้าใจนึกว่าพวงมาลัยรถ จะรวยได้อย่างไร

พอตุ๊กออกแขก ร้องได้สนุกสนาน คนดูหัวเราะกันครืน ยายขมเตือนโซว์ให้เตรียมพร้อม เขาไม่อยากให้ยายผิดหวัง ตัดสินใจดื่มยาแก้ตื่นเต้นของแก้วพรวดหมดขวด...สักพักก็เริ่มมึน เดินโซเซออกมาหน้าเวที เกิดอารมณ์คึก ร้องลิเกขึ้นมาใหม่ที่ไม่ใช่เรื่องจันท–โครพ ตุ๊กตกใจพยายามร้องช่วยดึงเข้าเรื่อง ถึงคิวรุ้งรำออกมาก็ช่วยดึงเขาให้เข้าที่เข้าทาง แต่กลับโดนโซว์ร้องลิเกเป็นภาษาอังกฤษ คนดูเริ่มงงและโห่ร้อง ขิงรีบออกมาแก้สถานการณ์ ดึงโซว์ให้กลับมานั่ง แต่เขากลับวิ่งวุ่นชนรุ้งหล่นเวทีไป คนดูเริ่มขว้างปาของขึ้นมาบนเวที เป่าปากโห่ ยายขมยืนเศร้ามันเกิดอะไรขึ้น ขณะที่แก้วหัวเราะสะใจ ส่วนยอดหลับพิงเก้าอี้เพราะฤทธิ์เหล้าที่ดื่มเข้าไป

คืนนั้น ขิงต้องจัดการคืนเงินให้คนดูทุกคน แก้วเข้ามาเยาะเย้ย และยุชาวบ้านให้เรียกค่าปรับด้วย ยายขมเจ็บใจ

ooooooo

พัชรีแต่งตัวเป็นทอมเข้าไปในผับที่สุเมธเป็นผู้จัดการ ทำทีเป็นว่าเคยติดต่องานกัน พนักงานในร้านบอกว่าเขาถูกยิงตายไปแล้ว เธอกำลังจะซักถามต่อ พอดีเห็นอำนาจเข้ามา อำนาจมองดูเธอท่าจะ จำได้ เธอจึงรีบหลบกลับออกมา อำนาจมารายงานชรินทร์ว่ามีนักข่าวเข้ามาป้วนเปี้ยน ตนจำได้ว่าเป็นคนเดียวกับที่สัมภาษณ์ติ๊งโหน่งที่วัด ชรินท์สั่งเก็บทันที

ปีเตอร์ตกใจเมื่อรู้ว่าพัชรีทำการเสี่ยงขนาดนั้น ก็ให้เธออยู่เฉยๆเอาข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์กัน พัชรียังคงเชื่อว่าชรินทร์ไม่น่าจะเป็นฆาตกร เพราะเขาเป็นคนสนุกสนาน ชอบแจกเงินลูกน้อง ปีเตอร์แย้งว่าอย่ามองคนเพียงด้านเดียว ทุกคนมีด้านมืด ต้องสืบกับคนสนิทคือคนในครอบครัว พัชรีรีบบอกว่างานนี้เขาคงต้องลงมือเอง ปีเตอร์กลืนน้ำลายเอื๊อกด้วยความสยอง...

วันรุ่งขึ้น โซว์ตื่นขึ้นมารู้สึกปวดหัวอย่างมาก เห็นรุ้งนอนอยู่ข้างๆก็ตกใจ รุ้งยังอยู่ในชุดลิเก หน้าตายังไม่ได้ล้างเครื่องสำอาง เขาถอยหนีสุดขอบเตียง รุ้งโวยวายอย่าบอกว่าจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ โซว์หน้าซีดคิดว่าทำอะไรไม่ดีกับรุ้ง รุ้งคร่ำครวญ

“คิดแล้วเชียวว่าทำดีไม่ได้ดี อีรุ้งนะอีรุ้ง อุตส่าห์ทั้งดึงทั้งลากกลับมา ดูแลเช็ดตัว เช็ดหน้าให้ ถ้าไม่ได้รุ้งป่านนี้เสด็จพี่คงนอนตากยุงอยู่ที่โรงลิเกโน่น”

“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง ไอ้เราก็นึกว่า...โล่งอก แล้วมันเกิดอะไรขึ้นเหรอ ทำไมเจ้าต้องพาเรากลับมาที่นี่ด้วย”

“นี่เสด็จพี่จำอะไรไม่ได้เลยเหรอเพคะ”

โซว์กับรุ้งมาที่โรงลิเก เห็นความเสียหาย ข้าวของล้มระเนระนาด ก็ถามว่าทำไมเป็นแบบนี้ ขิงกับตุ๊กโวยใส่ ทำเป็นความจำเสื่อมเพื่อหนีความผิดหรือ รุ้งเล่าว่าเขาเหมือนผีบ้าเข้าสิง

“ฉันจำอะไรไม่ได้จริงๆ ฉันจำได้แค่ ไอ้แก้วเอาอะไรมาให้กินก็ไม่รู้ พอกินเข้าไปก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย”

ทั้งขิงและตุ๊กสงสัย รีบถามรูปร่างลักษณะบรรจุภัณฑ์ เขาอธิบายว่าเป็นขวดเล็กๆธรรมดาๆทั่วไป ตุ๊กให้ช่วยหาว่าหน้าตาอย่างไร โซว์ค้นหาตามพื้นจนเจอ ตุ๊กดมดูถึงกับผงะ มันคือเหล้าโรงแบบแรง ขิงโมโหมาก เอาขวดเหล้ามาให้ยายขม แต่ยายก็อดตำหนิโซว์ไม่ได้ ที่โง่ให้เขาหลอก ถึงจะรู้ว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่ความเสียหายครั้งนี้มันคงฟื้นกลับมาได้ยาก ให้ทุกคนเตรียมตัวย้ายออกจากที่นี่ ขิงทั้งโกรธทั้งแค้น

ด้านปีเตอร์ เตรียมพร้อมเหมือนออกศึก พัชรีแต่งตัวเป็นชายผู้ติดตามมาที่บ้านชรินทร์ เขาอดถามเธอไม่ได้ว่าทำไมต้องกลับมาที่นี่อีก เธอตอบว่าถ้าอยากได้ลูกเสือก็ต้องเข้าถ้ำเสือ

“เธอก็พูดได้นี่ เธอไม่ต้องเสี่ยงต่อการถูกคุกคามทางเพศแบบเรานี่”

ไม่ทันขาดคำ ติ๊งโหน่งกรี๊ดกร๊าดออกมาต้อนรับ พอรู้ว่าชรินทร์กับคุณหญิงไม่อยู่ พัชรีก็ยุติ๊งโหน่งให้ชวนเจ้าชายขึ้นไปเล่นอะไรสนุกๆบนห้อง ปีเตอร์ถลึงตาใส่พัชรี เธอขยิบตา

“ไปเถอะเพคะ เดี๋ยวทางนี้หม่อมฉันจะจัดการเอง”

ปีเตอร์กลั้นใจยอมไปกับติ๊งโหน่ง จากนั้น พัชรีก็แอบเข้าไปในห้องทำงานชรินทร์ เพื่อหาหลักฐานว่าเขาเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมครั้งนี้หรือไม่ กำลังจะได้ความ อำนาจแอบเข้ามาคุยโทรศัพท์ ดีที่พัชรีหลบซ่อนใต้โต๊ะได้ทัน แล้วเธอก็ได้ยินอำนาจคุยงานเสียงเครียดหลังจากคุยกับหวานใจเสียงอ่อนเสียงหวานแล้วว่า

“ทุกอย่างเรียบร้อยไหม แล้วทำไมพวกมึงถึงไม่จัดการมันไปวะ ถ้ามันมีปัญหามากนักก็จัดการมันไปเลย พวกแกก็เห็นแล้ว ไอ้นั่นมันเป็นยังไง...แค่นี้ก่อนนะ” อำนาจหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงหัวโขกโต๊ะของพัชรี เขาขยับเข้ามาจะก้มดูใต้โต๊ะ

พลันได้ยินเสียงร้องของติ๊งโหน่ง เขาจึงรีบว่ิงออกไป พัชรีโล่งอก...ขณะนั้น ปีเตอร์กำลังโดนติ๊งโหน่งปลุกปล้ำ แทบจะพลาดท่าเสียที อำนาจโผล่พรวดเข้ามา ปีเตอร์ฉวยโอกาสผลักเธอกระเด็นแล้วทำทีบ่นว่ามีคนขัดจังหวะ หมดอารมณ์จะกลับ เขาเดินดุ่มๆลงมาข้างล่าง พัชรีวิ่งเข้ามา อ้างว่าไปห้องน้ำมา อำนาจมองอย่างสงสัยเพราะทางนั้นไม่มีห้องน้ำ

ทั้งสองกลับมาถึงโรงแรม พัชรีจูงมือปีเตอร์วิ่งเข้าที่ล็อบบี้ ต่างหยุดถอนใจ ปีเตอร์บ่นไม่ไหวแล้ว ใจหายใจคว่ำ พัชรีแย้ง

“เจ้าชายจะทรงตื่นเต้นทำไมล่ะเพคะ คนที่เสี่ยงน่ะหม่อมฉันคนเดียว”

“ดีนะ ที่เจ้ารอดมาได้” ปีเตอร์นึกได้ว่าจริง

“ก็เกือบไปแล้วเหมือนกัน...เจ้าชายก็โชคดีนะเพคะ ที่รอดมาได้”

ปีเตอร์พยักหน้า ตัวเองก็เกือบไม่รอดจากติ๊งโหน่ง ทั้งสองยิ้มให้กันอย่างหวานชื่น พลันเสียงลัดลดาดังขัดจังหวะขึ้น “เจ้าชายเพคะ...เจ้าชาย”

“ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก” ปีเตอร์บ่นอุบทำหน้าเซ็ง

ลัดลดาเข้ามาเกาะแขนถามหายไปไหนมา ตนนั่งรอทั้งวัน เขาตอบอย่างเซ็งๆว่าไปทำธุระมา ลัดลดารีบเอ่ยปากเชิญไปงานเปิดโรงแรมเครือเจริญวัฒน์ของตน ที่เพชรบุรี ปีเตอร์ทำหน้างงกระซิบถามพัชรีว่าเพชรบุรีคืออะไร

“เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีทะเลสวยงามมากพะยะค่ะ เหมาะแก่การไปเที่ยวชมบิกินีของสาวๆมากที่สุด”

ปีเตอร์ตาโต ตอบตกลงทันที พรุ่งนี้ให้มารับ ลัดลดาดีใจจะขึ้นไปช่วยเก็บกระเป๋า ปีเตอร์ขยาดรีบทำเป็นปวดท้องขอตัวไปเข้าห้องนํ้าแล้ววิ่งไปทันที พัชรีรีบตามไป ลัดลดายิ้มกริ่ม วันนี้ปล่อยไปก่อน แต่พรุ่งนี้ไม่รอดแน่

ขึ้นมาบนห้องพักได้ ปีเตอร์ก็บ่น ทำไมถึงไม่มีผู้หญิงสวยๆมาตามจีบตนบ้าง มีแต่ช้างนํ้ากับนางงามพลาสติก น่าเบื่อ พัชรีขำแต่ก็เตือนสติว่า ทั้งสองอาจจะนำเขาไปสู่สิ่งที่ค้นหาอยู่ก็ได้

“แสดงว่าเจ้าไปรู้อะไรดีๆมาเหรอ”

“หม่อมฉันได้ยินนายอำนาจอะไรนั่น คุยโทรศัพท์กับใครไม่รู้ พูดอะไรแปลกๆเหมือนจะจัดการใคร”

“แล้วไอ้จัดการใครนี่มันหมายความว่ายังไง”

“ก็หมายความว่า ถูกเอาไปฆ่าไงเพคะ”

“ฮ้า...งั้นก็แสดงว่า บางทีท่านชรินทร์อาจจะเป็น...”

“เรายังสรุปอะไรไม่ได้หรอกเพคะ จนกว่าเราจะได้หลักฐานมากกว่านี้ แต่ตอนนี้เราต้องห้ามทำอะไรที่มันกระโตกกระตาก เพราะไม่อย่างนั้น พวกมันอาจจะสงสัยเราได้”

ปีเตอร์กุมมือพัชรี “เจ้าช่างเป็นยอดหญิงจริงๆ ถ้าไม่มีเจ้าเราคงลำบากแย่”

พัชรีเขินอาย ปีเตอร์ทำตาอ้อนขอให้เธอช่วยอีกเรื่อง คือพรุ่งนี้ให้ไปเป็นไม้กันหมา เพราะสังหรณ์ใจว่าถ้าไปคนเดียวจะสูญเสียสิ่งที่รักษามานาน พัชรีอมยิ้มไม่อาจปฏิเสธได้

ooooooo

แค้นใจไม่หายที่แก้วมาทำให้การแสดงลิเกพังไม่เป็นท่า ขิงบุกเดี่ยวไปเอาเรื่องแก้วเสียสะบักสะบอมกลางตลาด กลับมาด้วยท่าทางหงุดหงิด ยายขมแปลกใจถามหลานสาวไปไหนมา

“ไปสั่งสอนคนชั่วนิดหน่อย แล้วนี่เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมานั่งหน้าเครียดกันอย่างนี้”

“ก็ไอ้โซ่น่ะสิ มันบ้าไปใหญ่แล้ว อยู่ดีๆก็บอกว่าจะร้องลิเกที่ตลาด” ตุ๊กสาธยาย

ขิงหันมาถามโซว์ “นายเป็นอะไร อาหารไม่ย่อยหรือกินยาไม่ได้เขย่าขวด ถึงได้คิดจะทำอะไรพิเรนทร์ๆแบบนั้น”

“ไม่เห็นจะพิเรนทร์ตรงไหน พวกนักดนตรีเปิดหมวกเขาก็ทำกันทั้งนั้น” โซว์โต้

ขิงว่าพวกตนไม่ใช่ แต่โซว์เห็นว่าไม่ต่างกัน ตน เพียงอยากจะแก้ตัวที่ทำพลาดเมื่อวาน ตนจะทำให้ทุกคนกลับมาดูลิเกให้ได้ ตุ๊กถามมีแผนอะไร โซว์ชี้ที่หัวตัวเองว่ามันอยู่ในนี้ ตนขอแค่อาสาสมัครร่วมด้วยเท่านั้น ขิงกับรุ้งถอยออก ยายขมเคาะหัวด้วยไม้คู่ชีพคนละโป๊ก

“พวกแกสองคนไม่ต้องหนีไปเลยนะ พวกแกสองคนต้องไปช่วยกู้ชื่อเสียงของคณะลิเกของเรากลับมาให้ได้” ยายขมประกาศมุ่งมั่น

ตุ๊กเอาไม้เคาะปี๊บดังโป๊กๆ เพื่อเรียกความสนใจของผู้คนในตลาด “เจ้าข้าเอ๊ย เร่เข้ามา คณะลิเกยายขมจะมาเปิดวิกให้ท่านดูที่ตลาดแห่งนี้ รับรองว่าท่านจะไม่ผิดหวังซ้ำสองแน่”

ผู้คนที่ผ่านไปมาเบ้หน้า บางคนสบถออกมาว่าลิเกห่วยๆ ไม่มีใครอยากดู ตุ๊กหน้าเจื่อนหันไปส่งสัญญาณให้ออกมาช่วยกันบ้าง ขิงถามโซว์จะทำอย่างไรก็ทำ โซว์ตัดสินใจก้าวออกมาแล้วเริ่มร้องลิเกกลางถนน พร้อมทั้งรำอย่างอ่อน ช้อยสวยงาม ผู้คนเริ่มหยุดดู แล้วรุมล้อมเข้ามามากขึ้นๆ เหล่าแม่ยกกรูมากอดและคล้องพวงมาลัยติดเงินให้โซว์ รุ้งไม่พอใจ ห้ามไม่ให้ใครหอมแก้มโซว์ ตุ๊กเอ็ดรุ้งให้หยุด โวยวาย

“แกไม่เห็นเหรอว่าชาวบ้านหันกลับมาสนใจไอ้โซ่อีกครั้ง”

“สนใจก็ดี แต่ฉันหวงนี่” รุ้งกระฟัดกระเฟียด

ขิงกระซิบตุ๊กไม่คิดว่าโซว์จะทำสำเร็จ สองคนมองโซว์ที่กำลังอ้อนบรรดาแม่ยก...ทั้งสามกลับมาเอาเงินให้ยายขม ยายนับได้จำนวนเกือบสองพันบาท ทั้งขิง ตุ๊ก และรุ้งตบมือดีใจกันยกใหญ่ ยายขมปราม แค่นี้ยังห่างไกลพระเอกเงินล้าน โซว์รับปากยาย ตนจะเป็นพระเอกเงินล้านให้ได้ ยายขมยิ้มน้ำตาคลอ ถ้าจริงตนก็จะมีเงินใช้หนี้เสียที

คืนนั้น ขิงเดินเข้ามาเห็นโซว์นั่งครุ่นคิดอะไรอยู่ริมน้ำ จึงเปรยว่า “จริงๆนายไม่ต้องพยายามขนาดนั้นก็ได้เรื่องหนี้สินเป็นเรื่องที่พวกเราก่อเอง พวกเราก็ต้องรับผิดชอบเอง”

“ถ้าผมมีเงินจ่ายค่าจ้างให้คุณ พวกคุณก็คงไม่ลำบากขนาดนี้”

“จะไปรื้อฟื้นอีกทำไม เรื่องมันผ่านไปแล้ว ไว้ให้เรื่องทุกอย่างมันจบ ฉันมั่นใจว่านายจะเอาเงินมาจ่ายฉันแน่ใช่ไหม”

“ผมจะให้คุณมากกว่าที่คุณคิดอีก...”

“ถามจริงๆเถอะ นายคิดถึงบ้านไหม”

โซว์เศร้าลงยอมรับว่าคิดถึงมาก ป่านนี้ทุกคนจะเป็นอย่างไรกันบ้างก็ไม่รู้ คงวุ่นวายน่าดู โซว์คิดถึงคำตรัสของเสด็จแม่วันที่เขาจะเดินทางมาเมืองไทย

“เจ้ารู้ใช่ไหมว่า ถ้าเจ้ากลับมาครั้งนี้ ชีวิตของเจ้าจะต้องเปลี่ยนไป เจ้าต้องทำเพื่อคนอื่น ไม่ใช่ทำเพื่อตัวเองอีกต่อไปแล้ว” นึกแล้วทำให้เขาหนักใจ

ตุ๊กเห็นโซว์เศร้าๆ จึงทำตลกให้หัวเราะ แต่เขาก็นิ่งเฉย จึงถามขิงว่าโซว์เป็นอะไร เธอสงสัยว่าเขาจะคิดถึงบ้าน โซว์เลี่ยงมายืนมองพระจันทร์ ไม่ทันไร มีเสียงแตรรถจักรยานยนต์ดัง เขาหันไปมอง เห็นขิงนั่งบนรถ ตบเบาะหลังให้เขามาซ้อนท้าย

“เอ้า ทำงงๆ เร็วๆสิ ช้าอดรถออกไม่รู้ด้วยนะ”

โซว์เดินไปนั่งงงๆ แล้วถามจะพาตนไปไหน ขิงตอบว่าไม่ต้องถามเดี๋ยวรู้เอง เธอบิดคันเร่งออกไป มาจอดริมทะเลยามค่ำคืน ขิงจูงมือโซว์เดินตามหาดทราย ให้เขาได้สัมผัสน้ำทะเล

“เวลาฉันเครียดหรือมีเรื่องอะไรไม่สบายใจ ฉันก็จะมาตะโกนระบายความอึดอัดที่นี่...ตามสบายนะ” ขิงตบไหล่โซว์เบาๆ ก่อนจะเดินออกไป

โซว์มองท้องทะเลที่กว้างใหญ่ ก่อนจะตะโกนออกไปสุดเสียง “ทำไมมันต้องเป็นอย่างนี้ด้วย มันผิดมากนักเหรอที่ผมแอบหนีมาที่นี่ ทำไมต้องลงโทษให้ผมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย”

ขิงได้ยินเสียงปลดปล่อยอารมณ์ของโซว์แข่งกับเสียงคลื่นแล้วรู้สึกสงสาร ตนช่วยได้เท่านี้ หวังว่าเขาคงจะดีขึ้น...

ooooooo

วันต่อมา ปีเตอร์มาตัดริบบิ้นเปิดโรงแรมให้กับวิชัย เหล่าคุณหญิงคุณนายปรบมือแสดงความยินดีกันพร้อมหน้า พัชรียืนอยู่ห่างๆ ลัดลดารีบเข้ามาเกาะแขนยืนเคียงข้างปีเตอร์ ให้แขกในงานชื่นชมว่าเป็นคู่ที่เหมาะสม วิชัยอวดอ้างว่า

“ถ้าตระกูลเจริญวัฒน์ของเราได้ดองกับทางนิวแลนด์แล้ว รับรองเจริญวัฒน์ของเราต้องรุ่งเรือง กลายเป็นบริษัทใหญ่ติดอันดับโลกแน่ๆ”

“แต่คุณวิชัยก็ต้องรีบหน่อยนะคะ ได้ข่าวว่าทางคุณชรินทร์ก็ส่งลูกสาวตามประกบเจ้าชายเหมือนกัน” แขศิริ ไฮโซในงานเตือน

“ไม่อยากคุย เจ้าชายไม่ตาต่ำ เลือกยัยช้างนั่นแทนลูกสาวคนสวยของผมหรอกครับ” วิชัยมองลูกสาวที่ตามเกาะเจ้าชายอย่างภูมิใจ ไม่ได้สังเกตสีหน้าของปีเตอร์เลยว่าเซ็งสุดขีด

พอมีโอกาส ปีเตอร์มาดึงพัชรีที่กำลังจะหยิบอะไรกิน ลากออกไปจากโรงแรม โบกรถให้คนขับพาออกไปทันที ลัดลดาเห็นว่าเจ้าชายไปกับผู้หญิงคนหนึ่ง ก็ไม่พอใจ สั่ง รปภ.เอากล้องวงจรปิดมาเปิดดูว่าผู้หญิง คนนั้นเป็นใคร

รถที่ปีเตอร์นั่งออกจากโรงแรม แล่นไปตามถนนที่สองข้างทางมีแต่ท้องทุ่ง พัชรีเปรย ถ้าใครรู้ว่าเจ้าชายแห่งนิวแลนด์ต้องวิ่งหนีผู้หญิงหัวซุกหัวซุนแบบนี้ มีหวังโดนหัวเราะเยาะแน่

“เจ้าเชื่อเถอะว่าสิ่งที่เราทำเป็นประโยชน์ต่อประเทศนิวแลนด์อย่างยิ่ง รู้ไว้เถอะว่าเจ้าชายแห่งนิวแลนด์ทรงเลือกมากเรื่องผู้หญิงที่สุด” ปีเตอร์ถอนใจ

“แหม...พูดอย่างกับเจ้าชายไม่ใช่พระองค์เอง”

ปีเตอร์นึกได้กลบเกลื่อนว่าตนเองนี่แหละ พัชรีเสียดายที่เพิ่งจะได้เข้าไปเห็นอาณาจักรของเจริญวัฒน์ มิน่าทำไมชรินทร์ถึงอยากจะฮุบกิจการ ปีเตอร์ขมวดคิ้วถามว่าเธอสืบรู้อะไรมา พัชรียิ้มๆก็มันเป็นอาชีพนักข่าวของตน เธอถามว่าเขาจะไปไหนทำอะไรต่อไป ไม่ทันตอบ ปีเตอร์ตดป้าด ออกมา เหม็นตลบอบอวลไปทั้งรถ คนขับจอดรถข้างทางพัชรีเปิดหน้าต่างยื่นหน้าไปหายใจ ปีเตอร์ทนไม่ไหว วิ่งออกจากรถถามว่าตนจะเข้าห้องน้ำได้ที่ไหน แล้วจอดรถทำไม

คนขับตอบหน้าเจื่อนๆว่ารถเสีย ปีเตอร์ปวดท้องจนทนแทบไม่ไหว พัชรีเสนอให้ไปกลางทุ่ง เขาโวยจะให้เจ้าชายแห่งนิวแลนด์ไปยองๆกลางป่าได้อย่างไร ใครรู้เสื่อมเสียแย่ ว่าแล้วก็สั่งพัชรีให้หาห้องน้ำให้ตนเดี๋ยวนี้ พัชรีลนลาน

“ทรงใจเย็นๆเพคะ ทรงกลั้นไว้ก่อนนะเพคะ หายใจเข้าลึกๆแล้วค่อยหายใจออก อึ๊บเข้าอึ๊บออก...อึ๊บเข้า...”

ปีเตอร์พยายามทำตามแต่ไม่ไหว วิ่งพล่านชนเข้ากับยายขมที่เดินสวนมา ยายขมโวยวายขวางทางทำไม พัชรีรีบขอโทษแทน บอกยายว่ารถพวกตนเสีย แล้วถามว่าแถวนี้มีห้องน้ำไหม ยายขมเห็นท่าทางปีเตอร์แล้วสมเพช จึงยอมพาไปเข้าห้องน้ำที่บ้าน

พอปีเตอร์ได้เห็นห้องน้ำบ้านยายขมเป็นแบบยองๆ ก็ตกใจนั่งไม่เป็น ยายหมั่นไส้ถ้าเรื่องมากก็ให้ไปเข้าที่อื่น แต่ความที่เขาอั้นไม่ไหวแล้ว จำต้องรีบเข้าไป เสียงป๊าดๆดังออกมา ตามด้วยกลิ่นตลบ ยายขมมองพัชรีที่หน้าบอกบุญไม่รับ ต่างพากันวิ่งออกไปจากตรงนั้น

“คนบ้าอะไรก็ไม่รู้ ขี้เหม็นชะมัด” ยายขมเอายาดมมาสูด

พัชรีหน้าซีดขอยายดมบ้าง ไม่ทันไร โซว์ ตุ๊ก ขิง และ รุ้งเดินเข้ามา ตุ๊กกับรุ้งโวยวายว่าพัชรีเป็นใครมาแย่งยาดมยายขม ยายเอ็ดอย่าเสียมารยาทกับแขกของตน แล้วนึกได้ถามพัชรีว่าเป็นใครมาจากไหนกัน เธอกำลังจะอ้าปากตอบ ยายก็โพล่งออกมาเองว่า คงเป็นผัวเมีย

“ไม่ใช่จ้ะยาย คือฉันเป็นเลขา ส่วนคนนั้นเขาเป็นนักธุรกิจ เป็นเศรษฐีที่กรุงเทพฯ”

“เศรษฐีอะไรมาเที่ยวบ้านกระจอกๆแบบนี้” โซว์ โพล่งออกมา

อ่านละคร ท่านชายในสายหมอก ตอนที่ 5 วันที่ 13 ก.ย. 55

ท่านชายในสายหมอกนำแสดงโดย: หลุยส์, พั้นช์ วรกาญจน์, ลิฟท์ สุพจน์, ซานิ, ปาล์ม ณัฐดนัย
ท่านชายในสายหมอกอำนวยการผลิตโดย: บริษัท ทีวีธันเดอร์ จำกัด
ท่านชายในสายหมอก บทประพันธ์ โดย วรรณึก
ท่านชายในสายหมอก บทโทรทัศน์ โดย ปณธี-ภควดี
ท่านชายในสายหมอก กำกับการแสดง โดย ศุภฌา ครุฑนาค
ท่านชายในสายหมอกออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทาง ช่อง 3
ท่านชายในสายหมอก เริ่มออกอากาศตอนแรกวันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555
ติตามชมละครเรื่องท่านชายในสายหมอก ได้ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ