@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ทรายสีเพลิง ตอนทีี่ 1 วันที่ 13 ส.ค. 57

อ่านละคร ทรายสีเพลิง ตอนทีี่ 1 วันที่ 13 ส.ค. 57


เสาวณีย์หมั่นไส้กับท่าทีถือยศถือศักดิ์ของศก “ถ้าเรามีเงินเหลือกินเหลือใช้อย่างเมื่อก่อน ฉันจะไม่ว่าสักคำ แต่ทุกวันนี้บ้านเรามีแต่รายจ่ายกับรายจ่าย”

“ผมก็ทำงานอยู่นี่ไง”

“แค่เงินเดือนตำแหน่งหัวหน้ากองที่ถูกแป๊กมาเกือบสิบปี แค่ค่าเงินเดือนคนใช้ยังจะแทบไม่พอเลย”

ศกได้ยินที่เสาวณีย์พูดก็ไม่พอใจ เหมือนโดนหยาม “คุณพูดเกินไปแล้วนะคุณเสาว์”


“ไม่เกินไปหรอก ฉันบอกคุณแล้วใช่ไหมว่าให้ออกสังคมบ้าง”

“ผมบอกแล้วไงว่านิสัยเลียแข้งเลียขาใคร ผมทำไม่เป็น”

“โน้นก็ไม่เอา! นี่ก็ไม่ทำ! สุดท้ายก็เป็นฉันที่ต้องหาทางแก้ไขปัญหาเองทุกอย่าง ไม่รู้ล่ะ!..ฉันจะไม่ไหวแล้ว คุณต้องขายที่ดินข้างคลองนั่น”

“ผมบอกแล้วไงว่าคุณแม่ไม่ให้ขาย ที่ตรงนั้นมันตัดผ่านทางเข้าออกบ้านริมน้ำ ถ้าเราตัดขายที่ดินริมคลองไป บ้านริมน้ำจะกลายเป็นที่ดินตาบอด ถ้าทรายกับดวงตากลับมา เขาจะอยู่ยังไง”

เสาวนีย์ได้ยินเหตุผลที่ศกไม่ขายที่ดินเพราะห่วงอดีตลูกสาวกับเมียเก่าแล้วโกรธปรี๊ด “คุณกับแม่คุณห่วงสองคนนั่น แต่ไม่ห่วงฉันเหรอ”

ศกเบื่อหน่าย “มันไม่ใช่อย่างนั้น”

“ถ้าคุณไม่ขาย ฉันจะขายเอง แล้วถ้ากลัวว่าบ้านริมน้ำนั่นจะเป็นที่ดินตาบอด ฉันก็จะขายมันไปพร้อมกันเลย”

“คุณทำอย่างนั้นไม่ได้! บ้านริมน้ำนั่นคุณแม่ยกให้ดวงตากับลูก ทนายพยายามติดต่อเขาแล้วเดี๋ยวเขาก็ต้องกลับมาเอา”

ศกเดินออกไป เสาวนีย์มองศกอย่างไม่พอใจแล้วมองไปทางบ้านริมน้ำคิดถึงดวงตากับทราย “หายกันไปเป็นสิบๆ ปี ..ป่านนี้คงมีลูกมีผัวปลูกผักปลูกไร่หมดแล้ว อย่าหวังจะกลับมาได้อะไรไปเลย”

เสาวนีย์หยิบมือถือมากดโทร “สวัสดีค่ะคุณทนาย ..ฉันเสาวณีย์ ..ฉันไม่อ้อมค้อมนะคะ ฉันไม่อยากให้ดวงตากับลูกกลับมา คุณช่วยฉันได้ไหมคะ”

oooooooooooooooo

หน้าวัดที่พระราชทานเพลิงศพคุณหญิงศิริ ซึ่งเป็นวัดอยู่ชานเมือง ติดถนนซอยที่ร่มรื่น ต้นไม้ต้นใหญ่ๆ เรียงราย รถโรงแรมคันโอ่อ่าแล่นมาช้าๆ ในซอยข้างวัด มีรถแล่นสวนออกมา ทรายแต่งดำนั่งหลังรถมองไปที่ปล่อยควันของเมรุ มีควันไฟลอยขึ้นมา เป็นสัญญาณว่าได้เริ่มเผาจริงไปแล้ว

“คุณผู้หญิงมางานเผาศพหรือเปล่าครับ”

“ไม่เป็นไร”

คนขับพูดต่อไม่ถูก ได้แต่เงียบ ชำเลืองมองกระจก

“จอดตรงนั้นค่ะ”

รถเข้าไปจอด เยื้องๆกับประตูวัด ทรายมองจ้องที่ประตูวัด ในเวลาเดียวกันนั้นมีรถแล่นออกมาติดๆกัน ทรายขมวดคิ้วมองจ้อง พยายามคิดว่าจำใครได้บ้าง

คันที่ 1 หญิง ชายกลางคนนั่งออกมา

คันที่ 2 ผู้ชายหนุ่มๆขับ มีหญิงกลางคนท่าทางเป็นแม่นั่งข้าง

คันที่ 3 ผู้ชายคนเดียว แต่งชุดข้าราชการ

คันที่ 4 ศกนั่งคู่เสาวนีย์อยู่ด้านหลังมีคนขับรถ

รถจอด มีผู้ชายคนหนึ่งวิ่งมาจะพูดกับศก ขณะนั้นรถจะเลี้ยวแล้ว หน้าต่างเลื่อนลง ศกพูดเบาๆ กับผู้ชายคนนั้นซึ่งยืนฟังอยู่ด้วยท่าทางนอบน้อม มองเห็นเสาวนีย์นั้งหน้าเฉยๆอยู่ข้างๆ ศกเลื่อนกระจกขึ้น รถแล่นไป

รถคันนึงแล่นตามหลัง เป็นรถของพัชระและลูกศรแล่นตามมา มีพัชระเป็นคนขับ เมื่อรถคันหน้าหยุด พัชระจึงต้องหยุดด้วย ทรายมองผ่านหน้ารถเห็นพัชระเหลียวไปคุยกับลูกศร ลูกศรตอบเบาๆ ท่าทางเศร้าน้ำตาหยด พัชระใช้หลังมือไล้น้ำตาให้ ทรายจ้องนิ่ง เดาได้ว่าคนนั้นคือลูกศรแต่ไม่ถึงกับแน่ใจ

ภาพในความคิดคุณย่าอุ้มลูกศรไว้บนตัก ทรายหน้ายิ้มนิดๆ

รถเก๋งค่อนข้างเก่าคันนึง ในรถมีป้าอุทิศ แต้ว จง นั่งเบียด เติมเป็นคนขับ หน้าต่างรถเปิดกระจกทั้ง 4 บาน ทรายจ้องมองอย่างพยายามจดจำว่าใครเป็นใครจนกระทั่งรถแล่นผ่านไป

ทรายเดินตัวตรงไปที่เมรุ บุรีคุยกับฌานที่หันหลังให้ทรายทำให้ไม่เห็นทราย แต่บุรีหันหน้ามาเห็นทราย สักครู่เหมือนฌานจะถามทางไปห้องน้ำบุรีชี้ทางไปห้องน้ำให้ฌานเดินไป ทรายเดินมาถึง ผ่านบุรีไปขึ้นบันได บุรีมองฉงน

oooooooooooooooooo

บนเมรุ รูปคุณย่ายังวางแอบๆไว้ พนักงานคนหนึ่งเก็บถาดดอกไม้จันทน์ที่วางบนโต๊ะไป เดินเร็วๆ ไปจนดอกไม้จันทน์ดอกหนึ่งหล่นลง พนักงานเดินลงไป ทรายก้าวขึ้นมา ก้มลงมองดอกไม้ดอกจันทน์ สายตาครุ่นคิด มองไปที่รูปคุณย่า แล้วทรายก็ก้าวผ่านดอกไม้จันทน์ไป

เสียงของคุณย่าในความทรงจำผุดขึ้นมาอีกครั้ง “ก็คนมันไพร่ อย่าเอาทองไปลู่กระเบื้อง ปล่อยให้มันไปคนเดียว ดวงตามันเป็นคนทะเยอทะยาน แต่แม่รู้ว่ามันเลี้ยงไม่เชื่อง ร้อยมันไว้ใช้เถอะลูก ไม่เสียหายอะไรหรอก”

ทรายเดินเข้าไปเรื่อยๆ ขณะที่เสียงคุณย่าดังก้องในหู จนไปยืนอยู่ตรงหน้า มองจ้องตากัน

“คุณย่าคะ หลานคนที่คุณย่าตีค่าเหมือนกรวดทรายอยู่ในบ้าน อยู่ตรงนี้ คุณย่าจำได้มั้ยคะ ทรายไม่ลืมชีวิตที่บ้านคุณย่าหรอกค่ะ ปมหลายปม ถูกผูกไว้ยังไม่คลี่คลาย แต่ที่แน่นอน ตอนนี้คุณย่าสนับสนุนใครไม่ได้ ขัดขวางใครก็ไม่ได้อีกแล้วค่ะ”


บนเมรุ ทรายถอยมา...เหลียวไปดูเตา เสียงของดวงใจผู้เป็นแม่ดังก้องเข้ามาในห้วงความคิด “ไปจุดธูปกราบท่านนะ ท่านเป็นย่าของทรายสุดท้ายของชีวิตท่านแล้ว ทรายต้องอโหสิให้ท่าน”

บุรีเดินเร็วขึ้นบันไดมา ชะงักกึกมองเห็นทรายกำลังก้มลงมองดอกไม้จันทน์ “ขอโทษครับ”

ทรายหันกลับมา จ้องมองกันอึดใจหนึ่ง ต่างคนต่างรู้สึกคุ้นหน้าซึ่งกันและกัน

“มาไม่ทันใช่ไหมครับ ผมจะมาบอกว่า เอาดอกไม้จันทน์วางที่หน้าเตาก็ได้ครับ เดี่ยวเจ้าหน้าที่เขาจะใส่ให้ตอนที่เขาเปิด”

“ขอบคุณค่ะ” ทรายก้มลงเก็บดอกไม้จันทน์ที่พื้น แล้วเอาทั้งสองดอกไปวางบนโต๊ะ

“อ้าว...ไม่เอาไปวางหรอครับ”

“ไม่เป็นไร ขอบคุณมากค่ะ... เดี๋ยวนะคะ รบกวนหน่อย คุณเรียกคนที่พอถึงอายุที่เขาจะตัดสินใจได้ด้วยตัวเองว่าอะไรคะ”

“ครับ...อะไรนะครับ”

“มีคำว่าบรรลุน่ะค่ะ บรรลุอะไรคะ”

“อ๋อ...เข้าใจแล้วเรียกว่า บรรลุนิติภาวะครับ”

“สวัสดีค่ะ” พูดพลางทรายยกมือไหว้บุรี

บุรียกมือรับไหว้แทบไม่ทัน “ครับ” บุรีเดินลงไป

ทรายมองตาม พึมพำเบาๆ “บรรลุนิติภาวะ”

พอดีกับที่ฌานเดินตามหาบุรีร้องทัก “อยู่นี่เองคิดว่ากลับไปแล้ว... ไหนแกว่าจะเอาอะไรมาให้ใครไง เขากลับกันไปหมดแล้วนะ ไม่เห็นใครจะมาเอาอะไร”

“ไป...ไปหากัน”

“หาใคร”

“คนที่จะเอาของมาให้น่ะสิ เป็นพระอาจารย์ที่โรงเรียนวัดนี้”

ยังไม่ทันที่บุรีจะพาฌานเดินออกไปตามหาก็พอดีกับพระอาจารย์เดินเข้ามา “โยมบุรี”

บุรีไหว้ก้มต่ำ ส่วนฌานไหว้ต่ำนิดหน่อยเท่านั้น

“นี่ครับท่าน สมุดหนังสือเครื่องเขียนที่บอกว่าจะเอามาถวายให้ท่าน ไว้สำหรับใช้ที่โรงเรียน”

“เจริญพร อาตมาจะสวดอวยพรให้” พระอาจารย์ยืนนิ่งแล้วสวดเบาๆแล้วเดินจากไป

ทรายแอบมองภาพตรงหน้า

ในขณะที่ฌานมองจ้องด้วยนัยน์ตาครุ่นคิด

พอดีกับที่บุรีหันมามองเห็น “เฮ้ย เป็นอะไรวะ”

“รู้สึกดีว่ะ...ดีจริงๆ กับภาพเมื่อกี้”

“Feel good”

“Yes” ฌานพูดเสียงหนักแน่น “very”

“ความดีไง...ทำแล้วรู้สึกดี” บุรีโอบไหล่ฌานพาเดิน “แล้วเมื่อไหร่กลับอเมริกา”

“คงอีกนาน ต้องมาทำงานที่เมืองไทยพักหนึ่ง ทำกับแกนั่นแหละ”

บุรีงงกับคำตอบของฌานมองอย่างไม่เข้าใจ

“เอาน่ะ เดี๋ยวกลับไปคุยที่ออฟฟิศกัน”

ทั้งสองคนพากันเดินออกไป

ทรายแอบมองดูฌานอยู่แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาฌาน “Hello ชาร์ล I’m แซนดี้ ทรายอยู่เมืองไทยแล้วนะ”

“จริงหรอ สมกับเป็นทรายเลยนะ มีเรื่องเซอร์ไพรส์ได้ตลอด พักที่ไหนล่ะ…. อ๋อ โอเค แล้วเจอกัน”

ทรายยังอยู่บนเมรุจ้องมองดูทั้งคู่ บุรีเหลียวมาดู ทรายยืนนิ่งแล้วถอยหลบไป

ooooooooooooooooooooo

ที่ห้องพักในโรงแรมหรูทรายนั่งรอที่โซฟา ท่าทางของหญิงสาวที่มั่นใจในตัวเองอย่างยิ่งยวด...รอคอย

มีเสียงกริ่งดังที่หน้าประตู ทรายยังคงไม่ขยับตัว มองจ้องประตูเฉยอยู่

อึดใจหนึ่งประตูเปิดฌานยืนอยู่หน้าประตู

อ่านละคร ทรายสีเพลิง ตอนทีี่ 1 วันที่ 13 ส.ค. 57

ละครทรายสีเพลิง บทประพันธ์โดย : ปิยะพร ศักดิ์เกษม
ละครทรายสีเพลิง บทโทรทัศน์โดย : ศัลยา สุขะนิวัตติ์
ละครทรายสีเพลิง กำกับการแสดงโดย : ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ละครทรายสีเพลิง ผลิตโดย : ค่าย เมกเกอร์ วาย
ละครทรายสีเพลิง ควบคุมการผลิตโดย : ยศสินี ณ นคร
ละครทรายสีเพลิง ออกอากาศ ทุกวันจันทร์ และ วันอังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครทรายสีเพลิง เริ่มออกอากาศตอนแรกในวันอังคารที่ 19 สิงหาคม 2557 นี้
ที่มา ไทยรัฐ