@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 5 วันที่ 16 ก.ย. 55

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 5 วันที่ 16 ก.ย. 55

“ต้องให้กาวพูดอีกเหรอคะ?” กรรณนรีเดินหนีไป
ภรตตะโกน “ทำไมกาวไม่คิดว่าพี่หวังดี...” กรรณนรีหยุดกึก ภรตเดินเข้าไปหา “ถ้าเป็นคน
อื่น พี่จะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่เค้าคือคุณสรวง...เค้าดูถูกแม่ไม่พอ กาวยังจะให้เค้าดูถูกกาวอีกเหรอ”
กรรณนรีอึ้งนิ่งงันไป ภรตพูดต่อ “พี่กับแก้วมีเรื่องจะพูดกับกาว”

ค่ำนั้น ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ภรตเลื่อนเก้าอี้ให้กรรณนรีนั่ง พยายามเอาใจมาก
“เดี๋ยวแก้วตามมา กาวอยากทานอะไรสั่งเลย”
“พี่ภรตสั่งเถอะค่ะ กาวไม่หิว”
“กาวยังโกรธพี่เรื่องคุณสรวงใช่มั้ย” ภรตถาม
“เปล่าค่ะ...พี่ภรตพูดถูกแล้วคุณสรวงเค้าดูถูกกาว กาวไม่ควรไปยุ่งกับเค้าอีก”



ในจังหวะเดียวกัน สุขหฤทัยที่นั่งทานข้าวอยู่โต๊ะด้านหลังกับเพื่อน ได้ยินหันขวับมามองยิ้มเย้ย
“ฮึ! ทำมาเป็นพูดดี ทั้งๆที่ความจริงเธอให้ท่าสรวงตลอดเวลา”
กรรณนรีสวนกลับ “แล้วไงคะ ในเมื่อคุณสรวงไม่เคยแสดงท่าทีว่าปฏิเสธฉัน...เหมือนที่เค้าปฏิเสธคุณ”
“กรรณนรี” สุขหฤทัยบันดาลโทสะ คว้าแก้วน้ำสาดหน้าทันที
กรรณนรีโกรธจัด “คุณฤทัย”
กรรณนรีคว้าแก้วน้ำบนโต๊ะทำท่าจะสาดใส่ฤทัย ภรตตกใจจะลุกมาห้าม แต่กาวินทร์มาถึงพอดี จับมือกรรณนรีไว้
“ไม่ต้องกาว” ปล่อยมือกรรณนรีจ้องสุขหฤทัยอย่างเอาเรื่อง “พี่เอง” ลากมือสุขหฤทัยออกไป
“ปล่อยฉันนะ ไอ้บ้า ปล่อย” กรรณนรีรีบตามไป ภรตร้องเรียก
“กาว” กรรณนรีไม่หยุด ภรตวิ่งตาม

กาวินทร์ลากสุขหฤทัยออกมานอกร้าน แล้วผลักอย่างแรง ร่างสุขหฤทัยเซ กาวินทร์ตะคอกขู่
“อยากให้คลิปของคุณกับผมในม่านรูดมันหลุดออกไปใช่มั้ย”
กรรณนรีวิ่งตามมาได้ยิน สุขหฤทัยหน้าถอดสี โกรธมาก
“แก”
“หรือว่าอยากจะดัง เพราะคลิปหลุด” กาวินทร์ยั่ว
สุขหฤทัยเสียงดัง “อย่านะ....แกอย่า”
“งั้นคุณก็เลิกยุ่งกับน้องสาวผมซะที ..ไม่อย่างนั้น คุณอดเป็นสะใภ้นายพลแน่”
สุขหฤทัยโกรธจนตัวสั่น “เลวทั้งพี่ทั้งน้อง”
“ถ้าผมเลวจริงคุณไม่มีหน้ามายืนด่าผมปาวๆ แบบนี้หรอก คุณเสร็จผมไปแล้ว และคลิปนั่นก็ถูกปล่อยตั้งแต่คืนนั้นแล้ว ไป..รีบไป อย่ามายุ่งกับน้องสาวผมอีก ไป๊” กาวินทร์ตะเพิดส่ง
สุขหฤทัยวิ่งลนลานออกไป กาวินทร์หันมาเจอกรรณนรี ที่จ้องหน้าอยู่แล้ว
“พี่แก้วมีอะไรกับคุณฤทัย”
“ก็แล้วแกได้ยินว่าอะไรล่ะ?” กาวินทร์พูดเท่านั้นก็เดินหนีไป
“พี่แก้ว” กรรณนรีวิ่งตามกาวินทร์ไป โดยมีภรตยืนมอง ถอนหายใจออกมา

กาวินทร์เดินดุ่มตรงไปที่รถ กรรณนรีวิ่งตามมากระชากมือไว้
“เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องพี่แก้ว”
กาวินทร์หันมาด่า “ได้...ถ้าแกเลิกทำตัวเป็นผู้หญิงหน้าด้าน”
กรรณนรีฉุน “ทำไมพี่แก้วว่ากาวอย่างนี้”
“ก็แล้วมันจริงมั้ย พี่ห้ามแกแล้ว แต่แกก็ยังไปกับไอ้สรวง ให้แฟนเค้าตามมาด่า ถามจริงๆ แกไม่อายเหรอกาว”
กรรณนรีบอกเสียงเข้ม “ไม่! เพราะกาวไม่ได้ทำอะไรผิด”
กาวินทร์เย้ย “ต้องแค่ไหน แกถึงจะเรียกว่าผิด พี่จะบอกให้แกรู้ไว้นะกาว เพียงแค่แกไปด้วย ไอ้สรวงมันก็คิดว่าแกให้ท่ามันแล้ว ยังจะโง่ทำตัวเป็นของเล่นมันอีก” ชี้หน้าคาดโทษ “เลิกยุ่งกับมัน”
“แล้วถ้าคุณสรวงเค้ายังมายุ่งกับกาวล่ะ” ภรตแทรกขึ้นมา
“ถ้ามันกล้าก็ลองดู พากาวกลับบ้าน” กาวินทร์สั่งภรต
กรรณนรีงง “แล้วพี่แก้วจะไปไหน”
“ไปทำในสิ่งที่ฉันควรจะทำ” กาวินทร์เดินลิ่วไปขึ้รถ
“พี่แก้วๆๆ” กรรณนรีตะโกน แต่กาวินทร์ไม่แยแส

“กลับบ้านกาว...ไม่งั้นแก้วโกรธแน่” ภรตบอก
เวลาต่อมา ในขณะที่สรวงขับรถจะเข้าบ้าน กาวินทร์เดินมายืนขวางหน้ารถเอาไว้

สรวงจำกาวินทร์ได้ รีบลงมาถาม “มีอะไรคุณ”
กาวินทร์ไม่ตอบแต่ต่อยเข้าที่หน้าสรวงอย่างแรง สรวงเซ กาวินทร์ตามไปอัดซ้ำไม่ยั้ง
สรวงตั้งหลักได้ซัดกาวินทร์เอาคืน คราวนี้กาวินทร์เซล้ม สรวงกระชากคอเสื้อขึ้นมา
“ลูกผู้ชายไม่เล่นทีเผลอ มีอะไรคุณว่ามา”
“ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามแต่ เลิกยุ่งกับน้องสาวผม” ผลักสรวงออกอย่างไม่ยี่หระ
สรวงมองกาวินทร์เขม็ง กาวินทร์ชี้หน้า
“ลูกผู้ชายจริง อย่าให้ต้องพูดกันหลายรอบ”
สรวงสวนคำ “ลูกผู้ชายจริง เค้าไม่ข่มขู่กัน มันเป็นสิทธิ์ของผมกับกรรณรีที่จะคบกัน”
กาวินทร์โกรธอีก เงื้อมือจะชก สรวงจับมือกาวินทร์ไว้ กาวินทร์ท้า
“งั้นก็ลองดู”
กาวินทร์ใช้มืออีกข้างเหวี่ยงหมัดเข้าที่หน้าของสรวงอีก สรวงเซไป
“อย่ายุ่งกับน้องฉันอีก ไม่งั้นมีเรื่อง” กาวินทร์เดินขึ้นรถขับออกไป สรวงมองอย่างกลุ้มใจ

ด้านกรรณนรียืนกระวนกระวายมองไปที่หน้าบ้านตลอดเวลา จนภรตต้องบอก

“ดึกแล้วเข้าบ้านไปนอนเถอะกาว”
“กาวยังไม่ง่วง พี่ภรตเองนั่นแหละ กลับบ้านได้แล้ว”
ภรตอึ้งไป เหมือนถูกไล่ทางอ้อม ถามอย่างน้อยใจ “กาวอยากให้พี่กลับ”
กรรณนรีบอก “มันดึกมากแล้วค่ะ”
ภรตน้อยใจ “งั้นกาวก็ควรเข้าบ้านได้แล้ว มันอันตราย”
“นี่มันบ้านของกาว กาวจะรอพี่แก้ว กาวห่วง…”
“ห่วงแก้ว หรือห่วงคุณสรวงกันแน่” ภรตหลุดปาก
กรรณนรีสวนออกมาโดยไม่คิดอะไร “จะห่วงใคร พี่ภรตก็ไม่เกี่ยว
ภรตมองมา ครางด้วยความเสียใจ “กาว”
“กาวยังโกรธพี่ภรตอยู่เลยนะคะ ที่เข้ามาวุ่นวายเรื่องของกาวน่ะ”
“แสดงว่า...กาวยินดีที่จะให้คุณสรวงเค้าทำอย่างนั้นกับกาว”
กรรณนรีบอก “มันเรื่องของกาว และกาวก็ไม่จำเป็นต้องตอบพี่ภรตค่ะ”
“กาว” ภรตคราง มองอย่างเสียใจก่อนจะเดินออกไป
กรรณนรีมองตามอย่างอ่อนอกอ่อนใจ
ภรตขับรถกลับบ้านเสียใจมาก ได้แต่บอกตัวเองอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ “มันเรื่องของกาวจริงๆ”

กรรณนรีอยู่ในห้องนอน ยืนมองจากหน้าต่างลงมายังด้านล่าง แต่กาวินทร์ยังไม่กลับสักที กรรณนรีรออย่างกระวนกระวาย ก่อนจะล้มตัวนอนบนเตียง
กรรณนรีกังวลอยู่ในใจ “อย่าทำอะไรคุณสรวงนะพี่แก้ว” และนอนไม่หลับทั้งคืน

รุ่งเช้า กรรณนรีเดินลงมาหน้าตาซีดเซียว เกริกจัดสำรับอาหารอยู่หันมาเห็น
“ทำไมหน้าเซียวๆ ล่ะกาว เหมือนไม่ได้นอนทั้งคืน”
“นอนไม่ค่อยหลับค่ะพ่อ”
“มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่า”
กาวินทร์เดินเข้ามา หน้าตามีรอยฟกช้ำบ้าง แต่ไม่มาก สองคนพี่น้องสบตา รู้กัน
กรรณนรีตอบพ่อ “เปล่าค่ะ กาวคิดเรื่องงานนิดหน่อย”
“อย่าเครียดลูก มีอะไรค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทำ” เกริกตบไหล่ หันมาเห็นสารรูปกาวินทร์ ก็อ่อนใจ
“เอ้า! ไปมีเรื่องกับเค้าอีกใช่มั้ย? เลิกวู่วามซะทีแก้ว...พ่อไม่อยากเห็นแกตายก่อนพ่อ” เดินเข้าไปในครัว
กรรณนรีพูดถามเบาๆ “พี่แก้วมีเรื่องกับคุณสรวงใช่มั้ย”
“ถ้าใช่! แล้วไง?” กาวินทร์มองหน้าน้องอย่างไม่พอใจ
กรรณนรีพูดเสียงเบา กลัวพ่อได้ยิน “ทำไมต้องไปมีเรื่องกับเค้าด้วย”
กาวินทร์พูดเสียงเข้มแต่ลดเบาลง “จะเอาให้หนักกว่านี้ด้วย ถ้าแกยังยุ่งกับมัน” เดินหนีเข้าครัวไปตะโกน “ผมช่วยครับพ่อ”
กรรณนรีมองหน้ายุ่ง

สองสาวเดินคุยกันมา ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ กรรณนรีบ่นอุบ
“จะไม่ให้ฉันยุ่งกับคุณสรวงได้ยังไง? ในเมื่อฉันต้องทำงานกับเค้า”
“นั่นน่ะสิ” มะยมฉุกคิด “เออ..แล้วทำไมพี่แก้วต้องห้ามแกยุ่งกับคุณสรวงด้วยล่ะ”
คราวนี้กรรณนรีเป็นฝ่ายอึ้ง มะยมคิดเองเออเอง พูดยิ้มๆ
“ฉันรู้แล้ว พี่แก้วต้องสังเกตเห็นท่าทีที่คุณสรวงมีต่อแกแน่ๆ เลยห่วง ใช่ป่ะ”
กรรณนรีตาดุกลบเกลื่อน “ท่าทีอะไรล่ะ มีแต่จะกัดคอฉัน”
มะยมยิ้มๆ “อ๋อ งั้นที่แกหายไปกับคุณสรวงวันนั้น หายไปกัดคอกัน”
กรรณนรีหลุดเขิน “บ้า! คุยงาน”
มะยมล้อๆ “งานอะไร? ถึงต้องกระชากลากถูกันด้วย...ฉันว่าแกกับคุณสรวง มีอะไรกันแปลกๆ” เอาไหล่ชนเบาๆ “ถามจริง กิ๊กกันเหรอ”
“ไม่มีทาง”
“ดีแล้วล่ะ...แกจะได้ไม่ต้องเหนื่อยใจ เพราะคนระดับเค้า ไม่มีทางคิดจริงจังกับคนอย่างเราหรอก อย่างเก่งก็เป็นได้แค่ของเล่น เมียเก็บ เมียน้อย...อย่างคุณภาพิศ”
กรรณนรีอึ้ง มะยมไม่ได้สังเกตพูดต่อ
“ฉันยังลุ้นอยู่เลย วันงาน คุณภาพิศกับคุณหญิงสุดา เค้าจะเป็นยังไงกัน”

ค่ำคืนนั้นภายในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง สรวงนั่งทำงานในโน้ตบุ๊คไปด้วย จิบกาแฟไปด้วย แต่ในใจอดกังวลถึงวันพรุ่งขึ้นมาไม่ได้

“อย่าให้มีเรื่องวุ่นวายในงานเลย"
วันต่อมา บรรยากาศในห้องโถงใหญ่ที่คฤหาสน์อารักษ์ อบอวลไปด้วยรอยยิ้มและความชื่นบาน นิค มะยม และกรรณนรีเดินเข้ามา เห็นคุณหญิงสุดายืนต้อนรับแขกเหรื่อที่เชิญมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ขนาบข้างด้วยอารักษ์ สุขหฤทัย และสรวง
สามคนมองหน้ากันอย่างหวั่นใจ สรวงกับกรรณนรีมองสบตากัน สุขหฤทัยเห็นก็ไม่พอใจ คว้าแขนสรวงไว้ กรรณนรีหลบสรวง เดินนำเพื่อนไปทางอื่น นิคกระซิบถามสองสาว
“พวกแกเห็นรังสีอำมหิตอะไรหรือเปล่า”
มะยมบอก “ไม่เห็นว่ะ หรือว่าไงกาว”
กรรณนรีปรายตามองสุดา เห็นสุดายิ้มระรื่นอย่างคนใจดีระบายทั่วใบหน้า
“ฉันก็ไม่เห็นเหมือนกัน”
“หรือว่าเค้าดีกันจริงๆ วะ” นิคตั้งข้อสังเกต
“เป็นไปไม่ได้หรอก คนเกลียดกันจะตาย จู่ๆจะมาดีกันเพียงข้ามวันเป็นไปได้ยังไง? จับตาดูกันดีกว่า คุณภาพิศมา รับรองมีช็อตเด็ดแน่” มะยมว่า
สีหน้ากรรณนรีดูไม่สบายใจเป็นอย่างมาก มะยม กับนิค จับกล้อง เตรียมอุปกรณ์สัมภาษณ์เพื่อเตรียมพร้อม

สักครู่หนึ่งภาพิศแต่งตัวสวยเฉิดฉายใบหน้ายิ้มแย้มเดินเข้ามาพร้อมกับแฉล้ม มะยมสะกิดบอก
“คุณภาพิศมาแล้ว”
ทุกคนหันไปมองภาพิศ สลับกับมองไปทางฝั่งสุดา อย่างจับอาการ เห็นผู้หญิงทั้งสองคนยิ้มให้กันแบบเป็นมิตรมากราวกับไม่เคยขุ่นข้องหมองใจกันมา
สรวงกับกรรณนรีมองภาพนั้น ด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“คุณพี่ขา..ไปรับภาพิศสิคะ คนกำลังท้องกำลังไส้ เดินเหินต้องระวัง” สุดายิ้มบอกสามี
อารักษ์ยิ้มท่าทางมีความสุขมาก “จ้ะ”
อารักษ์เดินไปหาภาพิศประคองมา แฉล้มยิ้ม แต่แอบลอบสังเกตสีหน้าคุณหญิงสุดาตลอดเวลา พอภาพิศเดินมาใกล้ สุดาก็เดินมาหาประคองภาพิศด้วย ถามเสียงอ่อนโยนและฟังดูอาทร
“เป็นไงคะคุณน้อง แพ้ท้องมากมั้ย?”
“มากเลยล่ะค่ะ” ภาพิศยิ้ม มองอารักษ์สายตาออดอ้อน “อย่างว่า...ลูกคนแรก”
ยินคำว่า ‘ลูก’ กรรณนรี กับสรวงต่างนึกสะท้อนใจ
“งั้นเข้าไปข้างในเถอะค่ะ...พี่เตรียมของบำรุงไว้ให้เยอะแยะเลย ไปค่ะคุณ...พาน้องเข้าไป”
สุดา กับอารักษ์ ช่วยกันประคองภาพิศเข้าไปด้านใน ท่ามกลางความลุ้นระทึกของทุกคน
สรวงกับกรรณนรี นั้นอยู่ในอาการไม่แน่ใจ และกังวลจะมีอะไรมั้ย? ส่วนกลุ่มนักข่าว สายตามองลุ้น ตื่นเต้นตลอดเวลามือเตรียมกล้องถ่ายรูป
ทางด้านสุขหฤทัย กับแฉล้ม ยิ้มด้วยสีหน้าเดียวกัน คือรู้แน่ ว่าคุณหญิงสุดากับภาพิศ ต่างซ่อนซุกอะไรบางอย่างไว้ และต่างก็คิดว่าฝ่ายของตัวเหนือกว่า
ดูเหมือนจะเป็นอารักษ์คนเดียวเท่านั้นที่ยิ้มอย่างมีความสุขเหลือล้น นึกว่าสองภรรยาดีกันจริงๆ
ขณะที่ ภาพิศ และสุดา ต่อหน้าคนอื่นต่างยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นเชิงบอกว่าเราดีกันนะ แต่ลอบส่งสายตาพิฆาตให้แก่กันท้าทายกันอยู่สองคนว่าใครจะแน่กว่ากัน!

เวลาเดียวกันที่อีกฟากหนึ่ง เกริกเดินเมาโซเซอยู่ห้องนั่งเล่นที่บ้าน จังหวะหนึ่งชนรูปภาพิศจนหล่นลงมา เกริกก้มลงหยิบรูปภาพิศมาดู เห็นกระจกกรอบรูปเกิดรอยร้าว
เกริกนึกเป็นห่วงภาพิศหรือนุดีขึ้นมาครามครัน

ที่โต๊ะรับประทานอาหารหลวงน้อยสมานฉันท์ ภาพิศถูกขนาบข้างด้วยสุดาและอารักษ์ สรวง สุขหฤทัย นั่งถัดมา แฉล้มนั่งฝั่งตรงข้าม กลุ่มนักข่าวกดถ่ายภาพกันระวิง บรรยากาศชื่นมื่น สุดายิ้มแย้มพลางกระเซ้านักข่าวขึ้นว่า
“น้องๆ ขาเก็บกล้องได้แล้วค่ะ ไม่ต้องทำข่าว วันนี้พี่ตั้งใจเชิญมาทานข้าวด้วยกัน” สุดาหันไปบอกแม่บ้านชื่อพรรณี “จัดอาหารให้น้องๆ เร็ว”
อารักษ์ยิ้มปลื้ม “นั่งเลยๆ เชิญตามสบาย”
กลุ่มนักข่าวและช่างภาพแยกย้ายนั่งกันที่โต๊ะ ทว่าแต่ละคนก็ยังหันมาถ่ายรูปครอบครัวหรรษาอยู่ดี สุดาหัวเราะ
“พี่บอกแล้วไงคะ ไม่ต้องถ่าย...ทานข้าวกันดีกว่าค่ะ”
จังหวะนั้นสรวงกับกรรณนรีแอบมองหน้ากัน สุขหฤทัยจิกตาใส่ แม่บ้านเริ่มเสิร์ฟอาหาร
“วันนี้พี่เตรียมของบำรุงพิเศษมาให้คุณน้องด้วยนะคะ...” สุดาบอกแม่บ้าน “พรรณี”
แม่บ้านรู้ เดินยกอาหารจานเด็ดมาวางให้ตรงหน้าภาพิศ
“ซุปใสรวมของบำรุง 9 อย่าง บำรุงครรภ์ได้อย่างดี”
ภาพิศยิ้มระรื่น “น่าทานจังเลยค่ะ”
สุดาเสริมขึ้น “อร่อยด้วย คุณน้องลองทานดูนะคะ”
ภาพิศหยิบช้อนมาตักน้ำซุป จะทาน แฉล้มร้องบอกเป็นเชิงเตือน
“คุณคะ…”
ทุกคนมองแฉล้มเป็นตาเดียวกัน แฉล้มรีบบอก
“คนท้องไม่ควรทานอะไรแปลกๆ นะคะ...ถ้าแพ้ขึ้นมาจะอันตราย”
ภาพิศยิ้มเยื้อนบอกเสียงหวาน “คุณหญิงพี่อุตส่าห์สรรหามาให้ เป็นของบำรุงทั้งนั้น ไม่ทานคุณหญิงพี่จะเสียน้ำใจแย่”
พูดจบภาพิศตักซุปเข้าปาก แล้วทำสีหน้ากังวล ท่ามกลางอาการลุ้นของทุกคน
สุดารีบถาม “อร่อยมั้ยคะ”
ภาพิศยิ้มออกมา อย่างโล่งใจ “อร่อยค่ะ”
“งั้นทานเยอะๆ นะคะ”
ภาพิศตักมาทานอีก สุดาตักน้ำซุปเติมให้ ท่ามกลางการลุ้นของทุกคน นักข่าวถ่ายภาพ
แต่แล้วจู่ๆ ภาพิศกลับทำท่าจะอาเจียนออกมา “อุ๊ปส์!” รีบเอามือปิดปาก
นักข่าวรัวชัตเตอร์ถ่ายรูปกันพรึ่บพรั่บ อารักษ์ร้องลั่น
“ภา..ภาเป็นอะไร?”
แทนคำตอบ ภาพิศเอามือปิดปาก ลุกเดินโซเซไปทางห้องน้ำเหมือนคนจะขาดใจ
อารักษ์ขึ้นเสียง “คุณทำอะไรภาพิศ”
“เปล่านะคะ ฉันเปล่า”
อารักษ์รีบตามภาพิศไป นักข่าวแบ่งเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งตามเก็บภาพภาพิศ อีกฝ่ายถ่ายรูปคุณหญิงสุดา กรรณนรีตามภาพิศไปอย่างรวดเร็ว แฉล้มมองคุณหญิงด้วยสายตาไม่เป็นมิตร และคาดโทษ
“ถ้าคุณภาพิศกับเด็กในท้องเป็นอะไร คุณหญิงถูกแจ้งจับข้อหาเจตนาฆ่าแน่”
สุดาร้องไห้โฮ “ไม่นะ ฉันไม่ได้ทำ ฉันไม่ได้ทำ” พูดจบก็ทำท่าจะเป็นลม สรวงรีบเข้ามาประคองไว้
“ทำใจดีๆ ครับคุณแม่...ผมเชื่อคุณแม่ ไม่ได้ทำอะไร” สรวงปลอบโยนผู้เป็นมารดา

ส่วนทางด้านใน ภาพิศโก่งคออาเจียน โดยมีอารักษ์คอยลูบหน้าลูบหลัง นิคเก็บภาพทุกช็อต
กรรณนรีมองด้วยสีหน้าเป็นห่วงกังวล อารักษ์ถามภาพิศขึ้น
“เป็นยังไงบ้างภา?”
ภาพิศพูดเหมือนคนจะขาดใจ “ภา..ภามะ..ไม่ไหว”
“คุณโดนวางยาแน่ๆ” แฉล้มว่า
อารักษ์สั่ง “เรียกรถพยาบาลเร็ว”
“ค่ะๆ” แฉล้มรีบเดินออกไปทันที
กรรณนรีรีบเข้าไปประคองภาพิศ ภาพิศร้องไห้ครวญคร่ำ เอามือลูบท้องอย่างหวงแหน
“ลูกฉันๆๆ”
กรรณนรีมองภาพิศ สงสารและสะท้อนใจ อารักษ์มองสงสารภาพิศ
“ลูกเราต้องไม่เป็นไรภา....” นายพลอารักษ์ ขบกรามกัดฟันกรอดๆ “สุดานะสุดา”

วินาทีนั้นภาพิศแอบยิ้มย่อง และกรรณนรีเห็นรอยยิ้มนั้นเข้าพอดี กรรณนรีหน้าซีดตกใจ
คุณหญิงสุดาเอาแต่ร้องไห้ฟูมฟายอยู่ที่ด้านนอก โดยมีสรวงและสุขหฤทัยช่วยกันประคอง แฉล้มเดินกลับเข้ามา

“รถพยาบาลกำลังมาค่ะ”
อารักษ์ประคองภาพิศออกมา มีกรรณนรีเดินหน้าเจื่อนตามหลังมาด้วย สุดาร้องฟูมฟายขึ้นมาทันที
“ฉันไม่ได้ทำอะไรนะ ฉันไม่ได้ทำ”
อารักษ์เหลียวไปมองสุดา “แล้วภาพิศเป็นอย่างนี้ได้ยังไง”
“ฉันไม่รู้...แต่ถ้าคุณไม่เชื่อ ฉันกินให้ดูก็ได้”
สุดาจิกตามองภาพิศ สลับกับอารักษ์ ขณะหยิบซุปขึ้นซดทั้งถ้วย สุดาคว่ำถ้วยซุปให้ดู หมดเกลี้ยงไม่เหลือสักหยด สรวงเอ่ยขึ้น
“ถ้าคุณพ่อยังไม่เชื่อคุณแม่อีก...ผมก็จะกินให้ดู”
“ฤทัยด้วยค่ะ”
สุจหฤทัยตักซุปให้สรวงและตัวเอง สองคนดื่มจนหมดถ้วย และคว่ำถ้วยให้ดู
“ใครอยากพิสูจน์ด้วยตัวเอง เชิญครับ” สรวงบอก
“เชิญเลยค่ะ ประเดี๋ยวจะหาว่าฤทัยกับคุณสรวงเข้าข้างคุณหญิงแม่อีก”
สุขหฤทัยตักซุปใส่ถ้วย ให้สรวงยื่นให้นักข่าว ให้นิค ให้มะยม และยื่นให้กรรณนรีเป็นคนสุดท้าย
นักข่าวทุกคนมองหน้ากัน ก่อนยกถ้วยขึ้นดื่มจนหมด ไม่มีใครเป็นอะไร
สรวงถาม “มีใครเป็นอะไรมั้ยครับ”
นักข่าวส่ายหน้า สรวงปรายตามองกรรณนรี และกรรณนรีเองก็มองมายังสรวงพอดี สองคนสบตากัน กรรณนรีหน้าสลด สายตาฉายแววแห่งความเสียใจ สรวงมองกรรณนรีอย่างเห็นใจ สุขหฤทัยมองจิกภาพิศ
“ไม่มีใครเป็นอะไรมีแค่คุณภาพิศคนเดียว อย่างนี้มันหมายความว่ายังไงคะ”
คำถามของสุขหฤทัย ทำให้ทุกคนหันไปมองภาพิศเป็นตาเดียวกัน คราวนี้ภาพิศหน้าซีดจริงๆ
แฉล้มรีบแก้ต่างให้ “คุณภาพิศอาจจะแพ้ท้อง”
ภาพิศพูดขึ้นอย่างคนไม่มีแรง “ภาคงแพ้เยอะมากๆ น่ะค่ะ ไม่มีอะไรหรอก..ภาขอตัวกลับ
ก่อนนะคะ”
ภาพิศทำท่าจะลุก แฉล้มรีบเข้าไปประคอง
สรวงเรียกไว้ “อย่าเพิ่งกลับสิครับ”
“คุณสรวงมีอะไรกับพี่?”
สรวงพูดใส่หน้า “คุณแม่ดีกับเธอขนาดนี้ เธอยังแกล้งจะเป็นจะตายให้คนมองคุณแม่เป็นคนร้ายคนเลว นี่ถ้าทุกคนไม่ได้กินซุปนั่นคุณแม่ตกเป็นจำเลยไปแล้ว”
อารักษ์มองภาพิศเป็นเชิงถาม ภาพิศเห็นสายตาของอารักษ์ก็ใจหล่นวูบ
“ไม่นะคะคุณพี่ ภาไม่ได้แกล้ง”
“ไม่มีใครแกล้งเป็นแกล้งตายหรอกค่ะคุณสรวง แต่เข้าใจมั้ยคะคนท้อง ต่อให้อาหารดีแค่ไหน ถ้าจะแพ้มันก็แพ้ได้” แฉล้มพูดแดกดัน
“ถ้าคนแพ้จริงๆมันไม่ได้เป็นอย่างนี้หรอก นี่ดูหน้าก็รู้ หล่อนแกล้งชัดๆ ฮึ! คุณหญิงแม่ไม่น่าทำดีกับคนเลวเลย” สุขหฤทัยบอก
อารักษ์ปรามเสียงเข้ม “สุขหฤทัย”
สุดาเอ่ยขึ้น “อย่าว่าฤทัยเลยค่ะ ฤทัยเป็นห่วงฉัน ภาพิศ..ถ้าไม่สบายก็กลับพักผ่อนเถอะ
จ้ะ รักษาสุขภาพด้วย ฉันเป็นห่วง”
อารักษ์กับแฉล้มประคองภาพิศออกไป นักข่าวถ่ายรูป พร้อมรุมถามภาพิศเสียงดังเซ็งแซ่
“คุณภาพิศป่วยจริงหรือแกล้งป่วยคะ”
“ตกลงไม่ไปหาหมอเหรอคะ? จะได้ตรวจให้รู้กันไปเลย ว่าแกล้งหรือไม่แกล้ง” มะยมถามซัก
“เกิดเรื่องแบบนี้แล้วยังคิดจะปรองดองกันได้มั้ยครับ” นิคยิงคำถาม
เงียบกริบ ไม่มีเสียงตอบจากภาพิศ

นาทีนั้นคุณหญิงสุดาลอบยิ้มอย่างสะใจ ก่อนจะหันไปร้องไห้ฟูมฟายต่อ
ครู่ต่อมานักข่าวตามห้อมล้อมรุมรถอารักษ์และถ่ายภาพเอาไว้ นักข่าวคนหนึ่งพูดขึ้นมาลอยๆ

“คุณภาพิศนี่ร้ายจริงๆ คุณหญิงสุดาอุตส่าห์ดีด้วย ยังจะทำมารยา”
ภาพิศได้ยินเต็มสองหู ใบหน้าซบที่ไหล่อารักษ์ส่วนแววตามีแต่ความอาฆาต ขณะรถเคลื่อนตัวออกไป

ส่วนที่ด้านใน นักข่าวและกลุ่มกรรณนรีเก็บข้าวของเตรียมจะกลับ กรรณนรีหน้าซีดเสียใจ
“ฉันว่างานนี้เป็นแผนคุณภาพิศใส่ร้ายคุณหญิงสุดาแน่ๆ” มะยมว่า
“ฉันก็ว่างั้นแหละ” นิคเห็นด้วย
กรรณนรีปกป้อง “เค้าอาจจะแพ้จริงก็ได้”
สุขหฤทัยเดินเข้ามาทางด้านหลังพูดลากเสียงประชด “เหรอ..แพ้จริงเหรอ.... รู้สึกจะเข้าใจกันดีเหลือเกินนะ พวกอย่างหนา หนังหน้าเมียน้อย”
นิคสวน “ใครเป็นเมียน้อย...แถวนี้ไม่ได้มีสามีใครซักคน”
“มีแต่คนขี้ตู่ อยากเป็นภรรยาเค้า แต่เค้าไม่เอา”
สุขหฤทัยหัวเราะเยาะ “ก็ดีกว่าคนเสนอให้เค้าฟรีๆ”
กรรณนรีฉุนกึก “คุณหมายถึงใคร”
“หมายถึงเธอนั่นแหละ หน้าด้านรู้ทั้งรู้ว่าสรวงเป็นอะไรกับฉัน ยังแอบไปกับเค้าเช้า สาย บ่าย เย็น หน้าไม่อาย”
นิคหันไปมองหน้ากรรณนรี สุขหฤทัยว่าต่อทันที
“ปฏิเสธมาซี้ว่าไม่ได้ไปกับสรวง แฟนฉัน!”
“ไว้คุณสรวงบอกเมื่อไหร่ ผมจะเชื่อแล้วกัน” นิคหงุดหงิดหันไปบอกกับเพื่อนๆ “ไปกลับ...อยู่นานๆ เดี๋ยวฉันต้องเสียค่าปรับข้อหาทำร้ายร่างกายไฮโซ”
นิคดันหลังมะยม และกรรณนรีกลับไป สุขหฤทัยค้อนตาคว่ำ
“พวกคนถ่อยคนเถื่อนเอาแต่ใช้กำลัง อี๋!”
สรวงที่ยืนอยู่ด้านหลังว่าเอา “ก็คุณอยากไปหาเรื่องเค้าก่อน”
สุขหฤทัยตกใจ “สรวง”
พูดจบสรวงเดินเข้าไปในบ้าน สุขหฤทัยตามประกบ
“ที่ฤทัยทำทั้งหมดก็เพื่อปกป้องสรวงกับคุณหญิงแม่นะคะ ดูก็รู้นังกรรณรีมันเป็นพวกนังภาพิศ ขนาดเห็นอยู่กับตา ยังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีก”
สรวงถอนหายใจ “สิทธิ์ของเค้า” เดินหนีไปอีก
สุขหฤทัยได้แต่กระฟัดกระเฟียดไปมา

มะยม เดินเข้ามาในออฟฟิศ พร้อมกรรณนรี โดยมีนิคเดินหน้าบึ้งอยู่ด้านหลัง
“นอกจากจะต้องรีบไปผ่าหมาออกจากปากแล้ว ยัยฤทัยควรต้องเย็บปากให้สนิทอีกด้วย จะได้ไม่ต้องพ่นลมปากเหม็นๆ เน่าๆ ออกมา”
นิคโยนกระเป๋าลงโต๊ะโครม “แล้วมันจริงอย่างที่เค้าว่ารึเปล่าล่ะ?” เน้นคำ “กาวไปกับคุณสรวง”
“ถ้าจริงแล้วมันเป็นไร” กรรณนรีไม่พอใจนิดๆ
นิคเยาะ “ก็คงไม่เป็นไรหรอก เพราะมันเรื่องของแก อะไรๆ ก็เป็นของแก แต่แกไม่อายบ้างรึไงวะกาว ที่ไปเป็นของเล่นไฮโซ” เปลี่ยนน้ำเสียงเป็นเย้ย “เพราะมันไม่ได้ต่างจากคุณภาพิศ ที่เป็นเมียน้อยเค้าเลยว่ะ”
นิคท่าทีโกรธจัดเดินออกไป กรรณนรียืนอึ้ง สะเทือนใจ มะยมหน้ายุ่ง
“ไอ้ปากขี้เรื้อนนิค” มะยมตามออกไปเอาเรื่องนิค

กรรณนรียืนนิ่งไปนิดหนึ่ง ก่อนจะตามสองคนออกไป
นิคเดินอารมณ์เดือดพล่านออกมาที่หน้าออฟฟิศ มะยมวิ่งตาม

“ทำไมแกว่ากาวอย่างนี้วะ” มะยมเดือดพอกัน
นิคได้สติ สายตาบอกว่ารู้สึกเสียใจ พูดเสียงอ่อนลง “ฉันเป็นห่วงกาว”
มะยมบอกเสียงเครือ แอบเจ็บเหมือนกัน “ห่วง...หรือว่าหึง”
นิคตกใจ “ฉันจะไปหึงกาวมันทำไม”
“ก็เพราะแกรักมันไง”
มะยมพูดพลางจ้องหน้านิค กลัวคำตอบที่จะได้ยิน
จังหวะนั้นกรรณนรีเดินออกมาหลังมะยม รอฟัง

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 5 วันที่ 16 ก.ย. 55

ละครเรื่อง ไฟมาร บทประพันธ์โดย : เกตุวดี
ละครเรื่อง ไฟมาร บทโทรทัศน์โดย : พนิดา
ละครเรื่อง ไฟมาร กำกับการแสดง : -
ละครเรื่อง ไฟมาร ผลิตโดย : บริษัทดาราวิดีโอ จำกัด
ละครเรื่อง ไฟมาร แนวละคร : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง ไฟมาร ออกอากาศ : พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager