@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงเงา วันที่ 13 พ.ย. 55

อ่านละคร แรงเงา วันที่ 13 พ.ย. 55

เวลาเดียวกันที่โรงพยาบาล ไม่มีใครนอนเฝ้านพนภาที่ห้อง เนตรนภิศมาเยี่ยมเห็นพี่สาวนอนนิ่งเหมือนผัก เนตรนภิศก็เดินมาพูดเยาะเย้ยอย่างสะใจ โดยไม่ได้สังเกตว่าอินเตอร์คอมเปิดอยู่

“ไงคะ นอนตาปริบ ๆ คิดอะไรอยู่ ฉันรู้ในหัวพี่คิดอยู่อย่างเดียวคือ ผัวฉันอยู่ไหน ผัวฉันหายไปไหน...เขาก็ไปเมามัวมั่วกามอยู่น่ะซี....มีแต่นังน้องโง่เง่าไม่เอาไหนเท่านั้นแหละที่มาคอยเฝ้า เคยจิกหัวใช้มาตั้งแต่เล็กจนโต ก็ยังเป็นนางทาสผู้ภักดีอยู่ แต่วันนี้ถึงวันเลิกทาสแล้วค่ะ”

นพนภาตาเบิกกว้างมีอาการเหมือนสะท้านเยือก เนตรนภิศยิ้มเยาะ เดินกรายมาพูดกรอกหู

“เป็นอะไรคะ ฉี่ออกมาหรือ เชิญนอนจมอึจมเยี่ยวไปก่อนนะคะ ฉันเพิ่งไปทำเล็บมา...มองหาใครช่วยคะ แม่หรือ แม่ไม่มาหรอกค่ะ เพราะงกวิ่งวุ่นหาเงินมาทำหน้า ลูกเต้าไม่สนหรอกค่ะ”

นพนภาตัวสั่นหายใจหอบ เนตรนภิศเห็นสภาพของพี่สาวยิ่งสมใจ ก่อนจะระบายความในใจออกมา



“แม่รักแต่พี่เพราะพี่สวย หัวดี ช่วยกิจการเขาให้งอกเงย แม่ดูถูกว่าฉันคืออีโง่ แต่ฉันไม่ได้โง่...รู้ไหม เรื่องนังมุตตาเริ่มต้นมาจากไหน...วันนึงนังแจงจิต เลขาฯหน้ากะปอม มาบอกหนูให้รีบไปบอกพี่ว่า ผัวพี่กำลังจ้องนังมุตตาตาเป็นมัน ฉันเตรียมไปบอก แต่จู่ ๆ วันนั้นพี่ก็อาละวาดตบฉัน ฉันก็เลยปิดปากไว้ รอให้ผัวพี่หลอกเคลมนังนั่นจนหนำใจ”

เนตรนภิศพูดออกมา โดยไม่รู้ว่าเวลานั้นอินเตอร์คอมฯถ่ายทอดเสียงออกมาข้างนอกห้อง ทั้ง นภางค์ เจนภพ และแจงจิต ที่กำลังเข้ามาเยี่ยมนพนภาได้ยินที่เนตรนภิศพูดทั้งหมดถึงกับอึ้ง

“ระหว่างนั้นฉันก็ส่งหนูรัชนกเข้าไป ไม่ใช่เป็นสปายให้พี่ แต่ให้มันยุแยงนังมุตตาให้จมปลักกับพี่ภพจนถอนตัวไม่ขึ้น แล้วฉันจึงปล่อยคลิปที่สมุยออกมา จนพี่ตามไปตบมันมุกกระจายไง กระจายเหมือนวันที่พี่ตกลงมาเป็นผักแบบนี้ไงคะ”

นพนภาฟังน้ำตาซึมแล้วหวนคิดถึงกรรม แววตาสงบลงเพ่งมองน้องสาวอย่างสังเวช เนตร นภิศยังไม่หนำใจ จึงบรรยายแผนชั่วทำลายครอบ ครัวพี่สาวต่ออย่างไม่รู้สึกผิด

“มันหายไปแล้วกลับมาใหม่ คราวนี้มันร้ายผิดไปเป็นคนละคน ฉันกับหนูนกก็คอยเป่าหูพี่ให้มากขึ้น และฉันก็พบว่าถ้าพี่หึงผัวมาก ๆ แล้วจะช็อก ฉันก็เลยได้ให้พี่ได้หึงผัวอีกชุดใหญ่ ให้มันตามไปอาละวาดพี่กลางงานปาร์ตี้ ค่ะ ไม่ใช่นังแต้วมันปากมากหรอกค่ะ แต่เป็นหนูเองที่บอกมันทุกอย่าง ให้มันตามไป...จากนั้น ฉันก็เลยทำคลิปเด็ด แต่ผัวพี่เกิดเป็นคนดีขึ้นมา เลิกกับนังนั่นแล้วจริง ๆ...ฉันก็เลยต้องหาคนที่เหมือนมุตตา และใจกล้าหน้าด้านพอจะหลอกผัวพี่ไปขึ้นเตียง ก็คือหนูนกแสนซื่อแสนดีของพี่ไงคะ” เนตรนภิศหัวเราะเยาะเย้ยพี่สาว

นพนภานิ่งสงบ แต่เนตรนภิศกลับยิ่งวิกลด้วยความแค้น

“และเมื่อนังมุตตามันนัดผัวพี่ไปเพื่อบอกเลิก ฉันก็แค่เอาคลิปนังมุตตาตัวปลอมให้พี่ดู แค่ยัดปืนใส่มือพี่ แค่ขับรถพาไปให้ทัน แค่นั้นกรรมก็ส่งผลของมันแล้ว”

เนตรนภิศมองดูความนิ่งของนพนภา ก็เข้ามาเขย่าตัวอย่างบ้าคลั่ง

“ทำไมนิ่ง ทำไมไม่แค้น ฉันรู้ว่าพี่ได้ยินทุกคำ ได้ยินไหม เงากรรมมันตามทันพี่แล้ว”

“แล้วก็ตามทันแกด้วยนังนภิศ” นภางค์ เจนภพ สร้อยคำ แต้ว แจงจิตทุกคนก้าวเข้ามาในห้อง เนตรนภิศตาเหลือกจับคอเสื้อนพนภาค้าง เจนภพถลันมาจับเนตรนภิศเหวี่ยงไปกลางห้อง

“แม่นภาฉลาดกว่าแกเสมอ ถึงขยับตัวไม่ได้แต่ก็ขยับนิ้วกดอินเตอร์คอมฯให้แกได้ออกอากาศ”

“คุณแม่” เนตรนภิศตกใจ

“ไป! ฉันไม่อยากมาตัดแม่ตัดลูกกับแกตอนนี้”

“อะไรกันคะคุณแม่ ถึงขั้นจะตัดแม่ตัดลูกกับหนูเลยเหรอ”

นภางค์มองหน้าเนตรนภิศนิ่ง แล้วอย่างไม่มีใครคาด นภางค์ฟาดฝ่ามือเข้าเต็มหน้าเนตร นภิศ เนตรนภิศตกใจวิ่งร้องไห้ออกไป นพนภามองตามตัวสั่น เจนภพกอดนภาแน่นเข้า นภางค์น้ำตาร่วง ทุกคนได้แต่สลดใจ

มุนินทร์กลับมาบ้านด้วยความสลดใจ อีกวันเดียวก็จะถึงวันเผาศพน้องสาว...มุนินทร์มาช่วยพิณร้อยพวงมาลัย พิณเห็นมุนินทร์แล้วอดนึกถึงมุตตาไม่ได้ เพราะก่อนตายมุตตายังร้อยพวงมาลัยมาขออโหสิกรรม

“วันนั้น แกกับฉันจะสังหรณ์ซักนิดก็ไม่มี ลูกมาขออโหสิกรรม ลาไปตายแท้ ๆ”

พิณกับแปลกถอนใจ มุนินทร์ใจหายวาบ

“ช่วงนั้นมัวแต่ไปสนใจเรื่องชาวบ้านน่ะซี ช่วงนั้นรินมันเพิ่งอุ้มท้องกลับมา ลือกันทั้งตำบลว่ามันเป็นเอดส์”

“ฉันกับพ่อแกน่ะห้ามตาไปมาหาสู่ ตอนนั้นน่ะคิดอยู่แต่ว่าท้องไม่มีพ่อแถมติดโรคร้าย จะกลับมาให้พ่อแม่อับอายขายขี้หน้าทำไม ตายซะยังดีกว่า”

นางพิณเล่าเรื่อยเจื้อย แต่มุนินทร์แทบผงะ

“แม่แค่คิด หรือว่าแม่พูดออกไปด้วยคะ”

“ฉันจำไม่ได้ ตั้งร้อยวันมาแล้ว ทำไม ฉันพูดไม่พูดแล้วมันยังไง”

“ถ้าแม่พูดออกไป นั่นก็คือคำพิพากษา ให้ตาลงโทษประหารตัวเองไงคะ”

พิณผงะไปแล้วร้องไห้ออกมา นายแปลกหน้าเผือด มุนินทร์ขมขื่นสุดขีด

“ตกลงทุกคนช่วยกันลงมือให้ตาตาย”

“นิน ใจเย็น ๆ อดีตมันผ่านไปแล้ว แก้ไขไม่ได้แล้ว แต่เราจะได้ใช้มันเป็นบทเรียนให้เราไม่ทำผิดอีก”

มุนินทร์มองดูแม่เห็นการโทษตัวเองอย่างแรงกล้า

“ฉันผิดเอง ฉันทำผิดมาตลอด ฉันทำไม่ดีกับตาไว้มาก”

มุนินทร์กุมมือนางพิณไว้ นางพิณมองอดีตลูกชังน้ำตานองหน้า

“แม่คะ”

“กับแกก็เหมือนกัน นิน”

พิณกอดลูกไว้ราวจะขอโทษลูกทั้งสองคน นายแปลกสะอื้นฮัก แต่ทั้ง 3 พ่อแม่ลูกราวกับได้ขอโทษซึ่งกันและกัน ไม่มีเวรใด ๆ ติดค้างในใจมุนินทร์อีกต่อไป

วีกิจเดินทางมาถึงเพชรบูรณ์เช็กอินเข้าพักในโรงแรมตัวเมือง ก่อนจะออกตามหาบ้านของมุตตาซึ่งทำไร่ดอกไม้ พนักงานโรงแรมแนะนำให้วีกิจไปคุยกับหมอบี เพราะรู้จักที่นั่นดี...หมอบีได้เจอกับวีกิจ ทั้งสองนั่งคุยกันเรื่องมุตตาและมุนินทร์

“ผมเป็นเพื่อนสมัยเรียนของน้องตากับไอ้นิน”

“ทำไมเรียกอย่างงั้นล่ะฮะ”“สองคนนี่เด็กกว่าผม 2 ปี แต่ไอ้นินมันเรียนเร็ว เลยเรียนชั้นเดียวกับผม มันเรียนเก่งกว่าผม แต่ทั้งดื้อทั้งซน โดดเรียนจนครูแทบฆ่ามัน แวบไปแวบมาเป็นนินจา”

“ฮะ เขาเป็นนินจา”

“แต่มันไม่ได้โดดไปเล่น ๆ นะฮะ มันแวบไปรับงานพิเศษทำ หาเงินตัวเป็นเกลียว แต่กับน้องตา ผมเคยสนิทกับตามากนะฮะ พอโดนนินแกล้งก็มาฟ้องผม ให้ผมไปจัดการให้ แต่ผมกลับโดนมันถล่มกลับ”

“เขาร้ายจะตายฮะ เจ้าคิดเจ้าแค้นยังกะอะไรดี”

หมอบีไม่ได้เล่าให้ฟังเรื่องการตายของมุตตา แต่เขาพาวีกิจมาที่บ้าน

ที่กระทรวงรัชนกถูกเจนภพเรียกไปคุยเพื่อเชิญให้ออกจากการเป็นลูกจ้างชั่วคราว โดยเอาเรื่องที่เธอทำไว้มาคุย รัชนกไม่ได้สลด แถมยังยิ้มยั่ว

“ปากจัดอย่างนี้ เรียนมาจากเมียอัมพาตของคุณแน่เลย ถ้าฉันทำผิดคุณก็น่าจะต้องตั้งกรรมการสอบสวนซีคะ”

“คงมีกรรมการที่ทั้งอยากสอบสวนคุณอยู่หลายคน ถ้าได้เห็นคลิปชุดนี้”

เจนภพกดเพลย์ภาพคลิป รัชนกในคราบมุตตาที่ขึ้นคร่อมเจนภพ และคลิปประสิทธิ์ชัยปลุกปล้ำรัชนก

“แค่ 2 คลิปนี่ คณะกรรมการคงไม่มีใครคิดว่าคุณคือสาวแสนซื่อที่ตกเป็นเหยื่อแล้วล่ะ”

รัชนกพลันปรบมือ หน้านิ่ง ไม่มีท่าทีเกรงกลัว

“โอเคค่ะ คุณชนะ เฮ้อ พวกคุณทำลายฝันฉันหมดเลย ฉันกะจะเก็บไปให้ถึงซีสิบเอ็ดก่อนน่ะซีคะ แล้วถึงจะออก นี่ได้แค่ซี 4 กระจอก ๆ กับซี 8 ที่เกือบหมดน้ำยาเท่านั้นเอง”

“ใช่ ผมควรจะรู้ตัวซักที”

รัชนกผิดคาด ยิ้มพราย ยักไหล่เดินออกไปอย่างไม่แคร์ในสิ่งที่ทำ...พอเดินออกมาก็เห็นแจงจิต ปริม ทิพอาภา อรพิม เลอลักษณ์ นักรบ ฉกรรจ์ ยืนอออยู่หน้าห้อง แม่สาวเจ้าเล่ห์ก็แสร้งทำเป็นร้องไห้เสียใจ แถมยังโกหกเพื่อน ๆ หน้าตายว่าเพราะเธอไม่ยอมไปนอนกับเจนภพ เขาเลยไล่เธอออก แต่ไม่มีใครเชื่อ

มุนินทร์เห็นวีกิจมา เธอก็ตื่นเต้นดีใจ แต่หน้าเชิด พูดจาเหมือนไม่อยากจะต้อนรับ แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ยอมบอกให้รู้เรื่องมุตตา แต่ขับรถพาไปที่วัดเพื่อให้เขาเห็นกับตาว่ามุตตาอยู่ที่ไหน

“ตามาถือศีลหรือฮะ”

“ค่ะ ตอนนี้ตาละเว้นจากบาปทั้งหลายแล้ว” มุนินทร์พูดเสียงเรียบ

วีกิจพูดไม่ออก เพราะไม่ว่าพูดอะไรก็โดนจิกกัดได้หมด...มุนินทร์พาวีกิจเข้าไปในป่าช้า แล้วชี้หลุมศพของน้องสาวให้เขาดู วีกิจถึงกับยืนช็อก

“นี่ไงคะ เราให้ตาอยู่ตรงนี้ เราฝังตาไว้ที่นี่ครบร้อยวันแล้ว”

วีกิจตัวชาวูบ มองดูป้ายไม้มีรูปมุตตาเล็ก ๆ ปิดอยู่มองออกมา ไม้เลื้อยรอบเสาออกดอกพราว

“ตา! เกิดอะไรขึ้นฮะ”

“ฉันกลับมาจากอเมริกา กลับมาบ้าน มาหาพ่อแม่ หาตา แต่ตาไม่ยอมรอฉัน”

“นี่มันเมื่อไรกันครับ”

“ตาเพิ่งกลับมาจากกรุงเทพฯได้สองวัน ฉันเป็นคนแรกที่เห็นตาผูกคอตายอย่างโดดเดี่ยว แต่ตาไม่ได้จากไปตามลำพัง ตาตายพร้อมกับลูกในท้อง เลือดเนื้อเชื้อไขของอาคุณ”

วีกิจน้ำตาเอ่อคุกเข่าลงช้า ๆ ก้มหน้าลงร้องไห้ ภาพมุตตาที่ได้เห็นครั้งสุดท้ายเมื่อมีชีวิตแวบเข้ามา

“ตา วันนั้นเอง ตามองผมแบบรู้ว่าเป็นการมองครั้งสุดท้าย” มุนินทร์มองดูสะเทือนใจเรื่องน้อง แต่ใจอีกครึ่งก็ยิ่งเชื่อว่าวีกิจรักแต่มุตตา มุนินทร์เชิดหน้าให้น้ำตาแห้งหาย

“ทำไมฮะ ทำไม”

“ตาเลือกแบบนั้น มนุษย์มีสิทธิที่จะเลือก มันอาจไม่ถูกต้อง แต่ตาก็เลือกไปแล้ว ในขณะที่ฉันเลือกที่จะให้ตายังอยู่ และกลับไปเรียกหาความยุติธรรม”

“คุณถึงกลับไปสวมบทบาทมุตตา”

“และฉันพบว่าบางทีสิ่งที่ฉันเลือกอาจจะผิด และสิ่งที่ตาเลือกอาจจะถูกก็ได้ เรากลับกันได้แล้วค่ะ พรุ่งนี้เราจะทำบุญให้ตา มะรืนนี้เป็นวันเผา”

“ผมจะอยู่จนถึงวันนั้น ขอให้ผมได้ส่งศพเป็นครั้งสุดท้าย”

ทั้งคู่ยืนมองหลุมศพงดงามนั้น ดอกลั่นทมโปรยลงบนหญ้าเขียววันถัดมา ทุกคนในกองก็ได้รับการ์ดงานศพของมุตตา จงสวัสดิ์ แต่ละคนพากันวิพากษ์วิจารณ์เพราะคิดว่าเป็นการล้อเล่น กระทั่งเจนภพได้รับโทรศัพท์จากวีกิจโทรฯมา

“มะรืนนี้ อาภพขึ้นมาเพชรบูรณ์ได้ไหมฮะ”

“มีอะไรหรือ”

“ผมอยากให้อาภพมาให้ได้ มาแค่ 2-3 ชั่วโมงก็ยังดี อย่างน้อยก็มาใส่ดอกไม้จันทน์ และขออโหสิกรรมกับตาก็พอ”

เจนภพตัวชาวาบ การ์ดร่วงหลุดจากมือ เซไปเกาะผนังและทรุดลงน้ำตาซึม

เจนภพเดินคอตกกลับมาบ้าน เล่าเรื่องมุตตาฆ่าตัวตายเมื่อสามเดือนก่อนให้สร้อยคำฟัง

“แล้ว...มุตตาที่กลับมาสร้างเรื่องวุ่นวาย คือใครล่ะคะ”

“ผู้หญิงคนนั้นคือพี่สาวฝาแฝดของตา เขาสวมรอยเป็นตากลับมาแก้แค้นให้น้องสาว”

สร้อยคำพึมพำ ทำไม ทำไมหนูตาต้องทำอย่างนี้ด้วย “ตาท้องฮะ ตาท้องกับผมได้สามเดือน ตาคงหมดทางเลือกอื่นจริง ๆ จึงได้เลือกความตายให้เขากับลูกเป็นทางออก”

“โธ่เอ๋ย กรรมเวรอะไรอย่างนี้ โธ่เอ๋ย หนูตา”

“พี่สาวของตาชื่อมุนินทร์ฮะ ที่เขาทำลงไปมันสาสมแล้ว ผมจะไม่โทษเขาเลย แต่ผมต้องโทษตัวเอง ที่ทำลายชีวิตไปไม่รู้กี่คน” เจนภพรู้สึกผิดอย่างรุนแรง แต่มันก็สายไปแล้ว

ด้านมุนินทร์มาเดินเล่นที่ริมบึงบัว นึกถึงความหลังที่เธอกับน้องสาวเคยทะเลาะกัน จนเกือบทำให้มุตตาตายตั้งแต่เด็ก...มุนินทร์ยังรู้สึกผิด ยืนเหม่ออยู่ริมบึงบัว พลันเหลือบเห็นรินลดากำลังเดินลงน้ำเพื่อฆ่าตัวตาย มุนินทร์ตกใจมาก รีบตามไปช่วย และลากตัวรินลดาขึ้นมาจากน้ำได้สำเร็จ

“เธอช่วยฉันไว้ทำไม ฉันอยากตาย”

มุนินทร์กอดรินลดาไว้อย่างปลอบประโลม รินลดาตัวสั่น

“เธอไม่กลัวติดโรคหรือ แม่ฉันติดโรคจากฉันเพิ่งตายไป”

“แม่เธอหัวใจวายต่างหาก ริน เธอจะให้ลูกตายไปกับเธอหรือ อีกแค่ 2 เดือน แกก็จะลืมตาดูโลกแล้วนะ”

“อีก 2 เดือน แกก็จะเป็นเด็กที่ติดเอดส์”มุนินทร์บีบมือรินลดา

“เธอรู้ไหมมีเด็กตั้งเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ไม่ติดโรคจากแม่ที่เป็นเอดส์ เธอจะไม่ให้โอกาสลูกเธอเลยหรือ”

“จริงหรือ”

“จริงซี ให้โอกาสลูกและให้โอกาสตัวเธอเองเถอะนะริน”

“ให้ฉันสู้กับโชคชะตาหรือ”

“ใช่ ถึงวันนึงเราจะแพ้ แต่อย่างน้อยเราก็ได้สู้แล้วไง ริน” มุนินทร์ให้กำลังใจ

รินลดารู้สึกมีความหวังและกำลังใจขึ้น เธอยิ้มให้มุนินทร์อย่างขอบคุณ

ก่อนเจนภพจะเดินทางไปเพชรบูรณ์ เขานำช่อดอกลิลลี่มาหานพนภาที่ห้องคนไข้ พร้อมกับบอกเล่าเรื่องมุตตาฆ่าตัวตายพร้อมลูกในท้องให้นพนภาฟัง นพนภารู้สึกยะเยือก แม้จะพูดออกมาไม่ได้ แต่แววตาและท่าทางของเธอบอกว่ารู้สึกผิด

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นพี่สาวฝาแฝดของตา เขาถึงได้มาตอบโต้คุณ ตอบโต้ผมอย่างแสนสาหัสขนาดนั้น”

น้ำตานพนภาเอ่อขึ้นแล้วรินไหลลงช้า ๆ เจนภพน้ำตาคลอ ยกช่อลิลลี่ขึ้น

“ดอกไม้นี่ ตาเคยชอบมาก ผมอยากเอาไปให้เขาเป็นครั้งสุดท้าย”

นพนภามองดอกลิลลี่ นิ่ง เจนภพพยายามอ่านท่าที คิดว่าเธอต้องการดอกไม้ จึงดึงลิลลี่มาให้เธอดอกหนึ่ง

“คุณจะขออโหสิกรรมกับเขาหรือ”

เจนภพเสียงสั่น แล้วจับมือนพนภา 2 ข้างขึ้นประกบพนมบนอก วางดอกลิลลี่ในมือพนมนั้น

“อโหสิกันเถอะนะนภา อโหสิกรรมกับตาและพี่สาวตาให้หมด ไม่ใช่เพื่ออะไร หรือเพื่อใครแต่เพื่อใจของคุณเอง”

นพนภาพนมมือ หลับตาลงส่งจิตรวมเป็นหนึ่งขออโหสิกรรม น้ำตารินไหลลงจากหางตา

“ดอกไม้นี่จะเป็นดอกไม้ของเราสองคน ที่จะได้ใส่ลงในไฟเผาตา” นพนภาสบตาสามีเหมือนรับคำ

ก่อนวันงานเผาศพมุตตา ทุกคนต่างก็เดินทางมาร่วมงานของเธอกันอย่างพร้อมเพรียง รวมทั้งเพื่อน ๆ ในกระทรวง...เจนภพมานอนพักที่โรงแรมที่เดียวกับวีกิจ และเพื่อนร่วมงาน...ไสวรินทร์ พนักงานต้อนรับของโรงแรมเจอหน้าเจนภพก็ปิ๊งเขาขึ้นมา

มุนินทร์ลงมาดูความเรียบร้อย เห็นพ่อกับแม่นั่งดูหนังสืองานศพของมุตตาก็เข้ามาคุยด้วย พิณบ่นเรื่องลูกศรที่ทำตัวไม่เรียบร้อย ผลุบผลับ ๆ มุนินทร์ช่วยแก้ต่างแทนเพื่อนว่า เธอคือลูกสาวอดีตรัฐมนตรี แม่เป็นคุณหญิง ที่บ้านรวยมีเงินเป็นพันล้าน ส่วนลูกศรเองก็กำลังจะไปทำดอกเตอร์ที่เมืองนอก ท่าทีของพิณที่มองลูกศรก็เปลี่ยนไปทันที

“มิน่าเขาถึงมีออโรร่าผิดจากพวกเรา เฮ้อ แปลกจริง คนเหมือนกัน แต่ทำไมต่างกันนัก”

“กรรมไงเล่า กรรมแยกคนให้ประณีต เลวทรามแตกต่างกัน”

“พูดถึงกรรม เขาว่าคนฆ่าตัวตาย ต้องฆ่าตัวตายไปอีกห้าร้อยชาติ”

“ใครว่าคะ” มุนินทร์พูดน้ำเสียงไม่พอใจ

“หมอสะไบทิพย์นั่นไงว่าไว้ ทายแม่นเหมือนตาเห็น ทำไมนะทำไมตอนมันขอไปอยู่กรุงเทพฯถึงได้ลืมไปหมด”

“เพราะกรรม” แปลกรำพึง

“คำทำนายนั่นจะไม่แม่นหรอกค่ะ ถ้าเราทุกคนเอาใจใส่ดูแลตามากกว่านี้ หนูเชื่อเรื่องกรรม หนูเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด แต่หนูไม่เชื่อเรื่องลูกหมาห้าร้อยชาติ หรือเป็นคนพิการห้าร้อยชาติ”

“แล้วแกเชื่ออะไร” พิณถามลูกสาว

“ทุกอย่างเกิดจากเหตุปัจจัยต่างหากคะ กรรมอยู่ที่จิตเจตนาของเรา วันไหนเราคิดได้ เรารู้เราตื่น ก็จะพ้นทุกข์ได้”

พิณฟังอย่างไม่เข้าใจนัก นายแปลกนั่งฟังอย่างพอใจ

“ถึงตาเป็นดวงวิญญาณ แต่ถ้าจิตของตาคิดได้ ตาก็หลุดพ้นได้เหมือนกัน ถ้าแม่อยากเชื่อเรื่องห้าร้อยชาตินั่น ก็ให้เชื่อว่านี่คือชาติที่ห้าร้อยของตา ต่อไปตาจะหมดเวรแล้ว”

นางพิณยิ้มออก มุนินทร์เอามือแม่มาจูบ นายแปลกปลื้มใจลูก ...ทันใดมีลมแรงพัดมาเบา ๆ กลิ่นดอกไม้หอมฟุ้งไปทั่วบ้าน โมบายรอบบ้านดังกรุ๊งกริ๊ง ๆ กังวานใส สามพ่อแม่ลูกนั่งน้ำตาไหลออกมาเงียบ ๆ

เมื่อถึงเวลาเผาศพมุตตา ทุกคนมาพร้อมกันที่วัด บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าสลด แปลกเห็นเจนภพนั่งหน้าเศร้า คุกเข่าลงหน้าศพก้มหน้านิ่ง น้ำตาหยดลงบนช่อดอกลิลลี่ วีกิจมองดูพลางถอนใจ แปลกเห็นอาการของเจนภพจึงกระซิบถามมุนินทร์

“เขาหรือนิน”

“พ่อจะให้อภัยเขาไหมคะ”

“ตาต่างหากลูกที่จะเป็นคนตัดสิน ว่าจะให้อภัยเขาหรือไม่”

เจนภพยืนขึ้น มุนินทร์เดินเข้ามาบอกให้เจนภพไปวางดอกไม้จันทน์ก่อนใคร เพราะถือว่าเขาเป็นคนสำคัญที่สุดของมุตตา

“ผมรู้ ผมหวังไว้ว่าในชาติหน้า ผมจะได้พบกับเขาอีก ขอให้จำกันได้ในทันที ได้มีโอกาสทดแทน...ตาให้หมด” เจนภพพูดอย่างสำนึกผิด

“ตาคงได้ยินสิ่งที่คุณพูด”

“ตา นี่ดอกไม้ของผม”

เจนภพวางดอกลิลลี่ทั้งช่อลง และดึงลิลลี่อีกดอกจากอกเสื้อ

“นี่ดอกไม้ของนภา นภาขออโหสิกรรมกับตา ตาอโหสิกรรมให้นภาด้วย”

มุนินทร์ได้ยินรู้สึกตื้นตัน เจนภพวางดอกลิลลี่เดี่ยวลงข้างช่อดอกลิลลี่ ก้มศีรษะอย่างต่ำแล้วถอยไป มุนินทร์วางดอกไม้จันทน์ลงพร้อมวีกิจ มือแตะกัน วีกิจจงใจไม่ดึงออก มุนินทร์ทำหน้านิ่ง

“ขอให้ไปสู่ภพใหม่ที่สุขสงบนะตา”

“ขออย่าให้เจอคนที่ทำร้ายเราอีกเลย”

มุนินทร์ดึงมือออกถอยไป วีกิจถึงกับอึ้ง...เพื่อน ๆ วางดอกไม้จันทน์ ก่อนทำพิธีเผาจริง เปลวเพลิงท่วมโลง ควันสีเทาพวยพุ่งจากปล่องเมรุสู่ท้องฟ้าสดใส เจนภพมองตามเปลวควันน้ำตาซึม พิณเป็นลมล้มพับ มีแปลกคอยดูแล มุนินทร์ยืนส่งใจไป บรรดาเพื่อน ๆ ทั้งที่เคยดี เคยร้ายต่อกัน น้ำตาเอ่อกันทุกคน

หลังจบงานแต่ละคนต่างแยกย้ายกันกลับ แต่วีกิจยังอยู่ที่ไร่ดอกไม้ เพื่อสารภาพความจริงกับมุนินทร์ว่าเขารักเธอ

“คุณรักคนที่คุณไม่เคยรู้จักได้ยังไงคะ”

“แล้วคุณสนิทกับผมได้ยังไง คุณก็แทบไม่รู้จักผมเหมือนกัน”

“นั่นมันแค่มารยาสาไถยของฉันต่างหากคะ”

มุนินทร์อดไม่ได้ที่จะเอาคำวันนั้นมาตอกกลับ วีกิจสะอึก

“แต่ผมแยกออกว่าอะไรคือมายา อะไรคือความจริง”

“ความจริงก็คือ คุณรักตา ไม่ได้รักฉัน”

วีกิจเพิ่งรู้ความจริงว่านี่คือสิ่งที่ติดข้องอยู่ในใจมุนินทร์

“ความจริงก็คือ เมื่อตาปฏิเสธผม ผมไม่รู้สึกอะไร แต่วันที่คุณมาปรากฏตัวแทนตา ผมกลับรู้สึกเปลี่ยนไปมันก่อตัวขึ้นทีละน้อย จนผมรู้ว่า ผมรักมุตตาที่เข้มแข็ง ผมรักเพราะว่าคุณไม่ใช่มุตตา ผมหลงรักมุนินทร์ตั้งแต่ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีคนชื่อมุนินทร์ในโลกนี้”

อ่านละคร แรงเงา วันที่ 13 พ.ย. 55

ละครเรื่อง แรงเงา นำแสดงโดย: เจนี่, เคน ภูภูมิ, ปิ๊ป รวิชญ์, ธัญญ่า ธัญญาเรศ
ละครเรื่อง แรงเงา บทประพันธ์โดย นันทนา วีระชน
ละครเรื่อง แรงเงา บทโทรทัศน์ : วิสุทธิชัย บุณยะกาญจน
ละครเรื่อง แรงเงา กำกับการแสดง : ชนินทร ประเสริฐประศาสน์
ละครเรื่อง แรงเงา ผลิต : บ. บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด โดย อรุโณชา ภาณุพันธ์
ละครเรื่อง แรงเงา แนว : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง แรงเงา ออกอากาศวันจันทร์ และอังคาร เวลา 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง แรงเงา เริ่มออกอากาศตอนแรกในวันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ที่มา เดลินิวส์