@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร รักต้องอุ้ม ตอนทีี่ 2 วันที่ 15 ส.ค. 57

อ่านละคร รักต้องอุ้ม ตอนทีี่ 2 วันที่ 15 ส.ค. 57

เช้าวันรุ่งขึ้น เสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือของสิปาดันดังขึ้น พอลืมตาเห็นลันตานอนซุกอยู่ข้างตัว ความรู้สึกลึกๆที่ซ่อนอยู่แว่บขึ้นมานิดหนึ่ง พอลันตาขยับตัวเขารีบพลิกตัวไปอีกด้านทันที

ลันตาเอาเท้าเขี่ยที่ขาเขาปลุกให้ตื่น เขางัวเงียงอแงว่าอีกห้านาที เลยถูกเตะป้าบสั่งลุกขึ้นมาช่วยดูตาหนูตนจะไปชงนม พอชงนมมาให้ตาหนู ลันตานั่งดูตาหนูดูดนมอย่างมีความสุข สิปาดันเสนอว่าให้เอาเด็กไปสถานสงเคราะห์ดีกว่า ลันตาไม่ยอม บอกเขาว่า “เราจะเลี้ยงเขาเอง”


“เรา?!” สิปาดันทวนคำหน้าเหวอ เธอตัดบทว่าตามนั้น เขาไม่ยอม เธอย้ำว่า “ฉันจะเป็นแม่ของตาหนู ส่วนแกเป็นพ่อ” สิปาดันหน้าเหวอเหมือนถูกผีหลอก ลันตายิ้มยักคิ้วแผล็บแบบว่า ตามนั้นแหละ

สายๆ สิปาดันแต่งเครื่องแบบครึ่งท่อนจะออกไปทำงาน เขาถามลันตาว่ามานอนที่คอนโดตนทั้งคืนคุณย่าเธอรู้รึเปล่า สิ้นเสียงถามมือถือลันตาก็ดังขึ้น เธอดูหน้าจอบ่น “ไอ้สิปา แกทักทำไมวะ” แล้วทำเสียงสดชื่นรับสาย “ค่ะคุณย่า”

ลันตาถูกคุณย่าโทร.มาจับผิดถามว่าเมื่อคืนไม่ได้นอนที่บ้านใช่ไหม? ไปไหน? เธอปากแข็งว่านอน ถูกคุณย่าจับเท็จว่าเตียงไม่มีรอยยับซ้ำมุมที่ย่าพับไว้ก็ยังเป็นเหลี่ยมเก้าสิบองศาเหมือนเดิม! แต่ลันตาก็เอาตัวรอดจนได้ บอกคุณย่าว่าเมื่อคืนทำงานดึกเผลอหลับไปที่พื้น เช้านี้มีงานด่วนงานยุ่งมากเลย

“ถ้าแกไม่ได้โกหกก็เปิดแอพตามตัวให้ย่าเดี๋ยวนี้!” คุณย่าสั่ง ลันตามองสิปาดันแบบขอความช่วยเหลือ เขาไปหยิบถุงกรอบแกรบมาขยำขยี้ตรงโทรศัพท์เกิดเสียงรบกวน ลันตาทำเป็นไม่ได้ยินเสียงคุณย่าแล้วกดวางสายเลย แต่คุณย่าไม่เชื่อพึมพำว่า คิดจะหนีพ้นเหรอ จิกตาแบบต้องจับตัวมาให้ได้!

ลันตาบ่นกับสิปาดันว่าเคลียร์กับคุณย่าเหนื่อยยิ่งกว่าทำงานเป็นร้อยเท่า ถามเขาว่าวันนี้มีบินไปไหน พอรู้ว่าแค่บินไปเชียงใหม่ ย่างกุ้ง กรุงเทพฯก็บอกว่า

“งั้นมืดๆก็กลับมาแล้วใช่ไหม อย่าไปแรดที่ไหนล่ะ กลับมาช่วยกันดูแลลูก”

“ไอ้เด็กนี่ไม่ใช่ลูกฉัน แกอย่าเอาไปพูดให้คนอื่นเข้าใจผิดๆนะ”

ลันตาตัดบทว่ารีบกลับมาก็แล้วกันเพราะวันนี้ตนต้องกลับบ้าน สิปาดันถามว่าแล้วไม่ไปทำงานหรือ จึงรู้ว่าเธอลาออกแล้ว เขาถามว่าบ้าหรือเปล่าลาออกทำไมก็ไหนว่าปีนี้จะเป็นบรรณาธิการให้ได้ไม่ใช่หรือ ลันตาเสียงอ่อยว่าก็ไม่ได้อยากออก พอเขาถามว่ามีอะไรหรือเปล่า เธอเบือนหน้าหนีบอกว่าไม่มี สิปาดันจับหน้าเธอให้หันมาถาม

“ลัน...แกทำงานเป็นบ้าเป็นหลังตลอดสองปีมานี่เพราะอยากเป็น บก.ไม่ใช่เหรอ ใครทำอะไรแก...บอกฉัน”

ลันตาประสานสายตาเขาพยายามจะทำเป็นเข้มแข็งแต่แล้วทุกอย่างก็พังทลายต่อมน้ำตาแตกทะลักออกมาจนสิปาดันตกใจ กอดปลอบ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ...

ooooooo

วันนี้แพทเอาต้นฉบับไปส่งธัญญาเรศแล้วจะลาครึ่งวันไปหาลันตา แต่พอแพทจะออกไป ธัญญาเรศเรียกไว้บอกว่าต้นฉบับนี้คงไม่ได้ใช้ แพทถามว่าทำไมหรือ

“ตั้งแต่ฉบับหน้า ฉันจะยุบ Trendy trip เพราะจะเพิ่มหน้าโฆษณาตามที่ฝ่ายขายแนะนำ” แพทถามว่าแล้วจะให้ตนไปทำอะไร “คอลัมน์บิวตี้ว่างอยู่ แกทำอันนั้นก็แล้วกัน”

แพทโกรธเพราะตนทำเรื่องกินเรื่องเที่ยวมาตลอด เรื่องโป๊ะหน้ามันไม่ใช่ทางของตน บอกว่า “ฉันไม่ทำ”

“แกต้องทำ...เจ้านายสั่งมาฉันจำเป็นจริงๆ นะทำๆไปเถอะ ก็แค่งานแลกเงิน”

“ฉันทำงานแลกเงินจริง แต่จะไม่ฝืนใจทำสิ่งที่ไม่เหมาะกับฉัน ฉันไม่ทำ!”

แพทกับธัญญาเรศจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร

แพทยอมหักไม่ยอมงอ เธอไปทำงานที่สำนักพิมพ์ Sky อธิป ผู้จัดการฝ่ายผลิตแสดงความยินดีต้อนรับเธอ แจ้งเธอว่า “นอกจากเงินเดือน โบนัส เรามีเบี้ยเลี้ยงออกภาคสนาม ส่วนอุปกรณ์พวกเลนส์พิเศษเบิกใช้ของออฟฟิศได้”

อธิปแจ้งว่าจะให้เธอทำงานคู่กับนักเขียนมือต้นๆ ของที่นี่ จะได้ศึกษาวิธีการทำงานของทางนี้ ถามว่าเธอมีปัญหาไหม เธอบอกไม่มี พอดีกีรติคนที่อธิปจะให้เธอทำงานคู่กันเข้ามา พอกีรติกับแพทเห็นกันต่างก็อึ้ง อธิปถามว่ารู้จักกันแล้วหรือ

แพทฟังอธิปพูดถึงผลงานของกีรติมากมาย บอกแพทว่าเธอเป็นช่างภาพคนใหม่ ส่วนกีรติเป็นนักเขียนมือหนึ่ง เดินทางมาแล้วหลายประเทศ ประสบการณ์แน่น เขาจะช่วยสอนงานเธอได้อย่างดี ย้ำว่า คุณทั้งคู่จะเป็นคู่หูในการทำงานถ้ามีปัญหาอะไรให้รีบบอก อะไรที่เป็นอุปสรรคกับงานตนจะเคลียร์ออกหมด ถามว่ามีปัญหาไหม

แพทบอกว่าตนไม่มีปัญหา ส่วนกีรติพูดอย่างวางเขื่องว่าไม่มีปัญหาตนจะเทรนด์ให้เอง อธิปพูดยิ้มๆว่า

“ฟังกีรติอธิบายงานเสร็จแล้ว คุณก็ไปรายงานตัว ทำบัตรพนักงาน แล้วก็ฟังระเบียบในการทำงานจากฝ่ายบุคคล ที่นี่เราอยู่กันแบบสบายๆ แต่อย่านอกกรอบจนเป็นปัญหา”

“ค่ะ” แพทรับคำหวั่นๆ แล้วลุกตามกีรติไป พอไปถึงโต๊ะทำงานของแพท กีรติชี้ให้ดู แพทถามว่าตนต้องทำอะไรยังไงบ้าง ถูกกีรติเย้ยว่านี่เป็นคำถามของคนที่เคยผ่านงานนิตยสารมาแล้วหรือ? “ที่ฉันถามเพราะฉันไม่รู้ว่าไอ้ที่ฉันศึกษามาเล่มไหนที่เป็นฝีมือคุณ จะได้รู้ว่าพี่เลี้ยงที่จะสอนงานฉันเขียนหนังสือมากี่เล่ม จะมีปัญญาอะไรมาสอนฉัน”

กีรติรู้ว่ากำลังถูกแพทลองของ เขาหันไปค้นหนังสือมาสิบกว่าเล่มบอกว่าผลงานตนมีแค่นี้ไม่รู้ว่าสติปัญญาจะพอสอนเธอไหม แพทยิ้มเยาะว่า

“จำนวนที่มาก มันไม่การันตีคุณภาพหรอกนะ มันต้องดูเนื้อใน”

ทั้งสองเชือดเฉือนกันอย่างไม่มีใครยอมใคร กีรติบอกว่าเราเป็นคู่หูกัน เธอต้องรู้จักงานของตนเห็นภาพเดียวกับตน แล้วพรุ่งนี้เราจะคุยเรื่องการบ้านที่ต้องไปพรีเซนต์กับพี่อธิป แพทถามว่ามันเป็นหน้าที่ของนักเขียนไม่ใช่หรือ กีรติย้ำว่ามันเป็นหน้าที่ของ “ทีม” ถ้าเธอมีปัญหาตนคุยกับพี่อธิปได้ แพทถามว่าขู่ตนหรือ

“ผมเป็นนักเขียนที่มีเรื่องมากที่สุดแล้ว ถ้ากับผมคุณยังมีปัญหา คิดว่าพี่อธิปจะเอาคุณไว้ไหมล่ะ ถ้าไม่กลัวตกงานก็ตามใจ”

แพทมองหน้าถามว่าเขาเป็นลูกคนเล็กใช่ไหม กีรติบอกว่าใช่ ถามทำไม

“ก็ไอ้ที่คุณพยายามจะโชว์เหนือใส่ฉัน มันทำให้ฉันคิดว่าคุณคงเป็นพวกมีปม โดนกดมาทั้งชีวิตเลยต้องเก็บมาระบายใส่ทุกคนเพื่อลบปมตัวเอง”

กีรติชักสีหน้าถามว่าเธอจะเป็นช่างภาพหรือจิตแพทย์กันแน่

“แสดงว่าเป๊ะ” แพทสะใจมองหนังสือถามว่าต้องอ่านหมดใช่ไหม เขาพยักหน้า แพทยิ้มอุ้มหนังสือทั้งหมดเดินออกไป

กีรติมองตามไม่ได้โกรธแต่รู้สึกโดนใจกับความแสบของแพทมาก

ooooooo

พอสิปาดันได้ฟังลันตาเล่าเรื่องอนุชิต ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟจะไปตั๊นหน้า ลันตารั้งไว้เตือนสติว่าไม่คุ้มที่เขาจะเอาอนาคตไปแลกกับเรื่องแค่นี้

อย่าเสียมือและอย่าทำให้เสียอนาคตกัปตันที่เขามุ่งหวังเลย

“ลัน แกรักไอ้อนุชิตหรือเปล่า”

ลันตาบอกว่าเปล่า ที่คบเพราะตนไม่เคยมีแฟน กับอนุชิตก็แค่เคลิ้มๆบ้างแต่ไม่ได้รัก บอกเขาว่า

“ฉันไม่ได้ง่ายอย่างที่แกคิดหรอก” สิปาดันขยี้หัวลันตาบอกให้รอที่นี่ทำงานเสร็จจะรีบกลับมา พอลันตารับคำอือ...เขาก็ตบไหล่เธอผัวะบอกว่ามันต้องอย่างนี้สิแล้วรีบออกไปก่อนที่จะถูกลันตาเอาคืน

อ่านละคร รักต้องอุ้ม ตอนทีี่ 2 วันที่ 15 ส.ค. 57

ละครเรื่อง รักต้องอุ้ม บทประพันธ์โดย เพชรไพลิน
ละครเรื่อง รักต้องอุ้ม บทโทรทัศน์โดย เบญจธารา
ละครเรื่อง รักต้องอุ้ม กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
ละครเรื่อง รักต้องอุ้ม แนวละคร รักโรแมนติก คอเมดี้ตลกเบาสมอง
ละครเรื่อง รักต้องอุ้ม ผลิตโดย บ.เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ละครเรื่อง รักต้องอุ้ม ผู้จัดละครโดย คุณนกจริยา แอนโฟเน
ละคร รักต้องอุ้ม ออกอากาศทุกวันศุกร์-เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น.ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ