@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 5/3 วันที่ 18 ก.ย. 55

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 5/3 วันที่ 18 ก.ย. 55

กรรณนรีตกใจปนงง “คุณสรวง” ถอยหลังกรูด “คุณมีอะไรกับฉัน”
สรวงย่างเท้าเข้ามา หน้าเหี้ยมบอกเสียงดุ “แม่ฉันถูกอุ้ม”
กรรณนรีตกใจ “หา”
“ภาพิศคือคนบงการ” สรวงบอกต่อสีหน้าเคียดแค้น
กรรณนรีตกใจ หน้าซีดเผือด “ไม่จริง”
“ต่อให้เธอปฏิเสธ ก็หนีความจริงไม่พ้น เธอต้องชดใช้ให้ฉันกรรณรี”

สรวงลากกรรณนรีขึ้นรถทันที กรรณนรีกรี๊ดๆ ร้องลั่น
“ปล่อยฉัน ฉันไม่รู้เรื่อง ฉันไม่เกี่ยว ปล่อย”
สรวงไม่ฟัง ขับรถออกไปรวดเร็ว

สรวงหน้าคว่ำจอดรถที่หน้าบ้านพัก อ้อมมาลากกรรณนรีลงจากรถ กรรณนรีมองจ้องทั้งโกรธทั้งโมโห แต่ไม่ได้ดิ้นรนขัดขืนเหมือนครั้งแรกที่ถูกฉุด เพียงแต่ยื้อมือตัวเองเอาไว้ บอกสรวงเสียงเครียด



“คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย เอะอะก็ใช้กำลัง”
“ก็เพราะผู้หญิงอย่างพวกเธอมีแต่แผนการร้ายไง” สรวง
“ยังไง...คุณก็ไม่มีสิทธิ์ทำกับฉันอย่างนี้”
“ก็กำลังจะใช้สิทธิ์เดี๋ยวนี้ไง มานี่”
สรวงลากกรรณนรีเข้าไปด้านใน กรรณนรีได้แต่ร้อง โดยที่สรวงไม่สนใจ
“ปล่อย”

สรวงเหวี่ยงกรรณนรีเข้าไปในห้อง กรรณนรีล้มลงบนเตียง หันขวับมาตวาดอย่างกราดเกรี้ยวด้วยความโมโห
“คุณสรวง”
“ทำไม?” สรวงโถมตัวตามลงมาที่เตียง หน้าตาถมึงทึง ขึงขัง
กรรณนรีถอยหลังกรูด ท่าทีหวาดกลัว “ถึงคุณจะโกรธคุณภาพิศ แต่คุณไม่มีสิทธิ์ทำกับฉัน
อย่างนี้!”
สรวงขยับตัวตามเข้าไปอีก “ก็บอกแล้วไงว่ากำลังจะใช้สิทธิ์”
ว่าพลางสรวงปราดเข้าไปถึงตัวกรรณนรี กอดล็อกตัวเอาไว้ ปล้ำลงบนเตียง กรรณนรีร้องออกมาอย่างหวาดกลัว
“ปล่อยฉันนะ คุณสรวง ปล่อยๆๆ”
สรวงยิ้ม ก่อนจะเปลี่ยนหน้าเป็นดุดัน พูดแดกดัน “ปล่อยให้เธอตบฉันน่ะเหรอ?
“ก็มันเป็นสิทธิ์ของฉัน”
สรวงหัวเราะเบาๆ “อ้อ! สิทธิ์ของเธอ...ตบ งั้น..สิทธิ์ของฉัน...จูบ”
ในขณะที่สรวงกำกลังกอดปล้ำจูบกรรณนรีนั้น เสียงมือถือของกรรณนรีดังลั่น สรวงมองกรรณนรีกร้าว กระชากกระเป๋าของกรรณนรี หยิบมือถือออกมา
สรวงเห็นเบอร์ “พ่อโทร.มา”
กรรณนรีตกใจ “พ่อ” จะคว้าโทรศัพท์ในมือสรวง
สรวงชักมือหนี “จะรับเหรอ? ก็ได้...งั้นรับแล้วก็บอกพ่อเธอด้วยนะว่า..เธออยู่กับฉัน สรวง อริยะวรรต” สรวงทอดเสียงยั่วยวน “บนเตียงนอน”
กรรณนรีมองอย่างโกรธจัด “คุณ”
สรวงยื่นมือถือให้ พูดเยาะเย้ยถากถาง “เอาสิ....เรียกร้องสิทธิ์ดีนัก ก็ใช้สิทธิ์ของเธอให้เต็มที่ บอกพ่อเธอไปเลย ว่าเธออยู่กับสรวง ลูกชายพลตรีอารักษ์ แม่เธอเป็นเมียน้อยพ่อฉันไม่พอ เธอก็จะมาเป็นของเล่นฉันอีก”
กรรณนรีมองสรวงอย่างเคียดขึ้ง สรวงมองยั่ว ยื่นมือถือมาตรงหน้า
โดยที่สรวงไม่ทันคาดคิด กรรณนรีคว้ามือถือปาใส่หน้าสรวงอย่างแรง
“เธอ” สรวงโกรธจัด โถมตัวเข้าหา ปลุกปล้ำกรรณนรีลงบนเตียง ท่ามกลางเสียงโทรศัพท์ที่ดังลั่นอยู่อย่างนั้น

ด้านเกริกวางสาย ด้วยสีหน้ากังวลที่ลูกสาวไม่รับสาย เป็นจังหวะที่กาวินทร์กลับจากทำงานพอดี
“มีอะไรพ่อ”
“โทร.หากาว....ไม่รู้กาวทำอะไรอยู่ ไม่ยอมรับสาย”
“คงทำงานตามประสามันแหละ พ่อไม่ต้องห่วงหรอก”
“แต่วันนี้พ่อนึกห่วงกาว”
“ไม่ต้องห่วงหรอกพ่อ...ป่านนี้กาวอาจจะกำลังยิ้มอยู่ก็ได้”
เกริกมองลูกชาย พึมพำ “ยิ้ม”
“ก็เวลาที่กาวทำงานหนักๆ มันชอบยิ้มให้กำลังใจตัวเองไง เดี๋ยวผมส่งไลน์ไปทักมันดีกว่า”
กาวินทร์กดมือถือ

เวลาเดียวกันทางอีกฝั่ง เสียงโทรศัพท์มือถือกรรณนรีดังขึ้นอีก ขณะที่ร่างของสรวงทาบทับตัวกรรณนรีอยู่
หญิงสาวควานหยิบมือถือมาดู “พี่แก้ว...”
กรรณนรีทำท่าขยับจะหนี สรวงหันมามองจ้อง ลุกขึ้นไปยืนขวางประตูพลางพูดขู่
“อย่านะ” แล้วชะโงกหน้ามาอ่านไลน์ “ไหนดูซิพี่แก้วส่งอะไรมา”
สรวงเปิดดูเห็นไลน์ รูปน่ารักยิ้มๆ อ่านข้อความตามมาในไลน์ “ยิ้มเยอะๆ นะกาว” สรวงอ่านแล้วหัวเราะ “พี่แก้วรู้ใจเธอจริงๆ” พร้อมกับเดินกลับมานั่งลงข้างๆ กรรณนรีที่เตียงนอน
“งั้นใช้สิทธิ์เธอให้เต็มที่นะกรรณรี ยิ้มเยอะๆ”

สรวงพูดพร้อมกับคว้าตัวกรรณนรีมากอด โน้มหน้าก้มลงจูบ
สรวงใช้กำลังระดมจูบกรรณนรีทั่วดวงหน้า ขณะที่กรรณนรีซึ่งอยู่ในอ้อมกอด ดิ้นรนขัดขืนสุดกำลัง

“ปล่อยฉันนะคุณสรวง ปล่อย” กรรณนรีทั้งผลักทั้งเอามือดันออก
“ไม่ปล่อย”
กรรณนรีจ้องหน้าสรวง ก่อนตัดสินใจยกเท้ายันเปรี้ยง สรวงไม่ทันตั้งตัวเสียหลัก ล้มลง
ไป กรรณนรีจะวิ่งหนี สรวงกระโจนคว้าตัวเอาไว้ด้วยความโมโห
“จะหนีฉันไปไหน? มานี่?” สรวงเหวี่ยงกรรณนรีลงบนเตียง แล้วโถมตัวลงมาระดมจูบ
กรรณนรีร้องลั่น “ปล่อยฉันนะปล่อย ถ้าคุณจะทำร้ายฉัน เพื่อหวังจะแก้แค้นคุณภาพิศ บอกได้เลยว่าคุณคิดผิด”
“ไม่ผิดถ้าทำร้ายแม่ไม่ได้ฉันก็จะทำร้ายลูกนี่แหละ ให้มันสะใจ” สรวงพูดจบ จะก้มลงจูบ
กรรณนรีเอามือดันหน้าสรวง “แล้วคุณภาพิศเค้ารู้มั้ยว่าฉันเป็นลูก” น้ำเสียงที่พูดเริ่มเครือสั่น “
เค้าลืมไปด้วยซ้ำว่าเคยมีลูก ต่อให้คุณฆ่าฉันให้ตาย คุณภาพิศเค้าก็ไม่รู้สึกอะไร” กรรณนรีร้องไห้โฮออกมาอย่างสุดกลั้น “แต่คนที่เจ็บปวดคือฉัน คนที่ตายทั้งเป็นคือฉัน”
สรวงชะงักมองกรรณนรี ดวงตาเริ่มฉายแววอ่อนลง
กรรณนรีพูดต่อทั้งน้ำตา “แต่ถ้าคุณโกรธฉัน เกลียดฉัน อยากเห็นฉันตายทั้งเป็น ก็เชิญคุณย่ำยีฉันตามชอบใจ เพราะต่อให้ฉันตาย...ฉันก็สู้คุณไม่ได้”
สรวงได้สติมองกรรณนรีด้วยความเสียใจ “ฉันขอโทษกรรณรี” พลางกอดกระชับกรรณนรีเอาไว้แน่น เพื่อปลอบประโลม “ฉันขอโทษ...”
“ฉันรู้ว่าคุณเจ็บ คุณปวด คุณโกรธคุณแค้น แต่ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าจะช่วยคุณยังไง เพราะฉันเองก็เจ็บ ก็ปวดไม่แพ้คุณ” กรรณนรีบอกเสียงขื่นขม
“ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้นกับเรา” สรวงครวญ
สองคนกอดกันแนบแน่น ถ่ายเทความเห็นอกเห็นใจให้กันและกัน

เช้านั้นกาวินทร์กับภรตมาออกกำลังกายด้วยกันที่ฟิตเนสแห่งหนึ่ง เห็นหน้าตาของภรตไม่สบายใจ กาวินทร์ตบไหล่พลางสัพยอก
“รักไอ้กาวแล้วเหนื่อยใจ ออกกำลังกายให้เสียเหงื่อดีกว่า”
ภรตยิ้มแห้งๆ หันไปสนใจการออกกำลังกายต่อ
ที่ด้านนอกฟิตเนสแห่งนั้น สุขหฤทัยอยู่ในชุดสวยเดินมากับสมหญิงผู้เป็นแม่ ซึ่งดูเหมือนว่าสมหญิงจะพาลูกสาวมาออกกำลังกาย สุขหฤทัยหน้าหงิกงอท่าทางไม่สบอารมณ์ กาวินทร์หันไปเห็นจึงบอกภรต
“เดี๋ยวฉันมา” กาวินทร์เดินออกไปทันที

ที่มุมกาแฟ สุขหฤทัยพาสมหญิงมานั่งพัก ก่อนบ่นออกมา
“ฤทัยล่ะเบื่อสรวงจริงๆ เลย ทำไมถึงได้ตาต่ำไปยุ่งกับยัยกรรณรีอยู่ได้”
“ตามประสาผู้ชาย อะไรง่ายๆ เค้าก็คว้าไว้ก่อน อย่าคิดมากเลยลูก ยังไงคุณสรวงไม่มีทางจริงจังกับมันแน่ๆ” สมหญิงปลอบลูกสาว
“คุณแม่ไม่ได้พูดปลอบใจฤทัยนะคะ”
“แม่พูดความจริงจ้ะ ใครจะเลือกพลอยมากกว่าเพชร ไปว่ายน้ำเถอะลูก ออกกำลังกายจะได้สวยๆ”
“งั้นฤทัยไปเปลี่ยนชุดก่อน คุณแม่รอนี่นะคะ”
“จ้ะ”
สุขหฤทัยคว้ากระเป๋าใบเล็กๆ เดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า โดยไม่รู้ว่ากาวินทร์เดินตาม ก่อนจะแยกตรงห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ชายหญิง

สุขหฤทัยอยู่ในชุดเสื้อคลุมเดินมาที่สระว่ายน้ำ วางกระเป๋าใบเล็กที่โต๊ะ ก่อนจะถอดชุดคลุมออก ลงสระไป
กาวินทร์เดินมา มองอย่างหมั่นไส้ก่อนจะถอดเสื้อคลุมกระโดดตูมลงในสระแรงๆ จนน้ำกระเซ็นใส่สุขหฤทัยร้อง “ว๊าย” หันขวับมามอง กาวินทร์โผล่มายักคิ้วให้
“แก”
กาวินทร์ยักคิ้วยั่ว “ผมชื่อแก้ว”
“ฉันไม่ได้อยากรู้จักแก”
“ก็ผมนึกว่าคุณความจำเสื่อม เลยจะขอทบทวนความจำคุณซะหน่อย”
กาวินทร์ปราดเข้ามาถึงตัวสุขหฤทัยแล้วคว้าตัวเอาไว้ สุขหฤทัยร้องกรี๊ด กาวินทร์กอดสุขหฤทับเอาไว้พูดเสียงดุดัน
“เมื่อไหร่คุณจะหยุดราวีน้องสาวผม”
“ก็ต่อเมื่อน้องแก เลิกยุ่งกับแฟนฉัน แต่มันคงไม่มีวันนั้นหรอกมั้ง...เพราะน้องสาวแกหน้าด้านเหมือนลูกพี่ของหล่อน”
“ใครลูกพี่กาว?”
“ก็นังภาพิศไง”
กาวินทร์ได้ฟังดังนั้นก็ของขึ้น ผลักร่างสุขหฤทัยออกไปอย่างแรง
สุขหฤทัยร้อง “ว๊าย” เซออกไปตามแรงเหวี่ยง ก่อนจะหันขวับมามองตาขวาง “แกคิดว่าแกเป็นใครถึงมาทำกับฉันอย่างนี้”
สุขหฤทัยบันดาลโทสะ โผนทะยานเข้าหากาวินทร์แล้วตบอย่างแรง และขย้ำต่อทันที
“โอ๊ย! หยุดเดี๋ยวนี้คุณ” กาวินทร์ปกป้องตัวเอง โดยจับรั้งสุขหฤทัยไว้ โดยไม่ได้ทำร้าย
“ไม่หยุด! ฉันจะตบปากแกให้แตกเลย” สุขหฤทัยขย้ำ กาวินทร์ได้แต่ปกป้องไปมา
ภรตเดินเข้ามากะมาตามกาวินทร์เห็นเข้า “แก้ว หยุด”
สุขหฤทัยผลักกาวินทร์ออก สองคนมองหน้ากัน อย่างเกลียดชัง
“ไอ้เลว ดีแต่รังแกผู้หญิง” สุขหฤทัยขึ้นจากสระคว้าเสื้อมาคลุมอย่างฉุนเฉียว พอดีกับเสียงมือถือดัง สุขหฤทัยรับ “ค่ะคุณหญิงแม่....ฤทัยจะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ” หันมามองเย้ยกาวินทร์ “คุณหญิงสุดาโทร.มาตามว่าที่ลูกสะใภ้ ส่วนน้องสาวแก อนาคตก็เป็นได้แค่เมียน้อยเท่านั้นแหละย่ะ” สะบัดตัวเดินหนีไป
กาวินทร์ตะโกนตามหลัง “ปากอย่างนี้ มันน่าปล่อยคลิปจริงๆ” ก่อนจะกระโจนขึ้นจากสระ
“มีเรื่องอะไรกัน”
“เยอะ!”

กาวินทร์ตอบแค่นั้น ก็คว้าเสื้อคลุมเดินไปเลย ภรตมองตามอย่างงวยงง
ด้านอารักษ์ประคองสุดาที่ทำท่าอ่อนระโหยโรยแรงเข้ามาในบ้าน สุดายิ้มอย่างพอใจมาก

“ผมขอโทษ ที่ทำให้คุณหญิงเดือดร้อน”
สุดาแสร้งเป็นแสนดี “มันผ่านไปแล้วค่ะ เราอย่าไปพูดถึงมันอีกเลย” พร้อมกับกุมมืออารักษ์ไว้

อารักษ์มีท่าทีเหนื่อยใจ “แต่ผมไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปหรอก..ผมจะจัดการกับภาพิศแน่นอน”
คุณหญิงสุดาทำท่าเหมือนตกใจไม่อยากให้ทำ แต่ลับหลังแอบยิ้มอย่างสะใจ

ส่วนภาพิศแต่งตัวสวยบาดใจ เดินแกมวิ่งออกมา สีหน้าหวาดหวั่นระคนตื่นเต้นดีใจเมื่อเห็นอารักษ์เดินเข้ามาในบ้าน หน้าตาอารักษ์ไม่ได้บูดบึ้ง แต่เหนื่อยหน่าย เป็นสีหน้าที่ยังเดาอารมณ์ไม่ออก ภาพิศโผเข้าไปกอดอย่างดีใจ
“ท่าน...ภาดีใจจังเลยที่ท่านมา ตอนแรกภานึกว่าท่านจะโกรธ จะเกลียด จนไม่มาหาภาแล้วนะคะ” ซบหน้าลงกับอก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองท่าทีโกรธๆ “ภามีเรื่องจะบอกท่าน”
อารักษ์สับสนไปหมด ทั้งเสียใจ เหนื่อยใจ และไม่ไว้ใจ “ฉันก็มีเรื่องจะพูดกับภา”
เห็นสายตาที่อารักษ์มองมา ทำให้ ภาพิศ รู้สึกใจไม่ดี...และในที่สุดอารักษ์ก็พูดออกมาอย่างลำบากใจ
“ฉันจะให้เงินภาก้อนหนึ่ง ที่ภาสามารถอยู่อย่างสุขสบายไปได้ตลอดชีวิต ไม่ต้องห่วงเรื่องลูก...ฉันจะให้เค้าใช้อริยะวรรต และเลี้ยงดูส่งเสีย เทียบเท่านายสรวงทุกอย่าง”
ภาพิศอึ้งตกใจแทบช็อก “ท่านจะเลิกกับภา” โผเข้ากอดไว้แน่น “ไม่นะคะ ภาไม่เลิก” ก่อนจะผละออกมา “คนร้ายตัวจริงคือคุณหญิงสุดา” ภาพิศโกรธจัดจนเริ่มข่มอารมณ์ไม่อยู่แล้ว “ท่านได้ยินมั้ยคะ คนร้ายตัวจริงคือคุณหญิงสุดา”
“เลิกโทษคนอื่นได้แล้วภา คุณหญิงสุดาจะเป็นคนร้ายได้ยังไง” อารักษ์ไม่เชื่อ
“เพราะคุณหญิงสุดาจ้างคนมาทำร้ายตัวเองไงคะ ถ้าท่านไม่เชื่อ ภาจะพาคนที่มันทำร้ายภามาเป็นพยาน”
อารักษ์อึ้ง งง สับสนหนักว่าเรื่องเป็นยังไงกันแน่

ทางด้านสรวงกับกรรณนรีเดินออกมาจากบ้านพักตากอากาศ สีหน้าของสองคนหมองเศร้า สรวงจับมือกรรณนรีกุมไว้
“ฉันขอโทษ...ต่อไป...ฉันจะไม่ทำร้ายเธออีก ฉันสัญญา”
เสียงมือถือของสรวงดัง สรวงรับ “ครับคุณแม่”

สุดาอยู่ที่บ้าน ร้องไห้โฮๆ
“สรวง สรวงช่วยแม่ด้วย”
สรวงตกใจ “คุณแม่เป็นอะไรครับ”
“ภาพิศเค้าใส่ร้ายแม่ ว่าแม่เป็นคนจ้างวานคนมาทำร้ายตัวเอง สรวงอยู่ไหนรีบกลับมาช่วยแม่นะลูก”
“ครับคุณแม่”
สรวงกระโจนขึ้นรถพร้อมกับกรรณนรีทันที สรวงบอกขณะเร่งเครื่องออกไป
“คุณได้ยินแล้วใช่มั้ย? แม่คุณให้คนมาใส่ร้ายแม่ผม”

ที่ร้านกาแฟ ภายในห้างสรรพสินค้า พลย้อนถามภาพิศหน้าตาซีเรียส
“อะไรนะ? คุณจะพาผมไปหาท่านอารักษ์”
“ใช่! เธอต้องไปบอกว่าคุณหญิงสุดา เป็นคนบงการเธอทำร้ายฉัน”
พลแกล้งทำหน้านิ่งอึ้ง ไม่กล้า ภาพิศพูดต่อ
“เธอไม่อยากได้สิ่งที่เราตกลงกันไว้แล้วเหรอ?” พลมองหน้าภาพิศ “เงิน ทอง ทรัพย์สมบัติของฉัน ตัวฉัน เราจะสร้างครอบครัวใหม่ด้วยกัน”
“ผม..กลัว..กลัวท่านอารักษ์จะเอาผิด”
“เธอไม่ต้องกลัว ฉันจะช่วยเธอเอง เพียงเธอไปบอกกับท่านอารักษ์ตามที่เราคุยกัน” ภาพิศบอกเสียงเข้ม “คุณหญิงสุดาเป็นคนบงการเธอ แล้วทุกอย่างจะเป็นของเธอ”
พลทำท่าคิดก่อนตอบ “ได้..ผมจะไปกับคุณ”
ภาพิศแอบยิ้มพอใจ
ระหว่างนั้นมะยม กับนิค ผ่านมาเห็นภาพิศกับพล สองคนมองหน้ากัน ก่อนที่นิคจะยกกล้องขึ้นถ่ายภาพภาพิศกับพล

มะยมกับนิคคุยกันมาตามทางในห้าง
“แกว่าผู้ชายที่อยู่กับคุณภาพิศเป็นใคร” มะยมถาม
“กิ๊กหรือเปล่าวะ?” นิคว่า
“บ้า! คนอย่างคุณภาพิศเหรอ จะมองกุ๊ยอย่างนั้น...ฉันว่า..ท่าทางเค้าสองคนแปลกๆ ดูมีลับลมคมนัย ยังไงไม่รู้”

มะยมมองหน้านิคบอกอย่างมั่นใจ “ต้องมีเรื่องอะไรแน่”
สรวงนั่งกอดสุดาที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความเสียใจ ส่วนกรรณนรีนั่งหน้าซีดอยู่อีกมุมหนึ่ง

สุขหฤทัยปลอบสุดา “คุณหญิงแม่ไม่ใช่คนผิด ไม่ต้องกลัวค่ะ ต่อให้นังภาพิศมันใส่ร้ายแค่ไหน ความจริงก็เป็นความจริงวันยังค่ำ”
สรวงบอกเสียงเข้ม สายตามองไปที่กรรณนรี “ผมไม่ยอมให้ใครทำร้ายแม่อย่างเด็ดขาด”
“สรวงไม่ยอม” สุขหฤทัยมองเหยียดกรรณนรี “แล้วสรวงพาพวกนังภาพิศมาทำไม”
กรรณนรีมองหน้าสรวง ตอบเลี่ยง “ฉันมาทำข่าว”
“งั้นเธอเตรียมตัวได้เลยกรรณรี งานนี้ข่าวใหญ่แน่”
ระหว่างนั้นอารักษ์เดินลงมาจากด้านบน หน้าตาซีเรียสขณะบอก
“ภาพิศมาแล้ว”
อารักษ์เดินนำออกมา สรวงประคองสุดาที่ทำท่าหมดแรงตามไป กรรณนรีถือกล้องหน้าซีดสุขหฤทัยสั่ง
“จับภาพให้ตลอดเลยนะ โดยเฉพาะตอนนังภาพิศมันถูกลากคอเข้าคุก”
กรรณนรีหน้าซีดเป็นไข่ต้ม
ภาพิศเดินหน้าตาเอาเรื่องเข้ามาแบบคนมั่นใจว่าชนะแน่ ภาพิศประสานสายตากับสุดาอย่างไม่กลัวเกรง สุดาเย้ยตอบด้วยสายตา ก่อนทำท่าร้องไห้ต่อ สรวงจ้องหน้าภาพิศ
“ไหน....คนร้ายที่ภาว่า” อารักษ์ถาม
สุขหฤทัยเยาะเย้ย “ไม่มีล่ะซี้....เพราะเธอโกหก”
ภาพิศยิ้มเย้ย พูดเสียงดัง “พล...เข้ามา”
พลเดินเข้ามาแสดงท่าทีว่ากลัวๆ กล้าๆ สรวงมองจ้อง สุดากรี๊ดทำท่ากลัวจนตัวสั่น
สุดากอดสรวงชี้พล มองอารักษ์ “ฉันจำได้..นี่ล่ะค่ะคนที่มันทำร้ายฉัน ฉันจำได้”
ภาพิศสุดจะหมั่นไส้ “จำได้สิคะ...เพราะคุณหญิงเป็นคนจ้างมันมาทำร้ายฉัน”
สรวงเดินมาเผชิญหน้า “เธอรู้ใช่มั้ยภาพิศ ถ้าเธอปรักปรำแม่ฉัน เธอจะถูกข้อหาอะไร”
ภาพิศหัวเราะเยาะ ตอบกลับเสียงกร้าว “แล้วคุณสรวงก็รู้ใช่มั้ยคะ...คนที่จ้างวานฆ่า จะถูกข้อหาอะไร?” ภาพิศหันไปบอกกับพลเสียงเข้ม “บอกไปเลย พล ว่าคุณหญิงสุดา ให้เธอมาทำอะไรฉัน”
ทุกคนจ้องมองไปที่พลเป็นตาเดียว พลมีท่าทางกลัวๆ อารักษ์ข่มความรู้สึก ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ไม่ต้องกลัว..ฉันไม่เอาผิด พูดความจริง” อารักเสียงเข้ม มองพลตาไม่กระพริบ “ไม่อย่างนั้นได้ติดคุกจนตาย”
ภาพิศบอกอย่างเป็นต่อ “บอกไปเลยพล บอกไป คุณหญิงสุดาจ้างเธอมาฆ่าฉัน”
สีหน้าของแต่ละคนมองจ้องมาที่พลด้วยใจระทึก และพลก็พูดออกมา
พลมองภาพิศก่อนหลบหน้า พูดอึกอัก “คุณหญิงไม่ได้จ้าง”
ภาพิศตะลึง แทบล้มทั้งยืน สุดาทำเป็นโล่งอก อารักษ์ก็โล่ง สรวงโกรธภาพิศ สุขหฤทัยสาแก่ใจ กรรณนรีหน้าสลดลง เป็นห่วงภาพิศ ขณะที่ภาพิศแทบคุมสติไม่อยู่ เข้ามาผลักพลอย่างขัดใจ
“แกกลัวอะไร บอกความจริงไปสิว่าคุณหญิงจ้างแกมาฆ่าฉัน”
“คุณหญิงไม่ได้จ้างผม” ภาพิศเอะใจ มองจ้องว่าพลจะมาไม้ไหน “แต่เป็นคุณ”
พลหยิบมือถือออกมาเปิด เสียงพูดคุยของภาพิศและพลที่ร้านกาแฟ ดังก้อง
โดยไม่มีใครทันสังเกต สุดายิ้มเย้ยภาพิศ เหมือนบอกให้รู้ว่าฉันเหนือกว่า ฉันชนะ กรรณนรีน้ำตาแทบหยด ภาพิศคลั่ง เนื้อตัวสั่นสะท้าน เสียงสั่นเครือ “ไม่นะ....มันไม่ใช่”
สรวงถลันเข้ามาอาการโกรธเกรี้ยว “ยังจะไม่ยอมรับอีก”
“ท่านค่ะ” ภาพิศ วิ่งมาจับมืออารักษ์
อารักษ์เสียใจคาดไม่ถึง ปัดมือออก พูดเสียงแข็ง “หลักฐานมันชัดเจนอย่างนี้ไม่ต้องพูดอะไรภา”
ภาพิศตกใจกลัว “ท่าน”
“เธอบงการคนร้ายไม่พอ ยังจะสวมเขาให้ฉันอีก เลว”
ภาพิศร้องไห้โฮ “ไม่จริงนะคะท่าน คุณหญิงสุดาคือคนร้าย”
“ยังจะปรักปรำคุณหญิงอีก” อารักษ์ชี้หน้าพล “พามันไปให้พ้นหน้าฉัน ก่อนที่ฉันจะจับเธอกับมันเข้าคุก ไป๊”
พูดจบอารักษ์หันไปประคองกอดสุดาพาเข้าบ้านไป สุดายิ้มเย้ยให้ภาพิศอีกทีก่อนเดินเข้าไป ภาพิศร้องไห้ครวญคร่ำ กรีดร้องอย่างน่าเวทนา
“ม่าย...!ท่านคะฟังภาก่อน ฟังภา” ภาพิศจะตามเข้าไป
สรวงออกมาขวาง “ออกไปภาพิศ”
ภาพิศตะโกนใส่หน้าด้วยความโมโห “ไม่! ฉันจะคุยกับท่าน”
“ภาพิศ” สรวงคว้าตัวเอาไว้ แล้วเหวี่ยงออกไป พร้อมตะโกนบอกรปภ. “ลากตัวออกไป”
รปภ.เข้ามาลากตัวภาพิศ และไล่พลออกไป กรรณนรีหน้าซีด
“คุณสรวง”
สรวงไม่ยอมมองกรรณนรี สั่งรปภ. “ลากตัวออกไป”
ภาพิศกรีดร้อง ดิ้นพราดๆ “ปล่อยฉัน ปล่อย”
“ดิ้นขนาดนั้น ไม่กลัวลูกหลุดรึไง” สุขหฤทัยนึกขึ้นได้หันไปมองสรวงแล้วถาม “หรือมันจะไม่ได้ท้อง”
กรรณนรีมองค้อนด้วยความหมั่นไส้ “คิดได้”
แล้ววิ่งตามภาพิศออกไป สรวงวิ่งตามมา

รปภ.ลากตัวภาพิศออกมานอกบ้าน ภาพิศดิ้นจนหลุดแต่เสียหลักเซล้มลงไปกองกับพื้น กรรณนรีเห็น
“คุณภาพิศ” จะเข้าไปหา
ภาพิศไม่ได้มองกรรณนรี แต่ถลันเข้าหาพลทุบตีอย่างโกรธแค้น “ไอ้พล ไอ้สารเลว แกหักหลังฉัน”
พลร้องลั่น “โอ๊ย” ผลักภาพิศล้มลงไปอีก ภาพิศมองอย่างคั่งแค้น พลชี้หน้า “เธอโง่เอง”
พลเดินหนี ภาพิศกรี๊ดสุดเสียง
“ไอ้พล ไอ้เลว” ภาพิศร้องไห้เหมือนคนสติแตก พอหันมาเห็นกรรณนรีก็ตรงเข้ามาจับพยายามอธิบาย
“หนูก้าง มันไม่ใช่อย่างนั้น ฉันไม่ใช่คนผิดนะ ฉันอธิบายได้”
“ฉันก็อยากจะฟังคุณเหมือนกัน ถ้าฉันจะไม่เห็นสายตาที่คุณมองคุณหญิงวันงาน”
ภาพิศจ้องหน้ากรรณนรี ภาพเหตุการณ์วันน้อยหลวงปรองดองผุดขึ้นมา กรรณนรีกลั้นน้ำตาอย่างเจ็บปวดรวดร้าว รีบวิ่งหนีไป ภาพิศร้องเหมือนคนบ้า วิ่งเข้าหารปภ.
“ฟังนะ...ฟังฉัน ฉันไม่ใช่คนผิด ฟังฉัน”
รปภ.เดินหนีเข้าบ้านปิดประตูใส่หน้า

ภาพิศวิ่งมาเขย่าประตูร้องไห้คร่ำครวญ แพ้อย่างหมดรูป สรวงมองภาพตรงหน้าอย่างอนาถใจ
ค่ำนั้น ท่ามกลางผู้คนมากมายและความสับสนวุ่นวาย กรรณนรีวิ่งร้องไห้มาด้วยความปวดร้าวภายใต้ม่านน้ำตาหญิงสาวมองไม่เห็นใครอีกแล้ว ในขณะที่บรรดาผู้คนที่เดินสวนผ่านไปมาต่างมองมายังเธอ ด้วยสีหน้าหลากหลายความรู้สึกแต่เต็มไปด้วยอยากรู้

ด้านภาพิศยังอยู่ในอาการแค้นจัดขณะขับรถมาตามทาง ได้แต่ทุบพวงมาลัย ทุบๆๆ ระบายอารมณ์
“ฉันอยากฆ่าแกนังสุดา”
ภาพิศปัดพวงมาลัยอย่างแรง จนรถเซถลา พอภาพิศมองไปก็เห็นรถอีกคันวิ่งสวนมาอย่างเร็ว
ภาพิศร้องกรี๊ดรีบหักรถหลบอย่างกระทันหัน รถไถลเข้าข้างทาง และภาพิศก็ต้องกรี๊ดลั่นเมื่อเห็นมีคนล้มลงตรงหน้ารถ
“ว๊าย” ภาพิศตกใจ หลับหูหลับตาเบรกอย่างรวดเร็ว

ภาพิศเงยหน้าขึ้นจากพวงมาลัยรถ ใจเต้นไม่เป็นส่ำ ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามอง และเห็นมีไทยมุงพากันมามุงดูจนมิดแทบไม่เห็นคนเจ็บ แต่ทันทีที่เปิดประตูลงไปก็ได้ยินเสียงด่าทอจากไทยมุงทันที
“ขับรถยังไง คนตายจะว่าไง”
“ขอโทษค่ะ ขอโทษ” ภาพิศยกมือไหว้ แล้วแหวกไทยมุงเข้าไปดูคนเจ็บ
เป็นเกริกที่กำลังช่วยคนเจ็บ โดยภาพิศเห็นเพียงด้านหลัง ก่อนที่เกริกจะประคองคนเจ็บขึ้นมา
“ขอทางพาคนเจ็บไปหาหมอด้วยครับ”
ภาพิศตะลึงเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหูนั้น และก็รู้สึกชาวูบไปทั้งตัวเมื่อเห็นเป็นเกริกจริงๆ ส่วนเกริกเองก็ตกใจมากเช่นกัน
“นุดี”

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 5/3 วันที่ 18 ก.ย. 55

ละครเรื่อง ไฟมาร บทประพันธ์โดย : เกตุวดี
ละครเรื่อง ไฟมาร บทโทรทัศน์โดย : พนิดา
ละครเรื่อง ไฟมาร กำกับการแสดง : -
ละครเรื่อง ไฟมาร ผลิตโดย : บริษัทดาราวิดีโอ จำกัด
ละครเรื่อง ไฟมาร แนวละคร : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง ไฟมาร ออกอากาศ : พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager