@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 9/2 วันที่ 2 ต.ค. 55

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 9/2 วันที่ 2 ต.ค. 55
     กรรณนรีร่ำร้อง อ้อนวอน “คุณสรวง..ปล่อยฉัน..ฟังฉันก่อน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น คนที่ฉันรักก็คือคุณได้ยินมั้ยคนที่ฉันรักคือคุณ”
       สรวงได้ยินยิ่งขมขื่นใจ จนแทบจะร้องไห้ออกมา “เธอรักฉันเหรอกรรณรี?” ตะโกนก้อง “เธอรักฉันแต่เธอไปกับพ่อฉัน เธอจะให้ฉันเข้าใจว่ายังไง”
       กรรณนรีร้องไห้โฮอย่างสุดกลั้น สรวงร้องไห้พูดเสียงแผ่วเหมือนคนจะขาดใจ
       “เธอรู้บ้างมั้ย ว่าฉันเจ็บปวดเสียใจมากแค่ไหน? ที่พ่อทำร้ายหัวใจแม่ด้วยการมีผู้หญิงคนแล้วคนเล่า แต่ที่ฉันคาดไม่ถึง ทำไมผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นเธอ ทำไมผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นเธอ” สรวงผลัก กรรณนรีออกให้จมอยู่ในทะเลแล้วหันตัวเดินหนีขึ้นฝั่งไป
       กรรณนรีผวาตัวกอดสรวงจากด้านหลังแน่น “คุณสรวง...อย่าไปจากฉัน ฉันรักคุณ...ได้โปรดเถอะ ฉันรักคุณ”

       สรวงพูดโดยไม่ยอมหันกลับมา “ความรักของเธอคืออะไร?” กรรณนรีเงียบ สรวงหันมาหา พูดแดกดัน “แบ่งปันร่างกายให้ทั้งพ่อทั้งลูกอย่างนั้นเหรอ? เสียแรงที่ฉันรัก ฉันทะนุถนอมอยากให้ถึงวันของเรา แต่สุดท้าย เธอก็ยอมขายตัวเองได้เพื่อเงิน ฉันเกลียดเธอกรรณรี ฉันเกลียดเธอ”
       สรวงผลักกรรณนรีอีก ร่างกรรณนรีจมลงในน้ำ ผวาตัวขึ้นมากอดสรวงใหม่ คราวนี้กอดแน่น
       “แต่ฉันรักคุณ คุณจะด่าจะว่าฉันยังไง ฉันก็รักคุณ ฉันต้องการคุณ..คุณอย่าทิ้งฉันไปนะคะคุณสรวง อย่าทิ้งฉันไป”
       สรวงหันมามองจ้องโกรธราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “รักฉันนักใช่มั้ย? เธอต้องการฉันมากใช่มั้ย ได้ มานี่”
       ขาดคำสรวงฉุดกระชากลากถูกรรณนรีขึ้นจากทะเล กรรณนรีดิ้นรนขัดขืน
      
       สรวงไม่สนฉุดกระชาก ร่างของกรรณนรีแทบจะปลิวไปตามแรงขึ้นฝั่งไป
           สรวงเปิดประตูห้องบ้านพักรีสอร์ต ผลักกรรณนรีเข้าไปสุดแรง ดวงตาของสรวงดุดันราวกับอสูรร้าย
     
       กรรณนรีถอยหลังกรูด “คุณสรวง..อย่าทำอะไรฉันนะ..ฉันกลัว”
       “กลัวเหรอ? ผู้หญิงอย่างเธอกลัวเป็นด้วยเหรอ?” สรวงกระชากร่างกรรณนรีเข้ามา “มันก็แค่มารยาแบบหนึ่งที่ทำให้ผู้ชายมันหลงมันคลั่งเท่านั้น กรรณนรี”
       กรรณนรีร้องไห้ ส่ายหน้า “ไม่นะ...ไม่”
       สรวงเหยียดเย้ย “ไม่... ไหนบอกว่าต้องการฉันไง...” กราดสายตามองทั่วตัว “เธอบอกว่าต้องการฉันไง ได้..เมื่อเธอเสนอ ฉันก็จะสนอง อยากรู้เหมือนกันว่ารสชาติของเธอมันเป็นยังไง ถึงทำให้พ่อทิ้งทั้งแม่ทั้งภาพิศได้”
       สรวงผลักกรรณนรีลงบนเตียง โถมร่างลงไปทาบทับ ปลุกปล้ำกอดจูบด้วยโทสะ กรรณนรีดิ้นรนขัดขืน
       “ปล่อยฉันนะคุณสรวง ปล่อย”
       กรรณนรีกรีดร้องสุดเสียง แต่สรวงไม่ฟัง
     
       ด้านภาพิศเดินลงบันไดมาแบบคนไม่มีแรง อีกสองขั้นจะถึงพื้นห้องโถงแล้ว จู่ๆ ภาพิศเห็นโลกหมุนคว้าง เท้าเหยียบขั้นบันไดพลาด ร่างร่วงลงมาโชคดีที่เป็นบันไดเพียงแค่สองขั้น
       ภาพิศร้อง “ว๊าย”  
       “คุณหญิง” รีบวิ่งถลาเข้ามาหาด้วยความตกใจ
     
       ขณะที่สรวงปล้ำกรรณนรีอย่างเดือดดาล กรรณนรีผลักไส และตบหน้าสรวงเต็มแรง
       “อย่ามาหยาบคาย ป่าเถื่อนกับฉันนะ” ถอยตัวออก
       “คนอย่างเธอมันต้องป่าเถื่อน หยาบคายมันถึงจะสาแก่ใจ จะหนีไปไหน? มานี่” ลากตัวกรรณนรีมาอีก “ผู้หญิงสกปรกโสมมอย่างเธอ มันต้องเจออย่างฉัน”
       สรวงปล้ำจูบกรรณนรีระบายแค้น เสียงมือถือดังจังหวะ กรรณนรีผลักสรวงออก
       “ว่าไงน้อย” สรวงรับสาย
       “คุณภาพิศตกบันไดค่ะ” น้อยบอกเสียงตื่น
       “ภาพิศตกบันได รีบพาส่งโรงพยาบาลเร็ว”
       สรวงลุกขึ้นจากเตียง กราดสายตามองกรรณนรีอย่างดูแคลน
       “ดีแล้วที่โทรศัพท์มา ไม่งั้นฉันก็ต้องตกหลุม ผู้หญิงใฝ่ต่ำราคาถูกอย่างเธอ”
       สรวงเดินออกจากห้องไป กรรณนรีร้องไห้วิ่งตาม
     
       สรวงดิ่งตรงมาที่รถ กรรณนรีวิ่งตามมา
       “ฉันไปด้วยค่ะฉันไปด้วย”
       “ยังจะตามมาให้ท่าฉันอีก หน้าด้าน”
       “ฉันเป็นห่วงคุณภาพิศ”
       “กล้าพูดว่าเป็นห่วง ก็เธอนั่นแหละเป็นคนทำให้เค้าเป็นอย่างนั้น”
       “ฉันไม่ได้ทำ”
       “เธอนั่นแหละเป็นต้นเหตุ”
       สรวงเปิดประตูก้าวขึ้นรถ กรรณนรีเปิดที่นั่งอีกด้านขึ้นไปนั่ง สรวงตะคอก
       “เธอนี่ยังไง ? ฉันไม่ให้เธอไปด้วย ลงไป”
       “ฉันไม่ลง ฉันจะไปด้วย ฉันเป็นห่วงคุณภาพิศ”
       “ฉันไม่ให้ไป”
       สรวงลงจากรถเดินมากระชากกรรณนรีลงจากรถ กรรณนรียื้อตัวไว้ พูดดีๆ ด้วย
       “คุณสรวง อย่าทำฉัน...ฉันเป็นห่วงคุณภาพิศจริงๆ”
       สรวงเยาะ “น้ำหน้าอย่างเธอ สมควรอย่างเดียว คือเป็นผีเฝ้าทะเล มานี่”
       จากนั้นสรวงก็ลากกรรณนรีไปด้วยความโกรธ และแค้นใจ
     
       สรวงลากกรรณนรีมาแล้วเหวี่ยงลงไปในทะเล ร่างบอบบางของกรรณนรีเหนื่อยอ่อนจมลงไปสรวงยืนมองอย่างเจ็บปวด “เราจบกันแค่นี้กรรณรี
       กรรณนรีแทบไม่มีแรง “คุณสรวง...อย่าทิ้งฉันไป คุณสรวง”
       สรวงเดินหนีไปไม่ยอมหันมามอง โกรธ ในขณะที่ร่างของกรรณนรีค่อยๆหมดแรง สรวงรับรู้ถึง
       ความผิดปกติ หันกลับไปมอง เห็นร่างของกรรณนรีหมดสติแล้ว ลอยไปตามแรงคลื่น
       “กรรณนรี”
       สรวงตกใจ รีบว่ายน้ำตามออกไป ควานคว้าร่างหมดสติของกรรณนรีเข้ามา
     
       สรวงอุ้มกรรณนรีมาวางไว้ที่ชายฝั่งเป็นห่วงใย และทะนุถนอม ตบแก้มเบาๆ เรียกสติ
       “กรรณนรี ๆ”
       ทว่ากรรณนรีไม่รู้สึกตัว สรวงสุดจะเป็นห่วง
       “เธออย่าเป็นอะไรนะกรรณรี”
       สรวงก้มลงผายปอดให้กรรณนรี ชั่วครู่กรรณนรีก็ฟื้นได้สติ พ่นน้ำออกมา สรวงมีสีหน้าโล่งใจ
       กรรณนรีพึมพำแบบคนยังไม่ได้สติ “คุณสรวง...ฉันรักคุณ...”
       สรวงมองกรรณนรีอย่างเจ็บปวด แววตาเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายใจ
       “ทำไมต้องเธอ....กรรณนรี”
     
       ที่บ้านพักริมชายหาด สองคนเดินมาที่ห้องพัก นิคถามขึ้น
       “แกจะบอกเรื่องกาวกับคุณภาพิศหรือเปล่า”
       มะยมส่ายหน้า “บอกแล้วได้อะไร? นอกจากมีคนเจ็บเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน บอกแค่ตัวเองก็พอ ชีวิตนี้อย่าทำความเดือดร้อนให้ครอบครัวใครเป็นเด็ดขาด”
     
       สองเพื่อนซี้มองหน้ากันด้วยความเห็นใจ และเข้าใจ
          สรวงขับรถมาส่งกรรณนรีที่หน้าบ้านด้วยใบหน้าบึ้งตึง ตอนรุ่งเช้า ขณะที่กรรณนรีนั่งซุกตัวอยู่กับเบาะ ท่าทีสรวงรังเกียจและดูห่างเหินอย่างเห็นได้ชัด จอดรถโดยไม่ยอมมองแม้แต่หน้ากรรณนรี
     
       สรวงปรายหางตามองเหยียด “ไม่ต้องทำท่าอย่างนั้น คิดเหรอว่าฉันอยากแตะต้องตัวคนสกปรกอย่างเธอ” ชายหนุ่มสะเทือนใจจนน้ำเสียงเครือ “ไม่มีอีกแล้ว กรรณนรี ไม่มีอีกแล้ว...”
       สรวงไม่มองหน้ากรรณนรีอีกเลย กรรณนรีค่อยๆ เปิดประตูรถลงไป ทั้งหวาดกลัวและเสียใจ
       ทันทีที่เสียงประตูรถปิดลง สรวงมองตามร่างของกรรณนรีด้วยสายตาเจ็บปวดและเสียใจไม่ต่างกัน
     
       สรวงเดินเข้ามาในห้องพักส่วนตัว ในห้องทำงาน ภาพหวานระหว่างกรรณนรีกับตัวเองผุดขึ้นมาหลอกหลอน สรวงขบกรามแน่นด้วยความเจ็บปวดร้าวราน นพเดินเข้ามาหาหน้าเครียดขึ้ง
       “อ้าว!มาตั้งแต่เมื่อไหร่” สรวงหันมา “แล้วเป็นไรหน้าตาเหมือนไม่ได้นอนทั้งคืน”
       สรวงมองหน้านพจับสังเกต “พี่เองก็เหมือนกัน มีอะไรรึเปล่าพี่”
     
       สองหนุ่มอยู่ในร้านกาแฟข้างออฟฟิศ นพยกถ้วยกาแฟซดเหมือนดื่มเหล้ารวดเดียวหมด บอกอย่างกลัดกลุ้ม
       “กลุ้มใจว่ะ คุณนาด่าพี่ตลอด”
       สรวงยิ้มขื่น “ผู้หญิงเค้าก็บ่นไปอย่างงั้นแหละพี่”
       นพถอนหายใจ “บ่นน่ะพี่ชิน แต่เค้าด่าพี่สรวง เค้าดูหมิ่น เหยียดหยาม ทำเหมือนพี่มาเกาะเค้ากิน ทั้งๆ ที่เงินเดือน พี่ก็ให้เค้าทุกบาท เงินเค้าพี่ก็ไม่เคยแตะ พูดตรงๆ ถึงพี่จะรักเค้าแค่ไหน แต่ตอนนี้พี่ล้าแล้วว่ะ”
       “ใจเย็นๆก่อนพี่ ใจเย็นๆ”
       นพไม่ทันพูดอะไรอีก เสียงมือถือก็ดัง แต่นพไม่รับ มือถือก็ดังอยู่อย่างนั้น จนในที่สุดนพต้องรับ
       ทันทีที่รับเสียงนาก็แผดออกมาดังก้อง
       “กล้าดียังไงคุณถึงไม่รับโทรศัพท์ฉัน” นพเอามือถือออกห่าง “ฉันสั่งเอาไว้ไม่เคยจำใส่หัวรึไง ฉันโทร.มาให้รับทันที”
       นพตัดสายทิ้งแล้วปิดมือถือทันที
       “ได้ยินแล้วใช่มั้ย พี่ไม่ไหวว่ะ ยิ่งอยู่ ยิ่งไม่มีศักดิ์ศรี พี่จะเลิกกับเค้า”
     
       สรวงพูดไม่ออก ได้แต่ทำหน้าเห็นใจแทน
     
       ที่บ้านพัก นิคสะพายกระเป๋าพร้อมกลับ หันมาถามย้ำกับมะยม
       “แกอยู่คนเดียวได้แน่นะ”
       “ได้สิ....ตั้งแต่พ่อแม่ตาย ฉันก็อยู่คนเดียว”
       นิคโยกหัว “น้อยใจอีกแล้ว...” พลางกอดไหล่มะยมปลอบ “จำไม่ได้รึไง ถึงตัวจะไม่ได้ติดกัน แต่แกมีฉันตลอดเวลามะยม” เอามือออก “แล้วจะให้บอกพี่จ๋ายังไง”
       “ขอลาพักร้อน สบายใจเมื่อไหร่จะกลับ”
       “แล้วเจอกัน ดูแลตัวเองด้วยนะเว้ย”
       “เออ..ขอบใจ”
     
       นิคเดินออกไป มะยมมองนิคจนลับตา ก่อนเดินเรื่อยเปื่อยเลาะไปตามชายหาด
     
       มะยมเดินเล่นมาเรื่อยๆ แต่แล้วต้องชะงักเมื่อเจอนพยืนเหม่ออยู่ที่ริมทะเลเบื้องหน้า มะยมเรียกอย่างไม่เชื่อสายตา
       “คุณนพ”
       นพเองก็แปลกใจ “คุณมะยม”
       “ไม่คิดเลยว่าจะเจอคุณนพที่นี่”
       นพหน้าหมอง “พอดีเบื่อๆ นะครับ....คุณมะยมล่ะ”
       “มะยมก็...เบื่อๆ เลยถือโอกาส ลางานซะเลย”
       “คนเบื่อสองคนมาเจอกัน จะยิ่งไม่เบื่อเหรอครับ” นพสัพยอก
       มะยมเย้า “ก็คง เบื่อกำลังสองมั้งคะ”
       สองคนหัวเราะขำๆ บรรยากาศเริ่มผ่อนคลาย
     
       ที่ริมทะเล สองคนเดินคุยกันอย่างมีความสุข
       “นังภาพิศมันตกบันได สมน้ำหน้า ขนาดโทร.ไปอ้อนตาสรวง ตาสรวงก็ไม่สนใจ”
       “มันคงทำใจไม่ได้ ขนาดมีลูกอยู่ในท้อง ท่านยังทิ้งมันไปได้ บาปกรรมทันตาจริงๆ”
       สุดาหัวเราะ “กลับกรุงเทพฯคราวนี้ แม่จะฉลอง”
       “อย่าเพิ่งสิคะคุณหญิงแม่..ใจเย็นๆ รองานเสร็จก่อนค่ะ เพราะฤทัยยังมีไม้เด็ดที่จะจัดการพวกมันค่ะ”
       สองคนหัวเราะชอบใจ
     
       เย็นนั้นสุขหฤทัยโทรศัพท์คุยกับกรรณนรี
       “เธอทำดีมาก....จำไว้....แผนสำเร็จเร็วเท่าไหร่....คลิปพี่ชายเธอก็จะถูกทำลายเร็วเท่านั้น”
       กรรณนรีเกาโทรศัพท์แน่น “คุณจะให้ฉันทำยังไงต่อ”
       สุขหฤทัยยิ้มสะใจ
     
       ไม่นานต่อมา กรรณนรีในชุดเดรสสั้น สวยเซ็กซี่ โดดเด่นเป็นสาวทรงเสน่ห์ เดินนำหน้าอารักษ์เข้ามาในโรงแรมหรู ในลักษณะพ่อแง่แม่งอน กรรณนรียามนี้ใส่จริตแพรวพราว อารักษ์เดินตามพะเน้าพะนอ เอาอกเอาใจ
       “หนู...หนู..รอฉันก่อนสิจ๊ะ”
       “หนูไม่อยากรอแล้วท่านแก้ปัญหาให้หนูไม่ได้”
       อารักษ์เงียบกริบ กรรณนรีหันไปมองในลักษณะชายตาสะบัดสะบิ้งใส่
       “ท่านยังไม่ได้ไปพูดเรื่องหย่ากับคุณหญิงใช่มั้ยคะ?” ประกายตาวาววับน่ากลัว
       อารักษ์อึกอัก “ฉันยังไม่มีโอกาส....แต่ฉัน...ฉันบอกเลิกภาพิศไปแล้วนะ”
       กรรณนรีหันหน้ากลับมามองดวงตาโกรธ “ท่านบอกหนูแล้วเป็นรอบที่ 199” หันมามองอารักษ์พูดอ้อนเสียงหวาน “แต่สิ่งที่หนูอยากได้คือใบหย่า”
       อารักษ์อึกอัก กรรณนรีออดอ้อน
       “เพราะถ้าไม่มีใบหย่า หนูต้องถูกตราหน้าว่าแย่งสามีคนอื่นเหมือน...” เสียงเครือ “กับคุณภาพิศ อีกอย่าง พ่อแม่หนูไม่ยอมแน่ๆ ถ้ารู้ว่าหนูมาคบกับคนมีครอบครัว”
       อารักษ์เอื้อมมือจะแตะตัวกรรณนรี แต่กรรณนรีเบี่ยงออก “น่า..หนูก้าง หนูรออีกนิดนะ ฉัน
       จะเอาใบหย่าจากคุณหญิงสุดามาให้หนูให้ได้ นะ...”
       กรรณนรีหน้างอ อารักษ์ยิ้ม
       “ป่ะ!เข้าไปหาอะไรทานก่อน จะได้ใจเย็นๆ”
       กรรณนรีเดินนำอารักษ์เข้าไปข้างใน
     
       สุดาเห็นภาพอารักษ์เข้าไปในโรงแรมกับกรรณนรีก็ยิ้มพอใจ
         คืนนั้นเสียงโทรศัพท์ดังแหวกความเงียบขึ้น ภาพิศกดรับ
     
       “ว่าไงคะคุณหญิงพี่?”
       สุดายิ้มย่อง แต่แสร้งทำเสียงตกใจ “พี่เจอผู้หญิงคนใหม่ของท่านแล้วนะคะ”
       ภาพิศเบิกตากว้าง อยากรู้เต็มทน “ใครคะ”
       “เป็นคนที่รับรองว่าคุณน้องคาดไม่ถึง อยากรู้ก็รีบมาดูให้เห็นกับตาเองดีกว่าค่ะ”
       สุดาพูดเป็นนัยก่อนจะวางสายยิ้มสะใจ ในขณะที่ภาพิศแทบขาดใจ
     
       ภาพิศก้าวฉับๆ เข้ามายังโรงแรมแห่งนั้นอย่างร้อนใจ สุดาที่รออยู่ ลอบยิ้มหยัน แต่ครั้นพอภาพิศเดินมาใกล้ก็ทำสีหน้าร้อนรนใจ ภาพิศถามอย่างกราดเกรี้ยว
       “นังนั่นมันอยู่ไหนคะคุณหญิงพี่”
       “อยู่กับท่านข้างในน่ะสิ ป่านนี้ไปถึงไหนต่อไหนกันแล้วก็ไม่รู้”
       ภาพิศโกรธจนตัวสั่น สุดาสะใจ ก่อนบอก
       “ไปเร็ว” สุดารีบเดินนำเข้าไปข้างใน
     
       สุดาเดินนำภาพิศเข้าไปด้านใน ภาพิศเห็นกรรณนรีนั่งอยู่กับอารักษ์ด้วยท่าทางกระเง้ากระงอด ภาพิศตะลึงงัน ตกใจ คาดไม่ถึง
       “หนูก้าง!”
       สุดาน้ำเสียงเหี้ยม “คาดไม่ถึง อย่างที่พี่บอกเลยใช่มั้ยคะ”

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 9/2 วันที่ 2 ต.ค. 55
ละครเรื่อง ไฟมาร บทประพันธ์โดย : เกตุวดี
ละครเรื่อง ไฟมาร บทโทรทัศน์โดย : พนิดา
ละครเรื่อง ไฟมาร กำกับการแสดง : ทองสิทธิ์ โสดาโคตร , กฤษฎากร มะลิวัลย์
ละครเรื่อง ไฟมาร ผลิตโดย : บริษัทดาราวิดีโอ จำกัด
ละครเรื่อง ไฟมาร แนวละคร : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง ไฟมาร ออกอากาศ : พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager