@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 8/3 วันที่ 29 ก.ย. 55

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 8/3 วันที่ 29 ก.ย. 55 

 สายวันนั้นในขณะที่กาวินทร์นั่งทำงานอยู่ เสียงมือถือดัง กาวินทร์เห็นเป็นเบอร์สุขหฤทัย กาวินทร์ยิ้มดีใจ
       “ผมรอสายคุณอยู่ นึกว่าคุณจะไม่ติดต่อมาซะแล้ว”
      สุขหฤทัยเดินอยู่ในห้างเบ้ปากอย่างรังเกียจ “ติดต่อสิคะ...ในเมื่อฉันเองก็คิดถึงคุณจะตาย”
       กาวินทร์ทำหน้างงๆ น้ำเสียงสุขหฤทัยฟังดูแปลกๆ
       “อยากเห็นภาพความทรงจำของเราสองคนมั้ยคะ?..กรุณารอซักครู่ ฉันจะส่งไปให้คุณดู”
      
       พลางสุขหฤทัยพักสายแล้วกดคลิปส่งไปให้กาวินทร์ทันที
       สักครู่หนึ่งเสียงมือถือดัง กาวินทร์รีบเปิดดู เห็นเป็นรูปขณะตัวเองกำลังมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวที่ไม่ใช่สุขหฤทัยอย่างโจ๋งครึ่ม ไม่ต่างจากหนัง3 เอ็กซ์ และที่น่าตกใจมากไปกว่านั้น มีอีกคนที่นอนเปลือยขนาบข้างกาวินทร์ ซึ่งหลับตาพริ้มคือผู้ชายร่างกำยำ เสียงมือถือดังอีกครั้ง
     
       กาวินทร์กดรับโทร.ด่าสุขหฤทัยทันทีอย่างแค้นเคือง “วิตถาร”
       สุขหฤทัยหัวเราะร่วน “คุณ...ไม่ใช่ฉัน และถ้าคลิปนี้หลุดออกไป ทุกคนก็คิดเหมือนคุณนั่นแหละ” สุขหฤทัยเน้นคำ “วิตถาร”
       กาวินทร์โกรธจัด “เธอ”
       สุขหฤทัยพูดใส่หน้าน้ำเสียงเย้ยหยัน “โถๆๆๆ...คิดเหรอว่าฉันจะหลงเสน่ห์แก เอาเข้าจริง แกมันก็แค่ไก่อ่อนไอ้แก้ว”

       “คุณต้องการอะไร” กาวินทร์ตะคอกเสียง
       “เดี๋ยวแกก็รู้” สุขหฤทัยพูดเป็นนัย ก่อนจะหัวเราะเยาะแล้ววางสายทันที
       สีหน้ากาวินทร์เครียดเคร่ง ทั้งตกใจ และกลุ้มใจมาก
       ระหว่างนั้นมาลินีเดินเข้ามาพร้อมกระเช้าขนม เคาะประตูห้องที่เปิดอยู่ ยิ้มหวาน
       “ก๊อก ก๊อก ก๊อก...พี่แก้ว”
       กาวินทร์วสะบัดหน้ามองหงุดหงิดพูดเสียงกราดเกรี้ยว “มาทำไม”
       มาลินีหน้าจ๋อย “วันนี้มดทำครีมพัฟที่พี่แก้วชอบ เลยเอามาให้” วางกล่องลง
       “ไม่กินโว๊ย” กาวินทร์ขุ่นเคืองใจ ปาขนมทิ้งระบายอารมณ์
       มาลินีตกใจมาก “พี่แก้ว” ห่วงกาวินทร์ มากกว่าตัวเอง “พี่แก้วเป็นอะไรคะ”
       กาวินทร์ตะคอก “อย่ามาเซ้าซี้ได้มั้ย?ก็บอกแล้วไงว่าอย่ามายุ่ง อย่ามายุ่ง”
       กาวินทร์ผลุนผลันออกไป มาลินีวิ่งตามอย่างเป็นห่วง
     
       กาวินทร์เดินลิ่วๆ มาอย่างขุ่นเคือง มาลินีวิ่งตามมาคว้าแขนไว้
       “พี่แก้วๆ...อย่าเพิ่งไป พี่แก้วเป็นอะไร มดช่วยพี่แก้วได้ทุกอย่างนะคะ”
       กาวินทร์รำคาญที่ถูกเซ้าซี้ แค่นเสียงเยาะ “ช่วยได้ทุกอย่าง”
       “ค่ะ”
       กาวินทร์พูดใส่หน้า “งั้นช่วยไปให้พ้นหน้าเดี๋ยวนี้เลย”
       “พี่แก้ว”
       กาวินทร์ตะคอก “ไป๊ แล้วไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้าอีก” จากนั้นพุ่งไปทีรถขับทะยานออกไป
       มาลินีช็อก แทบล้มทั้งยืน ตกใจแต่ห่วงกาวินทร์มากกว่า รีบคว้ามือถือขึ้นมาโทร.ออกทันที
       “พี่ภรต....พี่ภรตยุ่งหรือเปล่าคะ? ออกมาหามดได้หรือเปล่า”
     
       ไม่นานนัก ภายในร้านอาหารแห่งนั้น ภรตนั่งทานข้าวกับมาลินีสองคน มาลินีน้ำตาคลอขณะบอกภรต
     
       “มดไม่ได้ตั้งใจจะไปเซ้าซี้หรือวุ่นวายพี่แก้วนะคะ มดก็แค่เป็นห่วง มดไม่รู้ว่าพี่แก้วมีปัญหาอะไร ถึงได้ทำท่าขนาดนั้น”
       “แก้วเป็นคนเก่ง เดี๋ยวแก้วก็แก้ปัญหาได้ มดไม่ต้องห่วง” ภรตตบหลังมือมาลินีเบาๆ
       อีกมุมหนึ่ง มะยมกับนิคนั่งทานข้าวกันอยู่ สองคนมองเขม็ง ไปที่ภรต
       “ช่วงนี้มดผอมไปมาก ทานข้าวๆ ทานเยอะๆ” ภรตตักอาหารให้ ดูแลใส่ใจมาลินีดีมาก
       สองเพื่อนซี้หันมามองหน้ากัน
     
       สองเพื่อนซี้เดินกันมาตามทาง นิคเอ่ยขึ้น
       “เค้าถึงว่าโลกมันกลม นานๆ จะมาแถวนี้ที อุตส่าห์เจอจนได้”
       “พี่มดไม่น่าทำอย่างนี้กับพี่แก้วเลย ตัวเองมีแฟนอยู่แล้วยังจะมากินข้าวกับคนอื่นอีก แล้วไหนยังจะจับมือจับไม้..ผู้หญิงอะไร นิสัยไม่ดี” มะยมตำหนิมาลินี
       “นั่นน่ะสิ เห็นท่าทางติ๋มๆ หงิมๆ เอาเข้าจริง แรงเหมือนกันนะนี่”
       “นี่แหละผู้หญิงชอบทำให้คนเค้าดูถูก”
       “ปากดีๆ ว่าแต่เค้า อย่าทำเองแล้วกัน” นิคเหน็บ
       “ดูหน้าฉันไว้ ไม่มีทาง”
       สีหน้ามะยมขณะพูดดูมั่นใจมาก
     
       8.-2-2
       สองคนเดินเล่นมาตามทาง บริเวณละแวกบ้านกรรณนรี สรวงกุมมือเกี่ยวแขนกรรณนรีไว้ตลอดเวลา
       “ขอบคุณมากนะคะที่มาอยู่เป็นเพื่อน”
       สรวงยิ้มแฉ่ง “ผมเต็มใจ”
       “ฉันก็..ซึ้งใจค่ะ”
       “งั้นเปลี่ยนความซึ้งใจเป็นเลี้ยงข้าวผมซักมื้อนะ แต่คราวนี้งดปลาเค็ม ผมขอเป็นคนเลือกอาหารเอง เลือกร้านเอง และที่สำคัญ...”
       “อะไรคะ?”
       สรวงยื่นข้อเสนอ “คุณต้องสวยเหมือนอย่างกับวันนั้น”
       กรรรณนรียิ้มกว้าง “ด้วยความเต็มใจค่ะ”
         ถึงค่ำคืนวันนัด กรรณนรีแต่งตัวอยู่หน้ากระจกในห้อง สีหน้าอิ่มเอิบมีความสุขมาก
     
       ส่วนที่หน้าบ้าน เกริกกับสรวงคุยกันอยู่ เกริกถามท่าทีอ่อนโยนแต่น้ำเสียงจริงจัง
       “ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว..ลุงขอเปิดอกคุยกันตรงๆ อย่างลูกผู้ชาย”
       “ได้เลยครับคุณลุง”
       “สรวงจริงจัง จริงใจกับกาวแค่ไหน”
       สรวงบอกอย่างจริงจังและเด็ดเดี่ยว “ผมรักกาว และจริงจังกับกาวครับ”
       เกริกถามต่อ “ถึงขั้นจะตบจะแต่ง”
       ถึงแม้สรวงจะหนักใจเรื่องพ่อแม่แต่ก็ตอบอย่างจริงใจ “ครับ”
       เกริกยิ้มบางๆ “ได้ฟังอย่างนี้ลุงก็โล่งใจ งั้นวันหลัง พาพ่อแม่มากินข้าวด้วยกันหน่อยนะว่าแต่พ่อแม่สรวงอยู่ไหน? ชื่ออะไร? ทำอะไรอยู่”
       สรวงอึกอัก หน้าตาเลิ่กลั่ก เกริกยิ่งจ้องหน้า
       จังหวะนั้นกรรณนรีในชุดสวยงาม เดินแกมวิ่งมาถึงพอดี
       “เสร็จแล้วค่ะ....กาวสวยมั้ยคะพ่อ”
       เกริกยิ้ม ชมลูกสาว “สวย..สวยมากเลยลูก”
       กรรณรีมองเห็นสรวงหน้าเจื่อนๆ ก็แปลกใจ “กำลังคุยอะไรกันอยู่คะ”
       เกริกยิ้ม “ชวนสรวงเค้าคุยเรื่องพ่อแม่...” หันมาทางสรวง “ว่าไง ยังไม่ได้ตอบลุงเลยพ่อแม่ชื่ออะไร อยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่”
       กรรณนรีรีบตัดบทบอกเร็วๆ “ค่อยคุยกันวันหลังแล้วกันนะคะ กาวหิวแล้ว” หันมาบอกสรวง “ป่ะคุณ”
       “เดี๋ยวผมมาคุยใหม่ด้วยนะครับคุณลุง” สรวงยกมือไหว้ลา
       เกริกยกมือรับไหว้ “อืมห์ๆ” มองสรวงที่พากาวออกไป ยิ้มเอื้อเอ็นดู พึมพำอย่างอารมณ์ดี
     
       “ลูกสาวเรา จริงๆ เล้ย”
     
       สรวงคว้ามือกรรณนรีพาเดินไปที่รถ
       “ดีนะที่คุณมา ไม่งั้นผมแย่แน่ๆ”
       “นั่นน่ะสิ จะปิดพ่อได้นานแค่ไหนก็ไม่รู้”
       สรวงพูดจริงจัง “ถึงเวลาก็คงต้องเปิด” สรวงมองกรรณนรีสายตากรุ้มกริ่ม “ว่าแต่คุณยังไม่ได้ถามผมเลย”
       “ถามอะไรคะ”
       “ก็...” สรวงคว้าตัวกาวมากอดเลียนเสียงกรรณนรีล้อ “กาวสวยหรือเปล่าคะ”
       กรรณนรีเอามือดันหน้าอกสรวงออก “ก็แล้วทำไมจะต้องให้ถาม ...อยากบอกก็บอกเองสิคะ”
       สรวงยื่นหน้าเข้าใกล้ๆ “คุณสวยน่ารัก แล้วก็น่าจุ๊บมาก” แล้วจูบทันที
       ระหว่างนั้นสองป้าเดินมาด้วยกันเห็นเข้าพอดี ตาโตรีบแอบมอง
       กรรณนรีเขินทุบสรวงพัลวัน
       “คุณนี่...”
       “ทำไมน้อยไปเหรอ? งั้นอีกซักสองสามที” สรวงขโมยจูบอีกฟอด
       “พอได้แล้วค่ะ ฉันหิว”
       สรวงยิ้มกริ่ม “ผมก็หิว แต่หิวคุณ”
       กรรณนรีเขินใหญ่ “คุณนี่พูดจา” เอามือตีปากสรวงเบาๆ “น่าตีปากจริงๆ”
       “ก็ตีสิ..แต่ตีด้วยปากคุณนะ” สรวงยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีก ทำท่าให้กรรณนรีจูบ
       “ไปกินข้าวได้แล้วค่ะ ฉันหิวแล้ว” กรรณนรีจับมือสรวงให้ขึ้นรถ
       สรวงกระเซ้า “หิวก็กินผมก่อนไง”
       สองหนุ่มสาวหัวเราะ ขึ้นรถขับออกไป
     
       จังหวะเดียวกันสองป้าขาเมาท์ มองสองคนอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ มองตามไม่วางตา จักจั่นเปิดประเด็นตีเป็นหวย หลังจากงวดก่อน ตีออกมาตรงๆ 3 ตัว คือ 279
       “ไง...งวดนี้ออกอะไรป้าตั๊กแตน”
       “ไม่รู้...มันคงไม่ออก เจ็ดเก้า จูบกาวทุกงวดหรอก ป่ะ” ตั๊กแตนจับมือพาเดินไป
       จักจั่นงง “ไปไหน”
       “ไปซื้อยากัน ตากุ้งยิง แหม้…เห็นบ่อยเหลือเกิน จูบกาว 79 เนี่ย” ป้าตั๊กแตนบอก
       จากนั้นสองป้าขาเม้าท์คอหวยหัวเราะคิกคัก แล้วพากันเดินไปทางปากซอย
     
       ด้านสุขหฤทัยแดนซ์กระจายอยู่กับกลุ่มเพื่อนก๊วนไฮโซอย่างมีความสุข และสนุกสนานภายในผับ สักครู่หนึ่งกาวินทร์เดินตาขวางเข้าไปหาอย่างเอาเรื่อง
       “มานี่” กาวินทร์กระชากข้อมือสุขหฤทัย
       สุขหฤทัยสะบัดมือออก บอกเสียงกร้าว “ปล่อยฉัน”
       “เอาคลิปมาแลกกัน”
       สุขหฤทัยหัวเราะเยาะ “ปล่อยซี้ ปล่อยไปเลย....ฉันจะแจ้งความว่าแกลวนลามฉัน ทุกคน
       ต้องเห็นใจฉัน แต่คลิปของแก ดูก็รู้ว่าแกเต็มใจ มันอุบาทว์ อุจาดตา” หัวเราะก้อง “ไม่เชื่อ....จะส่งให้นังกรรณนรีมันดู” พลางทำท่าจะกด
       กาวินทร์ร้องลั่น “อย่า”
       แต่ช้าไปแล้ว มือของสุขหฤทัยกดส่งคลิปให้กรรณนรี กาวินทร์หน้าซีดเผือด ขณะที่สุขหฤทัยหัวเราะลั่น
       “เธอ” กาวินทร์ปราดเข้ามา
       “เกมนี้มันเพิ่งเริ่มต้นค่ะคุณกาวินทร์”
     
       สุขหฤทัยหัวเราะลั่นอย่างสะใจ กาวินทร์ได้แต่แค้นใจ
         ภายในร้านอาหารยามนั้น สรวงกับกรรณนรีนั่งทานข้าวด้วยกัน สองคนสวีทหวานเหมือนคู่รัก ข้าวใหม่ ผลัดกันตักอาหารป้อนให้กัน เอาอกเอาใจกันไปมา จังหวะหนึ่งเสียงมือถือกรรณนรีดัง สรวงแกล้งแซวเสียงดุ
     
       “ใคร”
       กรรณนรียิ้มขำ “ไม่รู้” หยิบมากดดู เห็นเป็นคลิปกาวินทร์นอนเปลือยกายล่อนจ้อน นอนเคียงผู้หญิงและผู้ชายขนาบข้างละคน กรรณนรีช็อก หน้าซีดเผือด
       “อะไร” สรวงมองอย่างประหลาดใจ
       “ไม่มีอะไร ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ มีธุระ”
       กรรณนรีรีบลุก อารามรีบร้อนจัดจนทำมือถือหล่น
       ด้านภรตอยู่ที่บ้านโทร.หากรรณนรี เสียงมือถือของกรรณนรีดัง สรวงก้มลงหยิบ เห็นเป็นเบอร์ภรต กรรณนรีไม่ได้สนใจคว้ามือถือแล้ววิ่งออกไป
       สรวงโกรธจัด “เดี๋ยวกรรณนรี เดี๋ยว” ชายหนุ่มวางเงินบนโต๊ะแล้ววิ่งตามออกไป
     
       กรรณนรีวิ่งหน้าซีดออกมา จะโบกแท็กซี่ สรวงตามมากระชากมือไว้
       “มีเรื่องอะไรกรรณรี”
       กรรณนรีลนลานร้อนใจ “บอกแล้วไงฉันมีธุระด่วน”
       สรวงแดกดัน “ธุระกับนายภรตน่ะเหรอ”
       กรรณนรีบอกอย่างรำคาญ “ไม่ใช่”
       เสียงมือถือกรรณนรีดัง สรวงกระชากมาดู
       “ถ้าไม่ใช่ แล้วนายภรตจะโทร.มาทำไมนักหนา”
       กรรณนรีกระชากคืนมา “ฉันไม่รู้”
       สรวงไม่ยอมกระชากแขนกรรณนรี “ยังจะปากแข็งอีก”
       กรรณนรีชักฉุน ผลักสรวงออก “เอ๊ะ! คุณนี่..ทำไมชอบใช้อารมณ์ บอกว่าฉันมีธุระก็ธุระสิ”
       “ทั้งๆ ที่อยู่กับฉัน แต่พอเค้าโทร.มาเธอก็รีบไป”
       กรรณนรีตะโกนใส่หน้า “แล้วแต่คุณจะคิด” แล้วผลักสรวงออก รถแท็กซี่มา กรรณรีก้าวขึ้นไปบอกออกรถทันที
       สรวงหัวเสีย
       ส่วนภรตหน้านิ่ว ถือมือถือนิ่ง กังวลใจที่กรรณนรีไม่ยอมรับสาย
       ด้านกรรณนรีนั่งอยู่ในรถ มองมือถือ ดูภาพอุบาทว์ของพี่ชาย แล้วร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ
     
       กลับถึงบ้านกรรณนรีร้องไห้ขณะที่กาวินทร์หน้าเครียด กรรณนรีถามเสียงขุ่น ไม่ดังมากกลัวพ่อได้ยิน
       “ทำไมพี่แก้วทำแบบนี้”
       กาวินทร์ย้อนเสียงดัง “พี่ทำอะไร”
       กรรณนรีเสียงเข้มกว่าเดิม “ทำอย่างที่พี่แก้วทำไง”
       กาวินทร์กลบเกลื่อน “ก็แล้วมันเสียหายตรงไหน ฉันเป็นผู้ชาย”
       กรรณนรีทั้งโกรธ ทั้งหงุดหงิด พูดขัดขึ้น “ถ้าเป็นผู้ชาย ถ้าไม่เสียหาย งั้นพี่แก้วก็ให้เค้าปล่อยคลิปเลยสิ...มานั่งกลุ้มอยู่ทำไม”
       กาวินทร์อึ้ง กรรณนรีว่าต่อ
       “นี่พี่แก้วเองก็รู้ว่ารูปพวกนั้น มันอุบาทว์มันไม่ธรรมดา พี่แก้วถึงได้กลุ้มอย่างนี้”
       กาวินทร์เครียด สีหน้าเป็นกังวล “พี่จะไม่กลุ้ม ไม่คิดเลย ถ้า...ถ้าพี่ไม่กลัวพ่อเห็น”
       “ใช่! พ่อเห็น พ่อต้องหัวใจวายตายแน่ๆ” กาวินทร์ได้แต่ทำหน้ากลุ้มใจ
     
       สรวงว่ายน้ำอยู่ที่สระในคฤหาสน์ สุขหฤทัยลงไปว่ายด้วย ยั่วยวนสุดขีด สรวงโกรธกรรณนรี ปล่อยให้สุขหฤทัยกอดจูบตามใจ
       “ฤทัยจะทำให้คุณลืมกรรณรีให้ได้ค่ะ”
       ท่ามกลางแสงไฟยามค่ำคืนที่สลัวราง สรวงว่ายน้ำอยู่ในสระในบ้าน สรวงดำผุดดำว่ายระบาย
       อารมณ์โกรธ หงุดหงิด และหึงหวงกรรณนรี
       สักครู่หนึ่งสรวงเคลื่อนตัวมาพิงขอบสระ หน้าตาบูดบึ้ง ระหว่างนั้นสุขหฤทัยเดินนวยนาดเข้ามา พอมาถึงก็ถอดเสื้อคลุมออก หย่อนกายลงไปในสระ สรวงมองอย่างแปลกใจ
       “คุณหญิงแม่ อยากให้ฤทัยมาอยู่เป็นเพื่อนสรวงค่ะ” สุขหฤทัยว่า
       สรวงยืนนิ่งไม่ตอบโต้ใดๆ สุขหฤทัยเคลื่อนตัวเข้าหา เอามือโอบรอคอสรวง มองด้วยแววตาเย้ายวน
       “ฤทัยจะทำให้คุณลืมกรรณนรีให้ได้ค่ะ”
       สุขหฤทัยยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ จรดริมฝีปากจูบสรวงแผ่วเบา สรวงเคลื่อนตัวออกทันที
       สุขหฤทัยอารมณ์ค้าง ฉุนกึก “สรวงคะ”
       สรวงหันมาพูดใส่หน้า “ผมไม่ต้องการลืมกรรณนรี”
       สุขหฤทัย ตวัดสายตามองสรวง เห็นสรวงเดินขึ้นจากสระ คว้าชุดคลุมมาสวมทับเดินเข้าบ้านไปแล้ว สุขหฤทัยตาเขียวปั๊ด แววตามีแต่ความเคียดแค้นชิงชังกรรณนรี
     
       เช้านั้นกรรณนรีเดินหน้าเซียวมาจะเข้าออฟฟิศ แต่แล้วต้องชะงักเมื่อสุขหฤทัยเดินตรงเข้ามาหา
       “เห็นคลิปแล้วใช่มั้ย”
       “แล้วไง?”
       “คนหน้าด้านนี่มันถนัดพูดแต่คำว่า แล้วไง จริงๆ นะ”
       “แล้วคุณจะให้ฉันพูดว่าอะไร? ในเมื่อคุณมีเป้าหมายในการทำอยู่แล้ว”
       สุขหฤทัยหัวเราะเยาะ “หน้าตาจืดๆ นึกว่าจะโง่ๆ เอาเข้าจริง...เธอก็คิดเป็นเหมือนกันนี่ งั้น...เรามาคุยกันแบบคนฉลาดเค้าคุยกันหน่อยเป็นไร” ยิ้มยั่วเป็นนัย
       กรรณนรีมองจ้องหน้าสุขหฤทัยเขม็ง ไม่เข้าใจว่าจะมาไม้ไหน?
     
       สองนางมารร้ายข่มขู่ และรุกหนัก บีบบังคับกรรณนรีให้ไปแย่งอารักษ์คืนมาจากภาพิศ ไม่งั้นจะปล่อยคลิปเซ็กซ์วิตถารเห็นทุกซอกทุกมุมของกาวินทร์ลงเน็ตแน่ๆ
     
       สุดานั่งยิ้มเหยียดท่าทางสบายอารมณ์รออยู่ในร้านอาหาร ขณะที่สุขหฤทัยพากรรณนรีเข้ามา
       “ดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้ง” สุดาทักทาย
       “คุณต้องการอะไร?”
       “เหมือนเดิม เธอต้องแย่งท่านอารักษ์มาจากนังภาพิศให้ได้”
       “ไม่งั้น” สุขหฤทัยหยิบมือถือขึ้นมาขู่ “คลิปอุบาทว์วิตถารของพี่ชายเธอ คนได้เห็นทั่วประเทศแน่”
       สุดาหาข่าวมาแล้วเป็นอย่างดี “คนอื่นอาจจะไม่เท่าไหร่...แต่พ่อเธออาจจะหัวใจวายตายได้นะ นอกซะจากเธออยากให้พ่อเธอตายไวๆ ก็ไม่ว่ากัน”
       วินาทีนั้นกรรณนรีมองสุดากับสุขหฤทัยอย่างชิงชัง ที่เอาความเป็นตายของพ่อมาต่อรอง หญิงสาวน้ำตาคลอเบ้าด้วยความคับแค้นใจ
     
       สุดากับสุขหฤทัยยิ้มให้กันอย่างเป็นต่อ
          สรวงว่ายน้ำอยู่ในสระที่บ้าน จังหวะหนึ่งชายหนุ่มๆ ค่อยๆ ลดตัวลงจุ่มน้ำในสระจนมิดหัวในท่าทีหงุดหงิด ก่อนที่จะโผล่ศีรษะขึ้นมาแล้วสะบัดหน้าอย่างแรง เพราะยังคิดเรื่องกรรณนรีอยู่นั่นแล้ว
     
       สักครู่หนึ่งสรวงขึ้นจากสระ คว้ามือถือขึ้นมา
     
       ขณะนั้นกรรณนรีเดินอยู่ริมถนน สีหน้ายังอื้ออึง คิดหนักที่ถูกสุดา กับสุขหฤทัยข่มขู่เรื่องคลิปพี่ชาย เสียงมือถือดัง กรรณนรีตกอยู่ในภวังค์ มองเหม่อ จึงไม่ได้ยิน
       สรวงที่นั่งอยู่เก้าอี้ริมสระ จากหงุดหงิดเริ่มเป็นห่วงกรรณนรีขึ้นมา
     
       มะยมกับนิคทำงานกันอยู่ ครู่ต่อมามะยมลุกเดินมาหายืนมองนิคทำงาน
       “โห! ภาพสวยว่ะ เป๊ะเลย แกถ่ายได้วะนิค” มะยมมองรูปดาราในจอคอมพ์ของนิค
       “ถ่ายเองที่ไหน? ฉันไปเซฟมาจากเน็ต” นิคว่า
       “อ้าว! แกนี่” มะยมเซ็ง
       “ไม่ต้องห่วง ฉันให้เครดิตเจ้าของภาพเค้าด้วยโว๊ย”
       “แหงล่ะ! ลายน้ำเค้าใหญ่ขนาดนั้น ถ้าแกยังลบออก ก็ชั่วแล้วล่ะ”
       เสียงโทรศัพท์ดัง มะยมแซวนิคต่อ
       “เจ้าของภาพ เค้าโทร.มาเก็บค่าลิขสิทธิ์กับแก” ก่อนจะหันไปรับสาย “สตาร์ อินเทรนด์ค่ะ”
       “ผมสรวงนะครับ พอดีผมโทร.เข้ามือถือกาวติดต่อไม่ได้ ทราบมั้ยครับว่ากาวอยู่ไหน”
     
       เย็นนั้น กรรณนรีออกมาจากบ้านเซเลบที่ไปสัมภาษณ์ เดินออกมาพ้นหัวมุมถนน จู่ๆ หญิงสาวเห็นโลกหมุนคว้าง ดวงตาพร่าเลือน สรวงเลี้ยวรถเข้ามาพอดี ในจังหวะที่กรรณนรีล้มทรุดลง สรวงเห็นก็ตกใจ
       “กรรณนรี” สรวงจอดรถ รีบลงมาประคองกรรณนรีทันที
     
       สรวงอุ้มกรรณนรีเข้ามาในห้องพักส่วนตัวในห้องทำงาน วางร่างกรรณนรีลงตรงโซฟา แล้วเอาผ้าเย็นมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้ ท่าทีขอสรวงห่วงใยและอาทร สักครู่กรรณนรีก็รู้สึกตัว ลืมตามามองเห็นหน้าสรวง ก็แปลกใจ
       “คุณสรวง...”
       “เธอไม่สบาย”
       กรรณนรีมองสรวงอย่างคนขวัญเสีย ทั้งเจ็บปวดเหลือจะข่ม หญิงสาวผวาตัวโผเข้ากอดสรวงแน่น ร้องไห้สะอึกสะอื้น สรวงยิ่งตกใจหนัก
       “เป็นไรกรรณรี” สรวงกอดปลอบลูบหลังลูบไหล่ “มีอะไรบอกฉัน”
       “ฉัน...” กรรณนรีมองจ้องตาสรวง น้ำท่วมปากพูดอะไรไม่ออก มีเพียงน้ำตาไหลรินออกมาเป็นทาง
       “เธอไม่ไว้ใจฉันเหรอ” สรวงจ้องหน้าจับกิริยาหญิงคนรัก
       “คุณเป็นคนเดียวที่ฉันไว้ใจ” กรรณนรีซุกหน้าซบลงกับอกของสรวงเหมือนเด็กเสียขวัญ
       “แล้วทำไม” สรวงมองด้วยสายตาตัดพ้อ
       “เพราะฉันไม่อยากให้คุณทุกข์ใจไปกับฉัน”
       สรวงคาดคั้น “กรรณนรี บอกฉันเถอะ”
       “อย่าให้ฉันต้องพูดอะไรตอนนี้เลย...ฉันขอร้องนะคะ....ขอแค่ฉันได้อยู่กับคุณ” กรรณนรีร้องไห้ออกมาอีก “ฉันไม่อยากคิดถึงเรื่องอื่น ฉันจะไม่คิดถึงคนอื่น แต่ฉันจะทำตามใจตัวเอง” หญิงสาวมองหน้าสรวงด้วยแววตาเว้าวอน “นาทีนี้ฉันจะทำตามใจฉันเอง ช่วยพาฉันไปในที่ที่มีเราแค่สองคนได้มั้ยคะ”
     
       บรรยากาศเวิ้งว้างริมทะเลยามค่ำคืนคืนดูเงียบสงบ น่ากลัว กรรณนรีวิ่งลงทะเลด้วยท่าทีซวนเซลักษณะคล้ายคนเมา เธอยิ้มแย้ม หัวเราะร่า แต่ข้างในสุดจะขมขื่น
       จังหวะนั้นกรรณยกมือชูขึ้นเหนือหัว โยกย้ายไปมาเหมือนเต้นระบำกลางทะเล
       “วู้! มีความสุขที่สุดเล้ย” กรรณนรีตะโกนก้อง
       สรวงวิ่งตามลงมาคว้าตัวเอาไว้อย่างเป็นห่วง “บอกแล้วไม่ให้กินเหล้า เธอเมามากแล้ว
       กรรณรี ขึ้นไป” พร้อมกับทำท่าจะพาขึ้นจากทะเล
       กรรณนรียื้อมือสรวงไว้ “ไม่ขึ้น...เต้นระบำด้วยกันนะคุณสรวง” แล้วจับมือของสรวงไว้ทั้ง
       สองข้างแกว่งไกวไปมาเหมือนเต้นระบำ “สนุกมั้ยคะคุณสรวง สนุกมั้ย” กรรณนรีหัวเราะเริงร่า
       สรวงมองอย่างห่วงใย “เธอเมามากแล้วกรรณนรี ไป” ดึงแขนจะพาขึ้นอีก
       กรรณนรีหัวเราะ “ไม่...ฉันเมาที่ไหนกันคะ” พูดไม่ทันขาดคำ ก็เสียหลักลื่นไถลไปตามแรงน้ำ
       สรวงมองอยู่รีบเข้าไปประคองตัวไว้ “นี่เหรอไม่เมา ขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยเธอ”
       สรวงกอดร่างกรรณนรีแล้วลากกึ่งประคองพาขึ้นฝั่ง กรรณนรียื้อตัวไว้หัวเราะคิกคัก
       “ไม่ขึ้น.. เล่นทะเลด้วยกันก่อนน่าคุณสรวง”
       สรวงไม่ฟัง ทั้งฉุดทั้งดึงกรรณนรีขึ้นฝั่งมาจนได้ กรรณนรีเนื้อตัวอ่อนปวกเปียกกิริยาคุมสติไม่อยู่
     
       สุดท้ายสรวงจึงต้องคว้าตัวกรรณนรีอุ้มขึ้นฝั่งไป
        สรวงอุ้มกรรณนรีที่เนื้อตัวอ่อนปวกเปียก แทบจะหมดสติเข้ามาในห้องนอน ภายในบ้านพัก เนื้อตัวของกาวเปียกปอน สรวงวางร่างกรรณนรีลงบนเตียง บ่นเบาๆ
     
       “เธอเปียกหมดเลย ถ้าไม่สบาย จะว่ายังไงฮึ”
       กรรณนรีสวนกลับเสียงเครือ จิตตกขึ้นมาอีก “ก็จะได้ตายๆ ไปเลย”
       สรวงห่วงมากมองด้วยแววตาลึกซึ้ง “กรรณรี...เธอมีเรื่องกลุ้มใจอะไร ทำไมเธอถึงพูดแบบนี้”
       กรรณนรีบอกทั้งน้ำตาคลอเบ้า “ไม่มี ฉันบอกแล้วไงคะ..ฉันแค่ต้องการทำตามใจตัวเอง” กอด
       คอสรวงเอาไว้ มองอย่างลึกซึ้ง ทั้งรัก ทั้งกลุ้มใจ เสียใจเต็มตื้น “คุณสรวง..ฉันขอบคุณนะคะที่คุณมากับฉัน อยู่เป็นเพื่อนฉัน”
       สรวงมองจ้อง บอกด้วยเสียงจริงจัง “เพราะฉันรักเธอไง กรรณรี...” สรวงยกมือเกลี่ยผมที่ระหน้าผากออก บอกเสียงนุ่ม “รัก...และเป็นห่วงเธอ”
       กรรณนรีสะท้อนใจ น้ำตาคลออีก “ในชีวิตฉัน จะได้เจอคนดีๆ อย่างคุณอีกมั้ยน้อ...ฉันรักคุณค่ะคุณสรวง”
       กรรณนรีรั้งใบหน้าสรวงลงมาหาก่อนจะจูบอย่างแผ่วเบา สรวงจูบตอบนุ่มนวลเช่นกัน เป็นรสจูบที่ไม่ได้เต็มไปด้วยอารมณ์เสน่หาเหมือนเคย แต่ดูเป็นการปลอบประโลมมากกว่า
       “เธอรอนี่นะ เดี๋ยวฉันจะไปเอาผ้ามาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้” สรวงบอกพลางจะไป
       กรรณนรียื้อไว้มองอย่างลึกซึ้ง “อย่าไปไหนได้มั้ยคะ...ฉันอยากอยู่กับคุณ” คว้าตัวสรวงไว้
       สรวงมองกรรณนรีไม่เข้าใจว่าเป็นอะไร แต่ก็ยอมนั่งลงข้างๆโดยดี กรรณนรีกอดสรวงไว้
       ค่อยๆ จูบประทับที่แก้มสรวงแผ่วเบาพร้อมกับกระซิบบอก
       “ฉันจะเป็นของคุณคนเดียว...รักฉันนะคะคุณสรวง รักฉัน”
       สรวงคว้ามือหญิงสาวมาจูบแผ่วเบา “ฉันรักเธอ รักมาก”
       กรรณนรีมองสรวง สายตาเต็มไปด้วยคำถาม “แล้วทำไม”
       “ฉันรอเธอได้...จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสมของเรา เธอจะเป็นเจ้าสาวที่บริสุทธิ์ งดงามสำหรับฉันกรรณรี นอนนะ..ไม่ต้องกลัว ฉันจะอยู่ข้างๆ เธอ”
       สรวงกอดประคองกรรณนรีให้นอนลงบน ตะแคงตัวลงนอนข้างๆ ทำท่าปลอบประโลมเหมือนกรรณนรีเป็นเด็กเล็กๆ กรรณนรีน้ำตาจะไหล รีบซุกหน้าลงกับอกสรวงไม่ให้ชายหนุ่มเห็น สรวงกอดนิ่ง สายตาที่มองมาเต็มไปด้วยความแคลงใจ ขณะพึมพำเสียงอ่อนโยน
       “นอนนะคนดี ฉันจะอยู่ข้างๆ เธอ”
       สรวงก้มลงจูบที่หน้าผากกรรณนรีอย่างแผ่วเบา
     
       วันต่อมา ที่ฟิตเนส สถานออกกำลังกายสำหรับคนท้อง ภาพิศออกกำลังกายอยู่ อีกมุมสุดาแอบมองอยู่เป็นระยะ ดวงตายังเต็มไปด้วยความเกลียดชังเหมือนเดิม
       สักพักหนึ่ง ภาพิศรู้สึกเหมือนมีคนแอบมอง ภาพิศหันขวับมองหา สุดารีบฉากหลบ แต่หลบอย่างมีแผน พอให้เห็นแว่บๆ ภาพิศเขม้นมอง ก่อนจะเดินตามออกมาอย่างสงสัย
     
       สุดาเดินฉับๆ หนีอย่างรวดเร็ว ทิ้งจังหวะพอให้ภาพิศมองเห็นหลังไวๆ ภาพิศเดินแกมวิ่งอุ้ยอ้ายตามมา
       ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งเรียกแผ่วๆ จากด้านหลัง “คุณ”
       ภาพิศหันขวับไปมองตามเสียง แต่ไม่เห็นใคร ภาพิศสงสัยเดินย่องกลับไป จนถึงหัวมุมตรงด้านหน้าฟิตเนส กวาดสายตามองก็ไม่เห็นใครอีก ภาพิศทำหน้าสงสัยก่อนจะถอนหายใจออกมา คิดว่าตัวเองคงหูแว่วไป แต่พอหันตัวกลับมา คราวนี้ต้องร้องสุดเสียงเมื่อชนเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งอย่างเต็มแรง จนร่างของภาพิศล้มลงไป
       “ว๊าย”
       “เดินยังไงคุณ”

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 8/3 วันที่ 29 ก.ย. 55

ละครเรื่อง ไฟมาร บทประพันธ์โดย : เกตุวดี
ละครเรื่อง ไฟมาร บทโทรทัศน์โดย : พนิดา
ละครเรื่อง ไฟมาร กำกับการแสดง : ทองสิทธิ์ โสดาโคตร , กฤษฎากร มะลิวัลย์
ละครเรื่อง ไฟมาร ผลิตโดย : บริษัทดาราวิดีโอ จำกัด
ละครเรื่อง ไฟมาร แนวละคร : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง ไฟมาร ออกอากาศ : พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager