@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 12 วันที่ 22 ก.ค. 57

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 12 วันที่ 22 ก.ค. 57

“โห แม่อ้ะ” เจติยาว่า
มยุรีขำ “แม่ล้อเล่นจ้ะ วันนี้แม่ต้องเจริญอาหารแน่ๆ เลย”
เจติยาประคองแม่เข้าข้างในไปแล้วคุยกระจุ๊กกระจิ๊กประสาแม่ลูก ลาภิณมองตามแล้วยิ้มบางๆ เพราะรู้สึกว่าเจติยาอ้อนแม่อย่างนี้ก็น่ารักดี

นทีไม่สบายใจ “พี่ต้นครับ ผมขอถามอะไรหน่อยสิ”
ลาภิณหันมามอง
นทีพูดด้วยความไม่สบายใจ “พี่ต้นมีปัญหาอะไรกับพี่เจรึเปล่า”
ลาภิณอึกอักเล็กน้อย “เปล่านี่ ถามทำไมเหรอ”
“ผมว่าพี่สองคนดูแปลกๆไป ดูห่างๆ ไม่ค่อยจะหวานกันเหมือนเดิม”


“เมื่อก่อนเราหวานกันมากเหรอ”
นทีขำๆ “หวานจนเลี่ยนเลยล่ะพี่ ตัวติดกันแจ เวลามาเยี่ยมแม่ก็ต้องมาด้วยกันตลอด”
ลาภิณนิ่งรับฟังอย่างเก็บข้อมูล
นทีหน้าขรึมลง “มาพักหลังนี่ พี่เจมาคนเดียว เพิ่งมีวันนี้แหละที่พี่ต้นมาด้วย ผมก็เลยอดเป็นห่วงไม่ได้”
ลาภิณมองหน้านทีแล้วก็สัมผัสได้ถึงความจริงใจ
นทีมองหน้าลาภิณ “ผมรักพี่เหมือนพี่ชายแท้ๆ ของผมคนนึงเลยนะครับ ผมไม่อยากเห็นพี่กับพี่เจมีปัญหากันเลย อยากให้รักกันไปจนแก่ตายกันไปข้างนึงเลย” นทีทำสีหน้าจริงจังเพราะคิดอย่างที่พูดจริงๆ
ลาภิณยิ้มบางๆ พร้อมกับคิดตามที่นทีพูดก่อนจะเผลอเลื่อนมือไปบีบไหล่นทีเบาๆ เพื่อขอบคุณตามจิต
ใต้สำนึกโดยที่ลาภิณก็ไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องทำแบบนั้นด้วย อยู่ๆ ความรู้สึกแย้งก็เกิดขึ้นในหัวลาภิณ ลาภิณหุบยิ้มทันทีแล้วถอนมือออกไปก่อนจะเดินเลี่ยงไปหน้าตางงๆ
นทีหันไปมองตามลาภิณอย่างงงไม่แพ้กัน เขาบ่นพึมพำ “อารมณ์ไหนของเค้าวะ” นทีมีสีหน้างุนงง

ลาภิณขับรถพาเจติยากลับมาจอดที่หน้าบ้านตัวเองตอนกลางคืน ลาภิณเหลือบตามองเจติยาก็เห็นว่าเจติยาหลับสนิทไปแล้ว เธอไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยว่าถึงบ้านแล้ว
ลาภิณยิ้มๆ “เหนื่อยล่ะสิ”
ลาภิณแอบมองเจติยาอยู่เงียบๆ เขารู้สึกว่าเจติยาตอนหลับก็น่ารักไปอีกแบบจนเผลอมองเจติยาอยู่แบบนั้นเนิ่นนาน
ลาภิณบอกเจติยาเบาๆ “ฉันอยากจำเธอให้ได้จริงๆเจติยา ฉันจะได้รู้ว่าเธอเป็นสิบแปดมงกุฎ หรือผู้หญิงที่ฉันรักกันแน่”
เจติยายังคงหลับสนิท ลาภิณมองเจติยานิ่งอย่างห้ามความรู้สึกของจิตใต้สำนึกตัวเองไม่ไหว เขาค่อยๆ โน้มหน้าลงจะจูบเจติยาที่กำลังหลับอยู่ แต่ในขณะที่ริมฝีปากกำลังจะสัมผัสกันเสียงมือถือของลาภิณก็ดังขึ้น ลาภิณรีบผละตัวออกมาพร้อมๆกับเจติยาที่ตื่นขึ้นมาพอดี
ลาภิณดูเบอร์แล้วก็หน้าเสียก่อนจะกดรับ “ครับ พี่อร” ลาภิณฟังแล้วก็ตกใจมาก “แล้วตอนนี้พี่อรอยู่ที่ไหนครับ” ลาภิณฟัง “ครับๆ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้ล่ะครับ” ลาภิณรีบออกรถไปทันที
เจติยาหน้าเครียดเพราะเห็นลาภิณรีบร้อนอย่างนี้เธอก็รู้ทันทีว่าต้องเกิดเรื่องแน่ๆ

ลาภิณ และเจติยา กำลังคุยกับนวัชด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“พี่ก็แปลกใจเหมือนกัน คุณพิมพ์อรขึ้นโรงพักด้วยข้อหาคล้ายๆ กันอีกแล้ว แต่มันก็มีพยานยืนยันหลายคน ว่าผู้ตายมีปัญหากับคุณพิมพ์อร ก่อนหน้าที่จะเสียชีวิตไม่ถึงครึ่งชั่วโมง”
ลาภิณหน้าเครียด “แต่ผมไม่เชื่อหรอกครับว่าพี่อรจะฆ่าใครได้”
“แล้วถ้าใช้ให้คนอื่นไปฆ่าล่ะครับ”
ลาภิณหน้าเสีย “ผู้กองหมายความว่ายังไง”
นวัชหยิบแฟ้มเอกสารวางไว้ต่อหน้าลาภิณและเจติยา “ผลชันสูตรออกมาแล้ว บนร่างกายของผู้ตาย มีรอยนิ้วมือของนายชาคร เลขาฯของคุณพิมพ์อรอยู่ด้วย ตอนนี้กำลังรอผลตรวจรถยนต์ของนายนั่นอยู่ ถ้าร่องรอยบนรถเชื่อมโยงถึงผู้ตาย ก็คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้แล้ว”
เจติยาแปลกใจ “แล้วรู้ได้ยังไงคะ ว่าเป็นรอยนิ้วมือของคุณชาคร อย่างมากก็แค่รู้ว่ามีรอยนิ้วมือของคนอื่นไม่ใช่เหรอคะ”
“นายชาคร เคยต้องคดีฆ่าคนตายมาก่อน แต่ตอนนั้นเป็นผู้เยาว์ ก็เลยโดนแค่เข้าสถานพินิจ ไม่ติดคุก แต่ประวัติอาชญากรรมแล้วก็บันทึกลายนิ้วมือยังเก็บเอาไว้”
ลาภิณและเจติยานึกไม่ถึงว่าชาครที่ดูดีแบบนั้นจะเคยฆ่าคนตายมาก่อน

พิมพ์อรกำลังเซ็นรับบันทึกการสอบปากคำต่อหน้านวัชด้วยความหงุดหงิดสุดๆ โดยมีลาภิณและเจติยายืนอยู่ใกล้ๆ
พิมพ์อรหงุดหงิดมาก “ตกลง ถ้าใครมีเรื่องกับดิฉันแล้วไปตาย ดิฉันต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยทุกครั้งเลยใช่มั้ยคะ”
“ผมทำตามหน้าที่ครับ”
“ดีนะคะ พูดประโยคนี้แล้วก็เป็นอันจบเรื่อง” พิมพ์อรหันไปพูดกับลาภิณไปกันเถอะค่ะน้องต้น”
พิมพ์อรเดินนำลาภิณโดยมีเจติยามองตามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
นวัชไม่พอใจ “เมื่อไหร่คุณต้นจะจำอะไรได้ซะที พี่ว่าเค้าห่วงผู้หญิงคนนี้มากเกินไปแล้วนะ”
เจติยาถอนใจ “เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นล่ะค่ะ เจก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน” เจติยามีสีหน้าซึมลงไปอย่างเห็นได้ชัด
ขณะที่ลาภิณและพิมพ์อรจะออกจากโรงพักก็มีตำรวจคนหนึ่งคุมตัวคนติดยาเดินผ่านมา จังหวะที่คนติดยาเดินผ่านพิมพ์อร คนติดยาก็สะดุ้งสุดตัวแล้วหยุดกึก ตาเบิกโพลง ทันใดนั้น คนติดยาก็ผลักตำรวจที่คุมตัวออกแล้วโผเข้าบีบคอพิมพ์อรทันที
ลาภิณตกใจสุดๆ จึงรีบเข้าไปดึงมือคนติดยาออกไม่ให้บีบคอพิมพ์อร “เฮ้ย ปล่อย จะทำอะไรวะ”
นวัชกับพวกตำรวจตกใจจึงรีบเข้าไปช่วยกันดึง แต่คนติดยามีพลังมากเป็นพิเศษ ทุกคนช่วยกันยังไงก็ดึงไม่ออก พิมพ์อรโดนบีบคอจนตาเหลือกค้างพูดก็ไม่ได้ หายใจก็ไม่ออกจนสติค่อยๆ หลุดไปทีละน้อย
คนติดยาพูดเป็นเสียงหลิน “นังผู้หญิงสารเลว ฉันจะฆ่าแก”
เจติยาเห็นคนติดยาพูดเป็นเสียงผู้หญิงก็รู้ทันทีว่าผีเข้า นวัชดึงมือคนติดยาไม่ออก เขาเห็นพิมพ์อรท่าจะแย่จึงมองไปมองมาจนเห็นขวดเปล่าตั้งอยู่มุมห้องหลายใบ เขาเลยหยิบมาใบนึงแล้วฟาดหัวตนติดยาจนขวดแตกละเอียด แต่คนติดยาไม่เป็นอะไร คนติดยาหันมาจ้องหน้านวัชเขม็งก่อนจะใช้มืออีกข้างคว้าคอเสื้อนวัชแล้วเหวี่ยงเขากระเด็นออกไป คนติดยาใช้มือข้างเดียวผลักเหวี่ยงทั้งลาภิณและพวกตำรวจกระเด็นกระดอนออกไป ทันใดนั้นเอง เจติยาก็เข้ามาจับมือคนติดยาไว้
คนติดยาหันมาจ้องเจติยาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงโกรธจัดเป็นเสียงหลิน “ไม่ใช่เรื่องของแก ไสหัวไป”
เจติยาหลับตานิ่ง สักพักก็เกิดแสงสว่างขึ้นที่มือของเจติยาก่อนที่แสงจะแผ่รัศมีไปทั่ว
คนติดยากรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดเป็นเสียงหลิน
ทันใดนั้น ก็มีเงาดำออกจากร่างของคนติดยาแล้วคลานหายไปอย่างรวดเร็วในความมืด พร้อมๆกับที่ร่างของคนติดยาทรุดลงกับพื้นสลบเหมือดไป
ลาภิณรีบเข้าไปดูอาการพิมพ์อร “พี่อร เป็นยังไงบ้างครับ”
พิมพ์อรไอโขลกเพราะเพิ่งจะหายใจได้ แต่ก็ไม่มีแรงจะตอบลาภิณ ลาภิณเป็นห่วงจึงรีบอุ้มพิมพ์อรออกจากโรงพักไปทันที เจติยาอึ้งจนหน้าเสีย เธอได้แต่หันมองตามด้วยความรู้สึกไม่สบายใจที่เห็นสามีอุ้มผู้หญิงอื่นต่อหน้าตนแต่ก็ต้องพยายามทำใจ

เจติยาเดินซึมๆ กลับเข้ามาในโถงบ้าน คนรับใช้คนหนึ่ง รีบเข้ามาหา
“อ้าว คุณเจกลับมาคนเดียวเหรอคะ”
เจติยาหน้านิ่งๆ พยักหน้ารับ “พอดีคุณต้นมีธุระด่วนน่ะจ้ะ เดี๋ยวก็มา” เจติยาตัดบท “เธอไปนอนเถอะ ไม่ต้องรอหรอก”
เจติยาเดินเลี่ยงไป ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงคนรับใช้พูดด้วยเสียงดุดัน
“สาระแนนัก ไม่ใช่เรื่องของตัวเองซะหน่อย ไอ้พวกชอบสอด”
เจติยาหันกลับมามองก็เห็นคนรับใช้ยืนหันหลังให้เธอก่อนจะดีดตัวลอยข้ามหัวเธอมาหยุดอยู่ด้านหลัง
เจติยาตกใจจึงหันมองตาม คนรับใช้พุ่งมือเข้าบีบคอเธอทันที เจติยาตกใจจึงยื่นมือออกไปรับตามสัญชาติญาณมีแสงสว่างออกจากมือของเจติยา คนรับใช้โดนแสงสว่างเข้าไปก็กรี๊ดลั่นก่อนจะทรุดลงกับพื้นแล้วสลบไป เจติยารีบมองหาวิญญาณของหลินแต่ก็ไม่เจอ เสียงหลินดังก้องกังวานไปทั่วโถงด้วยความโกรธจัด
“แกเข้าข้างนังนั่น”
เจติยาหันมองไปมุมต่างๆ ของโถงทันทีที่ได้ยินเสียงหลินและเสียงลมกระโชกของความเคลื่อนไหว
“แกเป็นพวกเดียวกับมันใช่มั้ย”
เจติยาพยายามตั้งสติก่อนจะหันมองไปรอบตัวพร้อมกับพูด “ฉันไม่ได้เข้าข้างใครทั้งนั้น แต่ฉันก็ไม่ต้องการเห็นใครฆ่ากันด้วย ที่สำคัญ คุณแน่ใจแล้วเหรอะ ว่าคุณพิมพ์อรเป็นคนฆ่าคุณ”
ทันใดนั้นสาวใช้ก็ดีดตัวขึ้นมายืนก่อนที่หลินจะดีดตัวออกมาจากคนรับใช้อีกชั้นแล้วเข้ามาเผชิญหน้ากับเจติยาปล่อยให้คนรับใช้ล้มไป
หลินเต็มไปด้วยความอาฆาต “มันเกี่ยวข้องด้วยแน่ๆ ฉันรู้สึกได้ มันแย่งผัวฉัน แค่นี้ก็เลวพอแล้ว”
เจติยาส่ายหน้า “คุณไม่มีเหตุผล แค่รู้สึกเอาเอง คุณก็จะฆ่าเค้าเลยเหรอ เอาอย่างงี้ ฉันจะสืบให้ว่าใครฆ่าคุณ คุณจะได้ไปสู่สุคติ ตกลงมั้ยล่ะ”
หลินตวาดแว๊ด “แกไม่ต้องมายุ่ง จำเอาไว้อย่างเดียวก็พอ ว่าอย่ามาขวางทางฉันอีก ไม่อย่างงั้น ฉันจะฆ่าแกอีกคน”
พูดจบวิญญาณของหลินก็สลายไปทันที เจติยาถอนใจเฮือกใหญ่ที่เจอวิญญาณไม่มีเหตุผลจนรู้สึกหนักใจ

ลาภิณประคองพิมพ์อรเข้ามาในห้องรับแขกของบ้านพิมพ์อร พิมพ์อรยังมีท่าทางอ่อนเพลียจากการถูกบีบคอมา
“พี่อรนั่งพักที่โซฟาก่อนนะครับ เดี๋ยวผมไปตามเด็กรับใช้มาให้”
พิมพ์อรนั่งลงที่โซฟา “ดึกป่านนี้ คงนอนกันหมดแล้วล่ะ”
ลาภิณเป็นห่วง “ผมว่าพี่อรน่าจะนอนพักที่โรงพยาบาลมากกว่า ไม่น่ารีบกลับมาเลย”
“พี่รู้ตัว พี่ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ แล้วพี่ก็ไม่ชอบนอนโรงพยาบาลด้วย” พิมพ์อรหน้าเสีย “นี่พี่ก็ยังกลัวอยู่เลย ถ้าให้พี่นอนโรงพยาบาลคนเดียว พี่นอนไม่ได้หรอกค่ะ”
ลาภิณสงสารจึงจับมือพิมพ์อรไว้ “ไม่มีอะไรแล้วล่ะ พี่อรไม่ต้องกลัวนะครับ”
พิมพ์อรมองลาภิณนิ่งต่างคนต่างสบตากันด้วยความรู้สึกที่มีต่อกันที่เริ่มแสดงออกมากขึ้นเรื่อยๆ
พิมพ์อรมองตาลาภิณนิ่ง “น้องต้นอย่าเพิ่งกลับได้มั้ย อยู่เป็นเพื่อนพี่อรก่อนนะ พี่กลัว” พิมพ์อรมีสีหน้าอ้อนๆ
ลาภิณมองพิมพ์อรนิ่ง “ครับ”
ทั้งคู่ต่างสบตากันนิ่ง พิมพ์อรมองลาภิณด้วยสายตาเชิญชวน ควันดำจางๆ พัดผ่านหน้าลาภิณทำให้ลาภิณเหมือนโดนมนต์สะกด เขาค่อยๆโน้มลงหาใบหน้าของพิมพ์อรมากขึ้นทุกที ทันใดนั้น ภาพบางอย่างก็ปรากฏแทรกขึ้นมาในหัวของลาภิณ
เป็นภาพตอนที่ลาภิณบอกเจติยาเบาๆ “ฉันอยากจำเธอให้ได้จริงๆเจติยา ฉันจะได้รู้ว่าเธอเป็นสิบแปดมงกุฎ หรือผู้หญิงที่ฉันรักกันแน่” แล้วลาภิณก็ค่อยๆ โน้มหน้าลงจะจูบเจติยาที่หลับอยู่
เหตุการณ์ปัจจุบัน ลาภิณตะขิดตะขวงใจขึ้นมาทันที พิมพ์อรหลับตาพริ้มรอการจูบจากลาภิณอยู่ ลาภิณหักห้ามใจแล้วถอยห่างออกมา
พิมพ์อรรู้สึกแปลกใจ เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองสังเกตท่าทีของลาภิณ “เป็นอะไรไปคะน้องต้น”
ลาภิณรีบลุกออกห่างแล้วพูดตัดบท “เดี๋ยวผมไปปลุกเด็กรับใช้ให้มาอยู่เป็นเพื่อนพี่อรดีกว่านะครับ”
ลาภิณรีบเดินเลี่ยงไปทันที
พิมพ์อรมองตามด้วยความหงุดหงิดใจและไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นๆ ทั้งที่ความทรงจำลาภิณก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว กสิณที่ยืนคุมสถานการณ์อยู่มุมห้องมีสีหน้างุนงงเหมือนกันว่าทำไมมนตร์อำนาจตนบังคับลาภิณให้รักพิมพ์อรจริงๆ ไม่ได้สักที

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 12 วันที่ 22 ก.ค. 57

ละครรากบุญ2 บทประพันธ์โดย : ช่อมณี
ละครรากบุญ2 บทโทรทัศน์โดย : เอกลิขิต
ละครรากบุญ2 กำกับการแสดงโดย : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
ละครรากบุญ2 ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
ละครรากบุญ2 ควบคุมการผลิตโดย : ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
ละครรากบุญ2 ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครรากบุญ2 เริ่มออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2557 นี้
ที่มา ไทยรัฐ