@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 7 วันที่ 23 ก.ย. 55

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 7 วันที่ 23 ก.ย. 55

  “อ้าว! ภา ยกมาเองทำไม” อารักษ์กวาดสายตามองหาบ่าวอย่างแปลกใจ “แล้วหายไปไหนกันหมด”
       “วันนี้ภาให้หยุดค่ะ”
      อารักษ์หน้าตึง เพราะเป็นห่วง “หยุดทำไม? ภายิ่งท้องยิ่งไส้ ใครจะดูแลภา”
       “วันเดียวเองค่ะ” ภาพิศยิ้มหวาน “ภาอยากดูแลท่าน”
       อารักษ์ยิ้มอย่างพึงใจ “ภานี่”
             เสียงโทรศัพท์ภาพิศดัง อารักษ์สัพยอกยิ้มๆ “ใครโทร.มาขัดจังหวะแต่เช้า”
       ภาพิศหน้าตาไม่สู้ดีเมื่อเห็นชื่อหน้าจอ “คุณสรวง”       อารักษ์เข้าใจ “เดี๋ยวฉันคุยกับนายสรวงเอง” พลางยื่นมือมาจะรับโทรศัพท์
       “ไม่เป็นไรค่ะ ภาคุยเองดีกว่า...เผื่อคุณสรวงมีเรื่องอะไร”
       ภาพิศเดินออกไป อารักษ์มองตามอย่างเป็นห่วง
     
       ภาพิศ เดินออกมาคุยโทรศัพท์ตรงอีกมุมภายในบ้าน ถามทักด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร
       “มีอะไรกับพี่คะคุณสรวง”
       สรวงกำลังออกกำลังกายบนลู่วิ่ง ตอบกลับผ่านอุปกรณ์ช่วยพูดด้วยเสียงสุภาพ “ผมอยากคุยด้วย”
       ภาพิศฉงน เริ่มกังวลนิดๆ “เรื่องอะไรคะ”
       “ผม....อยากจะขอโทษ”

       ภาพิศแปลกใจระคนตกใจ และคาดไม่ถึง “คุณสรวงจะขอโทษพี่”
       ระหว่างนั้นอารักษ์ซึ่งเดินตามมา ถอนหายใจอย่างโล่งอก ขณะที่ภาพิศเอ่ยตอบกลับไป
       “งั้นพี่ขอเปลี่ยนคำขอโทษ...เป็นเลี้ยงอาหารพี่ซักมื้อแทนได้มั้ยคะ”
       “ยินดีครับ”
       “แล้วเจอกันค่ะ”
       ภาพิศวางสาย ในขณะที่สรวงยิ้ม รู้สึกดีที่ได้ทำอย่างนั้น
       พอภาพิศหันมาเห็นอารักษ์ยืนอยู่ใบหน้าเปื้อนยิ้ม ขณะเดินมาสวมกอดภาพิศ
       “ขอบใจมากภา ขอบใจ”
       “เพราะภารักท่านค่ะ”
       ภาพิศซบหน้าลงกับไหล่ของอารักษ์แววหวานอบอุ่นในดวงตาค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเจ็บแค้นและหมายมาดว่าจะเอาคืนคุณหญิงสุดา
     
       ที่ร้านอาหารหรูแห่งนั้น คุณหญิงสุดานั่งนิ่ง อาการเหมือนคนหมดอาลัยตายอยาก สภาพเหมือนศพเดินได้ ความทุกข์เกาะกินใจหนัก สุขหฤทัยกุมมือปลอบ
       “ฤทัยไม่อยากให้คุณหญิงแม่ ร้องไห้อย่างนี้เลยค่ะ”
       “แล้วฤทัยจะให้แม่ทำยังไง?” สุดาโกหกไม่ยอมบอกความจริงเมื่อวานที่ความลับแตก “ในเมื่อตอนนี้ คุณพ่อกลับไปหลงเชื่อนังภาพิศอีกแล้ว”
       “น้ำตาเมียน้อยนี่ฤทธิ์มันแรงจริงๆ เอ๊ะ!หรือว่าคุณพ่อท่านจะโดนเสน่ห์คะ” สาวเจ้าเล่ห์ว่า
       “นี่มันปี 55 แล้ว เรื่องแบบนั้นไม่มีหรอก” สุดาท้วง
       “มีสิคะ..ฤทัยเห็นออกรายการ เรื่องจริงผ่านจอ ก็บ่อยไป เอาเป็นว่าฤทัยจะหาทางแก้แค้นนังภาพิศให้คุณหญิงแม่เอง”
       สุดาไม่เชื่อนัก “ขนาดแม่ยังเอานังภาพิศไม่อยู่ แล้วฤทัยจะไปแก้แค้นมันได้ยังไง”
       “ได้สิคะ.....ถ้านังกรรณรีมันคือลูกของนังภาพิศ” สุขหฤทัยพูดอย่างมั่นใจว่าตัวเองเป็นต่อ
     
       สุดาชะงัก จ้องหน้าว่าที่สะใภ้เขม็ง “ฤทัยหมายความว่ายังไง” ถามด้วยความอยากรู้
         ตอนสายวันนั้นกรรณนรีวิ่งกระหืดกระหอบมาทำงาน จนเจอนิคแซว
     
       “ช่วงนี้แกมาสายทุกวันเลยนังเจ๊”
       “โทษที ตื่นสายๆ”
       “กลางดึกกลางดื่น มัวทำอะไรยะ ถึงได้ตื่นสายน่ะ” มะยมจี้ใจ
       กรรณนรีหยุดชะงัก แอบเขิน กรรณนรีตัดบท
       “ทำงาน”
       “แล้วไป อย่าไปเมาแล้วขับ เจอด่านตรวจแล้วขอน้ำสามขวดนะแก อายเค้า” มะยมยกข่าวนักร้องสาวซ่าในข่าวดังมาแซวต่อ
       “เออ” เสียงโทรศัพท์ดัง กรรณนรีรับ “กรรณนรีค่ะ”
       ภาพิศ โทร.มาจากคฤหาสน์หรู “ฉันเองหนูก้าง....เย็นนี้ว่างมั้ย”
       “คุณภาพิศมีอะไรคะ”
       “ฉันอยากจะเลี้ยงข้าวหนูเป็นการตอบแทน ที่หนูอุตส่าห์มีน้ำใจมาช่วยฉัน”
       “ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย”
       “แค่มีใจก็มากพอแล้วจ้ะ เย็นนี้มาทานข้าวเป็นเพื่อนฉันนะ”
       “เอ่อ...ฉันติดงานน่ะค่ะ” กรรณนรีบ่ายเบี่ยง
       ภาพิศคะยั้นคะยอ “น่านะ...มาทานข้าวเป็นเพื่อนฉันหน่อย เดี๋ยวฉันโทร.บอกบก.หนูเอง”
       กรรณนรีรีบบอกเดี๋ยวจะเป็นเรื่องใหญ่โต “ไม่ต้องค่ะ”
       “งั้นค่ำนี้ เจอกันที่บ้านฉันจ้ะ”
     
       ภาพิศวางสายพร้อมรอยยิ้มเหมือนมีแผนการดีๆ ในใจ
     
       พอวางสายกรรณนรีทำหน้ายุ่ง บ่นงึมงำออกมาเบาๆ “คนรวย ชอบใช้อำนาจ”
       “หมั่นไส้ ก็ไม่ต้องไป จะได้รู้วันหลังอย่ามากร่าง” มะยมซึ่งได้ยินชี้แนะ
       นิคผสมโรง “ใช่! เดี๋ยวเค้าจะหาว่า เราซื้อได้ด้วยเงิน”
       กรรณนรีหน้าเสียรีบแก้ต่างแทนแม่ “เปล่า...คุณภาพิศเค้าก็ไม่ได้วางอำนาจอะไร เพียงแต่เอาแต่ใจตัวเองหน่อยๆ”
       นิคมองจ้องหน้า “สรุป จะไปไม่ไปล่ะ”
       “ไป” กรรณนรีบอก
       มะยมหัวเราะคิก แซวเพื่อนเลิฟ “อยากไปแต่แรกก็ไม่ว่า”
       “แหงล่ะ อาหารไฮโซอร่อยนี่ นินิ” นิคพยักเพยิดกับมะยมหัวเราะกันสนุก
       กรรณนรีอมยิ้ม รู้สึกอบอุ่นในใจอย่างประหลาด
     
       เย็นวันเดียวกันนั้นสรวงนั่งทำงานอยู่ในห้อง ที่ออฟฟิศ นพโผล่หน้าเข้ามา
       “อ้าว! เห็นบอกเย็นนี้นัด ยังไม่ออกไปอีกเหรอ”
       “งานยังไม่เสร็จเลยพี่นพ”
       “พรุ่งนี้ค่อยกลับมาทำก็ได้....เดี๋ยวคู่เดทเค้าจะรอ” นพว่ายิ้มๆ
       สรวงหัวเราะขำ “เดท..อะไรล่ะพี่...ผมนัดทานข้าวกับคุณภาพิศ ไม่ได้สำคัญอะไร”
       “นัดกับคุณภาพิศน่ะเหรอไม่สำคัญ?”
       สรวงยิ้ม “คุยกันนิดหน่อย”
       “โอเค...โชคดีแล้วกัน”
       สรวงนั่งทำงานต่อ
     
       ในเวลาเดียวกัน ภาพิศเดินนำแฉล้มเข้ามาตรงโถงภายในบ้าน พร้อมกับมีคนช่วยถือชุดสวยสำหรับดินเนอร์เข้ามาหลายชุด
       “วางไว้ตรงนั้นเลยค่ะ”
       คนวางเสื้อผ้าวางลง เห็นเสื้อผ้าดินเนอร์สไตล์สวยหวาน หลายชุด
       แฉล้มมองอย่างงวยงง หันมาถามภาพิศ “มันเรื่องอะไรของคุณเนี่ย..แค่นัดทานข้าวกับคุณสรวง ทำไมต้องให้ฉันมาแต่งหน้าทำผม ถึงนี่..แล้วยังชุดนี่อีก”
       แฉล้มเดินไปหยิบชุดขึ้นมา คลี่ออกดูทีละชุด พอเห็นเป็นชุดเดรสสวย ออกแนวหวานๆ แบบสาวน้อย ไม่ใช่ในสไตล์ภาพิศ แฉล้มหัวเราะ
       “โห! แต่ละชุด แอ๊บไหวเหรอคุณ”
       ภาพิศหัวเราะขำ “ก็ได้อยู่นะ มีแต่คนบอก ฉันยัง เป๊ะอยู่”
       “เป๊ะ!น่ะเป๊ะ...แต่คุณสรวง เป็นลูกท่านอารักษ์นะคุณ...หว่านเสน่ห์ทั้งพ่อทั้งลูก มันจะดีเหรอ”
       ภาพิศหัวเราะอีก อำแฉล้มต่อ “ดีสิ..เถอะน่า..อย่าเพิ่งบ่น..ช่วยฉันเลือกก่อน ชุดไหน สวย ที่สุด”
       ภาพิศหันไปเลือกเสื้อผ้าอย่างใส่ใจ แฉล้มทำหน้าระอา ภาพิศมองนาฬิกา
       “ทำไมป่านนี้ยังไม่มาอีก” ยินเสียงกริ่งหน้าบ้านดัง ภาพิศยิ้ม “เดี๋ยวฉันมา” ว่าแล้วก็เดินยิ้มร่าออกไป
       แฉล้มมองตามคาใจไม่หาย “อะไรเนี่ย? ทำยังกับเดทแรก สาวสิบหก”
         ภาพิศเปิดประตูออกมา เจอกรรณนรียืนอยู่ ภาพิศคว้าข้อมือกรรณนรี
     
       “รีบเข้ามาเร็วๆ เลยจ้ะหนูก้าง”
       ภาพิศแทบจะลาก กรรณนรีตามไปอย่างงงๆ
       ภาพิศพากรรณนรีเข้าไปหาแฉล้ม พลางบอก
       “คุณแฉล้ม ช่วยแปลงร่างน้องก้างให้สวยที่สุดทีเถอะ”
       กรรณนรีงง “ทำไมคะ”
       “เถอะน่า...ก็ฉันบอกแล้วไง มื้อนี้ เรามีนัดพิเศษ” หันไปบอกแฉล้ม “จัดการเร็วคุณ
       แฉล้ม ทั้งนวดหน้า ขัดผิว อบซาวน่า ให้น้องก้างเป๊ะที่สุดเลย”
       แฉล้มงวยงงอยู่แต่รับคำ “ค่ะๆ” หันมาหากรรณนรี “ไปค่ะน้องก้าง”
       แฉล้มพากรรณนรีไปอย่างงงๆ กันทั้งคู่
     
       แฉล้มจับกรรณนรีนวดหน้า ขัดผิว    อบซาวน่า มีภาพิศคอยช่วย พลางวิ่งไปวิ่งมา ระหว่างนั้นเสียงมือถือดัง ภาพิศวิ่งมา เห็นเป็นเบอร์ของสรวงรีบเดินออกไปนอกห้อง
       ภาพิศเดินมารับสายที่ด้านนอกตัวบ้าน “คะคุณสรวง”
       “ขอโทษทีครับ..ผมเพิ่งเสร็จงาน เราเจอกันที่ไหนดีครับ”
       “เอาไงดี? พี่ก็ยังทำงานไม่เสร็จ เอางี้อีกซักชั่วโมงกว่าๆ เจอกันที่บ้านพี่นะคะ” ภาพิศว่า
       “ได้ครับ...แล้วเจอกัน”
       สองคนวางสาย สรวงนั่งทำงานต่อ โดยไม่ได้สนใจหรือรีบร้อนอะไรมาก
     
       แฉล้มพากรรณนรีออกมา หน้าตาสดใสๆ ในชุดคลุมไม่ได้แต่งหน้า ภาพิศเดินเข้าไปหา
       “ฉันขัดเนื้อขัดตัวให้น้องก้างจนผ่องแล้วค่ะคุณ”
       “งั้นแต่งหน้าทำผมเลยค่ะ เรามีเวลาหนึ่งชั่วโมง” ภาพิศจัดแจงและสั่งการ
       “ทำไมต้องทำขนาดนี้ด้วยคะ” กรรณนรีแปลกใจ
       ภาพิศยิ้มๆ “หนูว่าฉันสวยมั้ยล่ะ”
       กรรณนรียิ้มบางๆ แววตาชื่นชม “สวยมากค่ะ”
       ภาพิศหัวเราะชอบใจ “งั้นฉันจะสวยคนเดียวได้ยังไง จะไปดินเนอร์มื้อพิเศษเราก็ต้องสวยด้วยกันสิ” พลางหยิบชุดขึ้นมา “หนูก้างว่าชุดไหนสวย...ชอบชุดไหนลูก” ท้ายประโยคภาพิศใช้คำพูดติดปากที่มักพูดกับคนอายุน้อยกว่า โดยไม่ได้คิดอะไร
       แต่เสียดแทงใจกรรณนรี ที่สะเทือนใจกับคำนั้น และยิ้มให้ “แล้วแต่คุณภาพิศค่ะ”
       ภาพิศมองชุดในมือโดยไม่ได้มองกรรณนรี “ชุดนี้ดีกว่า...”
       ภาพิศกุลีกุจอเลือกชุดให้ต่อ ขณะที่แฉล้มลงมือแต่งหน้า โดยมีช่างผมมารอเซ็ตผมอีกคน
     
       กรรณนรีนั่งนิ่ง ทั้งเจ็บปวด กับทั้งปลาบปลื้ม ตื้นตันใจ
          สรวงเดินเข้ามาในบริเวณบ้าน ในจังหวะที่ภาพิศ กับแฉล้มพากรรณนรีเดินออกมา สรวงเห็นกรรณนรีก็มองตะลึงแล เพราะกรรณนรีสวยจับใจ ต่างจากสไตล์น่ารักในวันถ่ายแบบด้วยกัน เป็นกรรณนรีในแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
      
       กรรณนรีเองก็มองสรวงอย่างงงๆ ว่ามาได้ไง ขณะที่ภาพิศรีบเอ่ยขึ้น
       “พี่ไม่ค่อยสบาย... คงไปทานข้าวมื้อพิเศษกับคุณสรวงไม่ได้...ให้น้องก้างไปแทนนะคะ”
       กรรณนรีตกใจมาก “คุณภาพิศ”
       ภาพิศคะยั้นคะยอ “นะน้องก้าง...ให้คุณสรวงเลี้ยงข้าวขอบคุณแทนพี่นะคะ”
       กรรณนรีหน้าแหย สรวงมองหน้ากรรณนรีแอบอมยิ้ม ภาพิศบอกต่อ
       “คุณสรวง...พี่ฝากน้องก้างด้วยนะคะ” จู่ๆ ภาพิศก็ทำท่าจะเป็นลม “โอ๊ย”
       แฉล้มเหมือนรู้คิว รีบเข้ามารับภาพิศ
       แต่แฉล้มไม่วายเหน็บ “มาป่วยอะไรตอนนี้คุณ”
       ภาพิศส่งซิก พลางยิ้มให้สรวง “ฝากน้องก้างด้วยค่ะ” หันมาทางกรรณนรี “น้องก้างไปกับคุณสรวงนะ”
       แฉล้มพาภาพิศกลับเข้าบ้าน ภาพิศหันมามอง แล้วยิ้มให้สรวง ชายหนุ่มยิ้มเป็นเชิงขอบคุณ ก่อนหันมาสบสายตากับกรรณนรี สองคนยืนมองกันนิ่ง ต่างคนต่างเขิน!
     
       แฉล้มประคองภาพิศเข้าบ้านมา กระเซ้าขึ้นในจังหวะหนึ่ง
       “นี่คุณ เลิกทำท่าจะเป็นลมได้แล้ว ฉันหนัก”
       ภาพิศหัวเราะระรื่น “ดีนะที่รู้คิวกัน ไม่งั้นคุณไม่รับฉัน ฉันล้มหัวฟาดแน่ๆ”
       “ก็เราเป็นเพื่อนกันนี่คะ...นี่นึกยังไง ถึงได้จับคู่หนูก้างอะไรนั่นให้คุณสรวง” พูดไปแล้วก็นึกได้ “หรือเป็นแผนของคุณ จะหลอกล่อคุณสรวงมาเป็นพวก”
       ภาพิศหัวเราะขำกับท่าทีแฉล้ม “ฉันเป็นนางมารร้ายขนาดนั้นเชียว ฉันไม่ได้มีแผนอะไรหรอก แค่เห็น” ภาพิศพูดประโยคต่อมาด้วยแววตาอ่อนโยน “หนูก้างเป็นคนน่ารัก แล้วก็มีน้ำใจกับฉัน...ฉันอยากให้หนูก้างได้เจอคนดีๆ”
       ภาพิศไม่สำเหนียกสักนิดว่าสิ่งที่ทำให้กรรณนรี เป็นเพราะเยื่อใยและสายสัมพันธ์ฉันแม่ลูกที่ยึดโยงกันอยู่นั่นเอง
       แฉล้มฟังแล้วแต่ก็ยังทำหน้าหนักใจอยู่นั่น “แต่ฐานะหนูก้าง แตกต่างจากคุณสรวงมากนะ”
       “ท่านอารักษ์ ยังรักฉันได้เลย..ฉันว่า..ไม่เกี่ยวกับฐานะ เรื่องความรักเป็นเรื่องของหัวใจ”
     
       ภาพิศบอกอย่างมาดหมาย พลางยิ้มด้วยแววตาอ่อนโยน
           กรรณนรียืนนิ่ง ในอาการขวยเขิน สรวงมองแล้วยิ้มพราย ยื่นมือให้
     
       “จะพาไปกินข้าว เดินมาสิ”
       กรรณนรีทำหน้าแหยๆ “เดินไม่ค่อยถนัด ฉันไม่เคยใส่ชุดแบบนี้”
       “งั้น...ผมอุ้ม” สรวงปราดเข้ามาทำท่าจะอุ้ม
       กรรณนรีตกใจร้องลั่น “อย่า”
       สรวงกอดเอาไว้ “ผมอุ้มล่ะดีแล้ว กว่าคุณจะเดินไปถึงรถ ...คงอีกนาน ผมหิว”
       สรวงก้มลงแล้วช้อนร่างกรรณนรีอุ้มออกไป ภาพิศกับแฉล้มแอบมองยิ้มๆ สีหน้าภาพิศเต็มตื้นไปด้วยความปลื้มปีติ
     
       สรวงขับรถมาตามทาง บรรยากาศรอบข้างดูสวยงามไปหมด ขณะขับรถสรวงปรายตามองกรรณนรีแทบจะตลอดเวลา ด้วยสายตาชื่นชม
       กรรณนรีหันไปเห็นสายตานั้น อมยิ้มเขินๆ
       “มองทำไม”
       สรวงหัวเราะ “อยากให้ฉันบอกว่าเธอสวยล่ะสิ”
       กรรณนรีหน้างอ งอนเข้าให้ “คุณสรวง”

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 7 วันที่ 23 ก.ย. 55

ละครเรื่อง ไฟมาร บทประพันธ์โดย : เกตุวดี
ละครเรื่อง ไฟมาร บทโทรทัศน์โดย : พนิดา
ละครเรื่อง ไฟมาร กำกับการแสดง : -
ละครเรื่อง ไฟมาร ผลิตโดย : บริษัทดาราวิดีโอ จำกัด
ละครเรื่อง ไฟมาร แนวละคร : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง ไฟมาร ออกอากาศ : พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager