@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 10/4 วันที่ 21 ก.ค. 57

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 10/4 วันที่ 21 ก.ค. 57

“ไม่เป็นไรหรอก เฝ้าคุณต้นเถอะ” คุณหมอยิ้มให้ทุกคนก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง เจติยารีบเดินนำไปเปิดประตูห้องให้พร้อมยกมือไหว้ขอบคุณหมอรับไหว้แล้วออกไปจากห้อง
“ฉันบอกเธอแล้วว่าไม่เป็นอะไร ไม่เป็นอะไร ไม่ต้องตามหมอ เธอก็ไม่เชื่อ”

“ให้คุณหมอตรวจดูอาการไว้ก่อนน่ะดีที่สุดแล้วล่ะค่ะ ปวดหัวจนสลบ มันไม่ใช่เรื่องปกติหรอกนะคะ เกิดเป็นอะไรหนักขึ้นมา จะได้รักษาทัน”
ลาภิณมองเจติยานิ่งด้วยความซึ้งน้ำใจ “ยังไงก็ต้องขอบใจเธอมากนะที่ช่วยฉันเอาไว้”
“ฉันไม่มีวันทิ้งคุณอยู่แล้วล่ะ”


ลาภิณใจหวั่นไหววูบวาบพิกล “เธอห่วงฉันมากขนาดนี้เลยเหรอ”
ลาภิณและเจติยาสบตากันนิ่ง เจติยามีน้ำตาไหลซึมออกมาจากความอัดอั้นที่ต้องเข้มแข็งมาตลอด รีบยกมือขึ้นซับออก ลาภิณรู้สึกเห็นใจอย่างบอกไม่ถูก ค่อยๆ เลื่อนมือจะไปจับกุมมือเจติยา..แต่โทรศัพท์มือถือเจ้ากรรมของเจติยาดังขึ้นมาขัดจังหวะซะก่อน
ลาภิณรีบดึงมือกลับ แต่ก็แอบเงี่ยหูฟังการสนทนา
เจติยาดูเบอร์โชว์ รีบกดรับ ฟังปลายสายอึดใจด้วยอาการ ตื่นเต้น “ค่ะ เจจะรีบไปที่บ้านพี่เดี๋ยวนี้เลย” เจติยกดตัดสาย
ลาภิณที่มองการสนทนาด้วยสีหน้านิ่ง พูดถามด้วยน้ำเสียงแดกดันอยู่ในที “ใครโทรมา นายอยุทธ์เหรอะ”
“ไม่ใช่ค่ะ พี่ผู้กอง...”
“ถ้าไม่ใช่เรื่องด่วนอะไร อยู่เป็นเพื่อนฉันก่อนสิ ฉันยังมึนๆอยู่เลย”
เจติยารู้สึกอึดอัดใจ ร้อนใจอยากไปหานวัชมากกว่า “งั้นเจไปส่งคุณต้นที่บ้านก่อนนะคะ”
ลาภิณรีบพูดประชดประชัน “อยากไปบ้านผู้กองคนเดียว เพราะนายอยุทธ์อยู่ที่นั่นล่ะสิ” ชายหนุ่มเบะปากหมั่นไส้
“เจไปเรื่องงานค่ะ”
ลาภิณรู้สึกน้อยใจ กระเง้ากระงอด ลุกขึ้น “อยากไปไหนก็ไปเถอะ ไม่ต้องมาสนใจฉันหรอก ให้ปวดหัวจนสลบตายไปเลย” พร้อมกับเดินหน้างอนๆไปนั่งที่เก้าอี้ทำงานพร้อมหมุนเก้าอี้หันหลังให้
เจติยามองลาภิณด้วยสีหน้าใช้ความคิดลังเลไปมาจะเอายังไงดี
ลาภิณอมยิ้มมั่นใจว่าเจติยาจะต้องยอมอยู่กับตนมากกว่า ลาภิณค่อยๆ แอบหันมองมาทางเจติยา ปรากฏว่าผิดคาด เจติยาสะพายเป้เดินออกไปจากห้องทำงานซะแล้ว
ลาภิณสีหน้าเคืองๆ ไม่พอใจ อารมณ์คุณหนูเอาแต่ใจอยากเอาชนะเจติยาให้ได้

ลาภิณนั่งหน้าหงิกอยู่ที่โถงบ้านนวัช เหล่มองไปทางนวัชและเจติยาที่นั่งคุยงานกันเคร่งเครียดที่โต๊ะกินข้าว
“ระเบิดน่าจะระเบิดจากภายในรถ ไม่ใช่การติดตั้งระเบิดไว้ที่นอกตัวรถ อย่างที่คิดไว้ตอนแรก”
เจติยาฟังนวัชอธิบายพร้อมกับคิดตามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
อยุทธ์อมยิ้มเดินยกน้ำมาเสิร์ฟให้ลาภิณ “น้ำครับคุณต้น”
ลาภิณมองแบบกวนๆทำเมินไม่สนใจ “อือ..”
อยุทธ์อมยิ้มเดินไปหาเจติยาและนวัช จงใจไปยืนข้างเจติยาด้วย ลาภิณเหล่มองตามอยุทธ์ หน้าหงิก แอบหึง
อยุทธแปลกใจ “แล้วรู้ได้ยังไงครับ รถระเบิดจนเละซะขนาดนั้น”
“เราดูจากวิถีการระเบิด แล้วก็รอยฉีกขาดของตัวรถน่ะครับ ทำให้พอจะสันนิษฐานคร่าวๆได้”
เจติยาสูดหายใจลึก สีหน้าใช้ความคิด “แต่แค่นี้ก็พอแล้วล่ะค่ะ เหมือนจิ๊กซอร์ตัวสุดท้าย ที่ทำให้เจเห็นภาพที่เคยสงสัยทั้งหมด” หญิงสาวมีสีหน้ามั่นใจอะไรบางอย่าง
เสียงลาภิณดังขัดขึ้นมาก่อนตัวเดินมาถึง “หายสงสัยก็กลับกันได้แล้ว” ทุกคนหันมองลาภิณที่เดินมาที่หัวโต๊ะ
เจติยามีสีหน้าเกรงใจ “เจขอไปบ้านคุณก้อง ลูกชายของคุณกัมปนาทก่อนนะคะ”
“จะไปทำไมอีก ฉันว่าเธอยุ่งมากไปแล้วนะ” ลาภิณตัดบท “ไม่เอาแล้ว ฉันจะกลับเธอก็ควรกลับไปพร้อมฉันด้วย” เจติยารู้สึกอึดอัดใจ
อยุทธ์มองรู้สึกได้ช่องที่จะแกล้ง “แต่ถ้าคุณเจอยากไปจริงๆ ผมไปเป็นเพื่อนก็ได้นะครับ จะได้เสร็จธุระวันนี้เลย ไม่ต้องคาราคาซัง”
ลาภิณจ้องอยุทธ์ตาเขียวปั้ด เจ็บใจที่เสียท่าให้อยุทธ์ รีบพูดหวงก้าง “ไม่ต้องรบกวนคนอื่นหรอก เกรงใจ” ชายหนุ่มตัดบท “จะไปก็ตามมาเร็วๆ เลย เรื่องมากซะจริง” ลาภิณบ่นด้วยใบหน้าหงิก เดินนำออกไป
เจติยาทำหน้าแหยๆ กลัวลาภิณโกรธ “เจไปก่อนนะคะ”
นวัชแซว “ที่แท้ก็กลัวสามี”
เจติยาหันไปชกพุงนวัชแล้วรีบฉวยเป้วิ่งตามลาภิณออกไป
“สงสัยแผนมือที่ 3 ของผมจะสำเร็จนะผู้กอง”
“ถ้าทำให้คุณต้นฟื้นความจำไม่ได้ ก็หาทางให้เค้ารักกันใหม่ ก็โอเคอยู่นะ” นวัชยิ้มมีความหวังที่จะให้ทั้งคู่กลับมารักกันใหม่อีกครั้ง อยุทธ์ได้แต่ยิ้มแห้งๆไป

เจติยามาคุยกับก้องที่ห้องรับแขกทาวน์เฮาส์ก้อง “ฉันรู้ตัวคนฆ่าคุณกัมปนาทแล้วนะคะ”
ก้องมีสีหน้าอยากรู้ ใบหน้านิ่งขรึม “มันเป็นใครครับ”
วิญญาณกัมปนาทปรากฏขึ้นเงียบๆที่มุมห้อง จ้องเขม็งมาที่เจติยา
“คนที่ฆ่าคุณกัมปนาท ก็คือตัวคุณกัมปนาทเองนั่นล่ะค่ะ”
วิญญาณกัมปนาทขบกรามแน่นไม่พอใจ
ก้องไม่เชื่อในสิ่งที่เจติยาบอก“คุณกำลังจะบอกผมว่าพ่อผมฆ่าตัวตายเหรอครับ”
“ค่ะ”
ทันใดนั้นวิญญาณกัมปนาทก็พุ่งมาหยุดเผชิญหน้าเจติยาระยะใกล้ เจติยาก็จ้องตากัมปนาท สู้ตาชนิดไม่กลัวเกรงเหมือนกัน

ย้อนกลับไปหลายเดือนก่อน ใบแจ้งผลการตรวจร่างกายของกัมปนาทวางอยู่บนโต๊ะ กัมปนาทยืนหน้าเครียดอยู่ หลังจากรู้ว่าตนเองเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย
“คุณกัมปนาทรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย รักษาไม่หายแน่ ก็เลยทำพินัยกรรมยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้คุณ”

กลางวันวันเกิดเหตุ กัมปนาทนั่งอยู่ที่เก้าอี้คนขับในรถยนต์ของตัวเอง เหงื่อแตกดูกลัวๆ
“หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อย คุณพ่อคุณก็ฆ่าตัวตายด้วยการวางระเบิดตัวเองในรถ พ่อคุณต้องการให้ทุกคนเข้าใจว่าเป็นการฆาตกรรม”
กัมปนาทสงบสติได้ก็หลับตาสนิทรอความตาย ที่เบาะรถด้านหลังสัญญาณไฟสีแดงกระพริบถี่ สุดท้ายรถของกัมปนาทระเบิดสนั่นหวั่นไหว

“เพ้อเจ้อไปใหญ่แล้ว ทำไมพ่อผมต้องทำอะไรซับซ้อนขนาดนั้นด้วย แล้วคนอย่างเค้า ถึงจะป่วยใกล้ตายยังไง ก็ไม่มีวันฆ่าตัวตายหรอก”
ก้องจ้องไปที่เจติยา...เหมือนเจติยาพูดคนเดียว ไม่ได้มองตรงไปที่ก้องซึ่งจริงๆ คุยกับกัมปนาทแต่ก้องไม่เห็น
“ฉันพูดถูกใช่มั้ยคะคุณกัมปนาท”
ก้องงง “อะไรของคุณ”
เจติยาหันมองตามการเดินไปของกัมปนาท “สารภาพความจริงเถอะค่ะ แสดงความจริงใจให้ลูกคุณเห็นซักครั้งเถอะนะคะ”
ก้องมองตามสายตาของเจติยา แต่ก็ไม่เห็นมีใคร “คุณกำลังเล่นละครอะไรของคุณ เชิญคุณ ออกไปจากบ้านผมเดี๋ยวนี้เลย”
เจติยาตวาดใส่ก้อง “ฉันกำลังคุยกับพ่อคุณอยู่ วิญญาณพ่อคุณยืนอยู่ข้างๆคุณ” วิญญาณกัมปนาทยืนหน้าเศร้าอยู่แล้วข้างๆ ก้อง
“เหลวไหล คุณต้องการอะไรกันแน่”
กัมปนาทสั่งเจติยา “บอกมันไป ว่าตอนแม่มันแต่งงานใหม่ มันหนีออกจากบ้าน แล้วถูกพวกขี้ยาหน้าปากซอยจับตัวไป ฉันเป็นคนไปช่วยมันออกมาเอง เรื่องนี้มีแค่มันกับฉันเท่านั้นที่รู้”
“พ่อคุณให้บอกว่า ตอนคุณหนีออกจากบ้านแล้วถูกพวกขี้ยาจับตัวไป เค้าเป็นคนไปช่วยคุณออกมา เรื่องนี้มีแค่คุณกับเค้าเท่านั้นที่รู้ ถ้าเค้าตามไปเจอช้าอีกก้าวเดียว...”
ก้องฟังอึ้งๆ หน้าซีด “พอแล้ว” ก้องทรุดตัวลงนั่งที่โซฟายกมือกุมหัว
กัมปนาทมองก้องด้วยสายตารักและสงสารเดินเข้ามาพูดใกล้ๆกัมปนาทยอมสารภาพความจริง “ฉันทนไม่ได้หรอก ถ้าจะให้คนที่เกลียดฉัน ศัตรูของฉัน มาเห็นสภาพน่าเวทนาใกล้ตายของฉัน พวกมันคงหัวเราะเยาะสมน้ำหน้า พูดจาถากถางฉันว่าสมควรแล้วที่ต้องตายอย่างทรมาน ฉันยอมตายด้วยน้ำมือตัวเองซะดีกว่าต้องตกอยู่ในสภาพยังงั้น”
เจติยาเล่าให้ก้องฟังตามที่กัมปนาทพูด “พ่อคุณยอมตายด้วยน้ำมือตัวเองซะดีกว่า”
“ข้อนี้ผมพอเข้าใจ ผมรู้จักนิสัยของเค้าดี แต่เค้าก็ไม่จำเป็นต้องวางแผนว่ามีคนฆาตกรรมให้วุ่นวายเลยนี่”
“อันนี้ฉันพอจะตอบได้ เค้าทำเพื่อช่วยคุณ” เจติยาหันไปมองหน้ากัมปนาทที่มีสีหน้านิ่งเก็บความรู้สึก
ก้องถามด้วยความสงสัย “ยังไง”
“คุณพ่อคุณทำร้ายคนอื่นไว้มาก เค้ากลัวว่าถ้าตายไป คนพวกนั้นจะมาลงที่คุณแทน แต่ถ้าจัดฉากว่าเป็นการฆาตกรรม ก็จะดึงตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องที่มีคนโทรมาขู่คุณ ก็คงเป็นฝีมือเค้านั่นล่ะ”
เจติยาหันไปจ้องหน้ากัมปนาท กัมปนาทหน้านิ่งเจ็บใจที่ถูกเจติยารู้ทัน
“พ่อคุณคงต้องการให้คุณบอกตำรวจไปตามนั้น ตำรวจจะได้คิดว่าเป็นเรื่องมรดกเลือด แล้วก็ให้ความคุ้มครองคุณ ฉันเดาใจคุณถูกมั้ยคะ”
“ฉลาด น่าจับทำเมีย”
“ทุเรศ”
“คุยอะไรกัน”
“คุณไม่ต้องรู้หรอก”
“เธอพูดถูก ฉันจำเป็นต้องยืมมือตำรวจมาคุ้มครองความปลอดภัยให้ก้อง เพราะฉันไม่ไว้ใจใครเลย แม้แต่ลูกน้องคนสนิท พวกมันรู้ตื้นลึกหนาบางธุรกิจทุกอย่างของฉัน มันต้องตามฆ่าก้องเพื่อฮุบธุรกิจใต้ดินของฉันทั้งหมด” กัมปนาทมองลูกขายด้วยความสงสาร “ก้องจะไม่มีวันได้มีชีวิตสงบสุขอย่างคนอื่นแน่ๆ ฉันอยากทำหน้าที่พ่อที่ดีเพื่อลูกซักครั้ง”
ก้องน้ำตาคลอ ๆ ฟังที่เจติยาถ่ายทอดคำพูดของพ่อต่อมา
“พ่อคุณถึงต้องวางแผนพวกนี้ขึ้นมา เพื่อให้คุณปลอดภัยที่สุดเท่าที่เค้าจะทำได้”
ก้องซับน้ำตาออกมาก่อนจะไหลด้วยความซึ้งใจ กัมปนาทหน้าเศร้าๆ เดินมานั่งข้างๆ ก้อง ตบหัวลูกชายเบาๆ

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 10/4 วันที่ 21 ก.ค. 57

ละครรากบุญ2 บทประพันธ์โดย : ช่อมณี
ละครรากบุญ2 บทโทรทัศน์โดย : เอกลิขิต
ละครรากบุญ2 กำกับการแสดงโดย : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
ละครรากบุญ2 ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
ละครรากบุญ2 ควบคุมการผลิตโดย : ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
ละครรากบุญ2 ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครรากบุญ2 เริ่มออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2557 นี้
ที่มา ไทยรัฐ